After stated this policy, from on t

After stated this policy, from on the numbers of the World Bank and the Ministry of Agriculture in the United States disclose that the last year, Thailand is in the order 3 of rice exports in the world behind India and Vietnam, which got No. 1 and 2 in order to use the status of the influence market for define the direction price to higher are the same?not just for the first time in case of the project of the government of Thailand has been pledged to push model prices of rice in the world market with a limited amount of supply of rice to the market of the Thai government, on the assumption that falseThe proportion in the Thai market in the hands of the world's rice 7% will be made for the missing of Thai rice, a major export markets are likely to affect the price of rice in the world market, but, in fact, isn't it!Also, the failure of the policy of rice pledge under the leadership of the Party to the Thai government has also come from the "the policy, the wrong time."push to match the time period of "India" have turned to relax measures limit the export of rice to foreign market Nick universes in the major rice importers, Philippines.After facing the food price crisis in the year 2008 and so expensive, and then instead of the price will be higher, it becomes a very hard fall down from the previous year in 2008, and went to more than 1,$000 (around 33,000 Baht) per ton, they fall down, and the remaining $390 (around 12,800 Baht) per ton in current
Although it is not known to the loss and damage to the actual number of projects received rice pledge, but the World Bank estimates that in the preliminary since the project started in the year 2011 the government of Thailand Thailand damage to up to 6 years,$000 million (200,000 Million baht), as the price too high, that is not sold out while the needs of the world was very low

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากนโยบายดังกล่าวนี้จากตัวเลขของธนาคารทั่วโลกและกระทรวงเกษตรในประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าปีที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 3 ของการส่งออกข้าวในโลกหลังอินเดียและเวียดนามซึ่งได้ไม่มี 1 และ 2 เพื่อที่จะใช้สถานะของการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางราคาจะสูงขึ้นเหมือนกันหรือไม่ไม่เพียง แต่เป็นครั้งแรกในกรณีที่โครงการของรัฐบาลแห่งประเทศไทยได้รับการให้คำมั่นสัญญาที่จะผลักดันราคารูปแบบของข้าวในตลาดโลกที่มีจำนวน จำกัด ของอุปทานของข้าวไปยังตลาดของรัฐบาลไทยที่บนสมมติฐานว่า falsethe สัดส่วนในตลาดไทยอยู่ในมือของโลกที่ข้าว 7% จะได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อที่ขาดหายไปของข้าวไทยที่ตลาดส่งออกที่สำคัญมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในตลาดโลก แต่ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้นอกจากนี้ยังมีความล้มเหลวของนโยบายจำนำข้าวภายใต้การนำของพรรคที่รัฐบาลไทยยังได้มา จาก "นโยบายที่ผิดเวลา"การผลักดันเพื่อให้ตรงกับช่วงเวลาของ" อินเดีย "ได้หันไปผ่อนคลายมาตรการ จำกัด การส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศในจักรวาลกรงขังผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ philippines.after เผชิญวิกฤตราคาอาหารในปี 2008 และมีราคาแพงมากแล้ว แทนราคาจะสูงขึ้นมันจะกลายเป็นเรื่องยากมากที่ล้มลงจากปีก่อนในปี 2008 และไปกว่า 1, 000 $ (ประมาณ 33,000 บาท) ต่อตันพวกเขาล้มลงและที่เหลือ $ 390 (ประมาณ 12,800 บาท) ต่อตันในปัจจุบัน
ถึงแม้มันจะไม่เป็นที่รู้จักกับการสูญเสียและความเสียหายต่อจำนวนที่เกิดขึ้นจริงของโครงการที่ได้รับจำนำข้าว แต่ประมาณการของธนาคารให้โลกรู้ว่า ในเบื้องต้นตั้งแต่โครงการเริ่มต้นในปี 2011 รัฐบาลของความเสียหายที่ประเทศไทยได้ถึง 6 ปีที่ 000 ล้านดอลลาร์ (200,000 ล้านบาท)เป็นราคาที่สูงเกินไปที่ไม่ได้ขายออกไปในขณะที่ความต้องการของโลกที่ต่ำมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปิดหลังจากระบุนโยบายนี้ จากหมายเลขของธนาคารโลกและกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาเผยว่า ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยอยู่ในลำดับ 3 ของการส่งออกข้าวในโลกหลังอินเดียและเวียดนาม ซึ่งมีหมายเลข 1 และ 2 ใช้สถานะของตลาดมีอิทธิพลกำหนดทิศทางราคาสูงเหมือนกันไม่เพียงแต่สำหรับครั้งแรก ได้มีการบริจาคเวลาในกรณีที่โครงการของรัฐบาลไทยผลักดันรุ่นราคาข้าวในตลาดโลกมีจำนวนจำกัดของอุปทานของข้าวไปยังตลาดของรัฐบาล ในที่ falseThe สัดส่วนในตลาดไทยในมือของโลกข้าว 7% จะทำการหายของข้าว, ตลาดส่งออกหลักจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในตลาดโลก แต่ จริง ไม่ได้ยัง ความล้มเหลวของนโยบายจำนำข้าวภายใต้การนำของพรรครัฐบาลไทยยังมาจากการ "นโยบาย ผิดเวลา"ผลักดันให้ตรงกับรอบระยะเวลา"อินเดีย"ได้เปิดการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการส่งออกข้าวต่างประเทศตลาดนิคโลกธาตุในผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ เผชิญวิกฤติราคาอาหารในปี 2008 และ คว้า Philippines.After แล้ว แทนราคาจะสูงกว่า มันจะตกยากลงจากปีก่อนหน้าใน 2008และไปกว่า 1, $ (ประมาณ 33, 000000 บาท ต่อตัน พวกเขาล้มลง และเหลือ $390 (ประมาณ 12,800 บาท ต่อตันในปัจจุบัน
แม้ไม่ทราบการ สูญเสียและความเสียหายจำนวนที่แท้จริงของข้าวโครงการรับจำนำ แต่ธนาคารโลกประเมินว่าในเบื้องต้นตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2554 รัฐบาลไทยไทยหายไปถึง 6 ปี, 000 ล้านดอลลาร์ (200000 ล้านบาท), เป็นราคาสูงเกินไป ที่ไม่ขายออกในขณะที่ความต้องการของโลกอยู่ในระดับต่ำมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากที่กำหนดนโยบายนี้จากตัวเลขของโลกธนาคารและกระทรวงสาธารณสุขในการทำการเกษตรในประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าปีที่ผ่านมาที่ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 3 ของการส่งออกข้าวในโลกที่อยู่เบื้องหลังประเทศอินเดียและเวียดนามที่มีหมายเลข 1 และ 2 ในการสั่งซื้อเพื่อใช้สถานะของตลาดที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางที่จะให้ราคาสูงกว่าจะเหมือนกับที่ไม่ใช่แค่เป็นครั้งแรกได้ในกรณีของโครงการของรัฐบาลของประเทศไทยได้รับการค้ำประกันในการผลักดันให้ราคารุ่นของข้าวในตลาดโลกที่มีจำนวนจำกัด(มหาชน)ของพาวเวอร์ซัพพลายของข้าวไปยังตลาดของรัฐบาลไทยที่อยู่บนสมมุติฐานที่ว่ามีสัดส่วน falsethe ในตลาดของไทยที่อยู่ในมือของข้าวของโลกที่ 7% จะทำให้การขาดหายไปของข้าวไทยตลาดส่งออกที่สำคัญที่จะส่งผลต่อราคาข้าวของในตลาดโลกแต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้!ยังมีความล้มเหลวของนโยบายนี้ของข้าว ภายใต้ การนำของพรรคให้รัฐบาลไทยที่มีมาจาก"นโยบายที่ผิดเวลาที่ยัง"ส่งให้ตรงกับที่ช่วงเวลาของ"อินเดีย"หันมาเพื่อการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการส่งออกข้าวไปตลาดต่างประเทศนิคซ้ำร้ายในที่สำคัญข้าวผู้นำเข้าจากต่างประเทศ,ฟิลิปปินส์แล้วหันหน้าเข้าหาอาหารราคาในปี 2008 และดังนั้นจึงมีราคาแพงและหลังจากนั้นแทนที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นนั้นจะกลายเป็นที่ยากมากหล่นลงจากที่ปีก่อนในปี 2008 และไปมากกว่า 1 , 000 ดอลลาร์(ประมาณ 33 ,000 บาท)ต่อตัน,พวกเขาลงและที่เหลือ$ 390 (ประมาณ 12,800 บาท)ต่อตันในปัจจุบัน
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่รู้กันว่าความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับจำนวนที่แท้จริงของโครงการรับจำนำข้าวได้รับแต่โลกธนาคารประเมินว่าในเบื้องต้นนับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2011 ที่รัฐบาลของประเทศไทยได้รับความเสียหายได้ถึง 6 ปี,$ 000 ล้านบาท( 200 , 000 ล้านบาท)เป็นราคาที่สูงเกินไปที่จะไม่มีการจำหน่ายออกไปในขณะที่ความต้องการของโลกที่อยู่ในระดับต่ำมาก