โครงการบำบัดน้ำเสียโดยใช้พืช บึงมักกะสัน กรุงเทพมหานคร พระราชดำริ : พร การแปล - โครงการบำบัดน้ำเสียโดยใช้พืช บึงมักกะสัน กรุงเทพมหานคร พระราชดำริ : พร ไทย วิธีการพูด

โครงการบำบัดน้ำเสียโดยใช้พืช บึงมัก

โครงการบำบัดน้ำเสียโดยใช้พืช บึงมักกะสัน กรุงเทพมหานคร

พระราชดำริ :
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แนวพระราชดำริ :
โครงการบำบัดน้ำเสียบึงมักกะสันอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 15 เมษายน และวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2528 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปรับปรุงบึงมักกะสัน เพื่อช่วยระบายน้ำและบรรเทาสภาพน้ำเสียในคลองสามเสน โดยใช้รูปแบบ “เครื่องกรองน้ำธรรมชาติ” ความตอนหนึ่งว่า “...บึงมักกะสันนี้ ทำโครงการที่เรียกว่าแบบคนจน โดยใช้หลักว่าผักตบชวาที่มีอยู่ทั่วไปนั้น เป็นพืชดูดความโสโครกออกมาแล้วก็ทำให้น้ำสะอาดขึ้นได้ เป็นเครื่องกรองธรรมชาติใช้พลังงานแสงอาทิตย์และธรรมชาติของการเติบโตของพืช...”
ความเป็นมาของโครงการ :
หลักการบำบัดน้ำเสียโดยการกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวา ตามแนวทฤษฎีการพัฒนาอันเนื่อง มาจากพระราชดำริ "บึงมักกะสัน"
บึงมักกะสันเป็นบึงขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งการรถไฟ แห่งประเทศไทยได้ขุดขึ้น ในปี พ.ศ. 2474 เพื่อใช้เป็นแหล่งระบายน้ำและรองรับ น้ำเสีย รวมทั้งน้ำมันเครื่องจากโรงงานรถไฟมักกะสัน ทำให้บึงมักกะสันตื้นเขิน จากการตกตะกอนของสารแขวนลอย ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็ถ่ายสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอยลงสู่บึงมักกะสัน จนเกิด ปัญหาภาวะสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมและน้ำเน่าเสียกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคแห่งหนึ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงภัยแห่งภาวะมลพิษนี้จึงได้พระราชทานพระราชดำริ โดยใช้วิธีการในรูปแบบของ "เครื่องกรองน้ำ ธรรมชาติ" กล่าวคือ ให้มีการทดลองใช้ผักตบชวา ซึ่งเป็นวัชพืชที่ต้องการกำจัดอยู่แล้วนี้ มา ทำหน้าที่ดูดซับความโสโครก รวมทั้งสารพิษจากน้ำเน่าเสีย โดยทรงเน้นให้ทำ การปรับปรุง อย่างประหยัด และไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมบึงการทำงานของระบบอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่าง พืชน้ำ ได้แก่ สาหร่าย หรือ อัลจี กับแบคทีเรีย โดยในเวลากลางวัน อัลจีซึ่งเป็น พืชน้ำสีเขียวจะทำการสังเคราะห์แสง โดยใช้คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในน้ำและแสงแดด อัลจีจะนำคาร์โบไฮเดรตไปใช้สร้างเซลล์ใหม่ ส่วนออกซิเจนที่เป็นผลพลอยได้นั้น ก็จะถูกแบคที่เรียนำ ไปใช้ในการย่อยสลายน้ำเสีย ซึ่งผลของปฏิกิริยานี้จะได้ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการ ดำรงชีพของอัลจี ดังนั้น อัลจี และแบคทีเรียจึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันได้ โดยต่างพึ่งพาอาศัยกันและกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปรียบเทียบว่า "บึงมักกะสัน" เป็นเสมือนดั่ง "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานคร ที่เป็นแหล่งเก็บกักและระบายน้ำในฤดูฝน นอกจากนี้ ยังมีผลพลอยได้หลายอย่างเช่น ปุ๋ย เชื้อเพลิง เยื่อสานจากผักตบชวาและการปลูกพืชน้ำอื่นๆ เช่น ผักบุ้ง เป็นต้น รวมทั้งการเลี้ยงปลาด้วย โดยมิได้มีพระราชประสงค์จะทำให้เป็น สวนสาธารณะแต่อย่างใด บึงมักกะสันจึงเป็นบึงที่สร้างภาวะแวดล้อมด้วยวิธีธรรมชาติ เรียบง่าย ประหยัด และที่สำคัญเป็น แหล่งค้นคว้าทดลองที่พระราชทานเพื่อปวงประชา จักได้มีสุขถ้วนทั่วหน้ากัน การพัฒนาบึงมักกะสันจึงนับเป็นความสำเร็จที่เกิดจาก พระปรีชาสามารถในเชิงวิชาการด้านนิเวศวิทยาและการแก้ไขปัญหาภาวะมลพิษทางน้ำ ด้วย สายพระเนตรที่ยาวไกล จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง แก่ชาวไทยทั้งมวล

ที่ตั้งของโครงการ :
ตำบล ห้วยขวาง อำเภอ เขตห้วยขวาง จังหวัด กรุงเทพมหานคร
วัตถุประสงค์ :
1. เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบพืชกรองน้ำเสียให้ กับหน่วยงานต่างๆ และประชาชนผู้ที่สนใจนำไปใช้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมและแพร่หลาย
2. เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านน้ำเสียชุมชน ด้วยเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียด้วยการใช้ระบบพืชกรองน้ำเสีย
3. เพื่อพัฒนารูปแบบเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบพืชกรองน้ำเสีย ให้สามารถนำไปปฏิบัติโดยประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

หน่วยงานผู้ดำเนินงาน :
-
การดำเนินงาน :
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำบ่อดินขนาดความลึก 0.5 – 2 เมตร ใส่ผักตบชวาเป็นตัวดูดซับสารอาหารและโลหะหนัก โดยมีการเปลี่ยนผักตบชวาทุก 10 สัปดาห์ สามารถบำบัดน้ำเสียได้วันละ 30,000-100,000 ลูกบาศก์เมตร และต่อมามีการเสริมเครื่องเติมอากาศแบบทุ่นลอยร่วมบำบัดด้วย ทำให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้ วันละ 260,000 ลูกบาศก์เมตร
การพัฒนาและปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียบึงมักกะสัน จากการที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยดำเนินการก่อสร้างทางด่วนมหานครขั้น 2 ระยะที่ 1 โดยมีแนวผ่านบึงมักกะสันและมีตอม่อโครงสร้างอยู่กลางบึง ทำให้น้ำในบึง ไม่ถูกแสงแดด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระราชดำริให้ใช้เครื่องพ่นอากาศเข้าช่วย มูลนิธิชัยพัฒนาและกรุงเทพมหานครจึงรับสนองพระราชดำริ ในการปรับปรุงบึงมักกะสัน เพื่อให้สามารถฟอก น้ำในคลองสามเสนให้สะอาดขึ้น วันละ 260,000 ลูกบาศก์เมตร ด้วยการใช้เครื่องเติมอากาศแบบทุ่นลอย ผสมกับ การใช้ผักตบชวา ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียได้เพิ่มจากเดิม10 เท่า โดยมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นผู้จัดหา และติดตั้งเครื่องเติมอากาศ ขนาด 11 KW จำนวน 10 เครื่องและกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกบึงพร้อมทั้งติดตั้ง เครื่องสูบน้ำและปลูกผักตบชวา
สำหรับน้ำที่ใสสะอาดขึ้นนี้ให้ระบายออกสู่คลองธรรมชาติตามเดิม แล้วรับน้ำเสียจำนวนใหม่มาดำเนินการผ่านกรรมวิธีเป็นวงจร เช่นนี้ตลอดไปในอนาคตเมื่อการกำจัดน้ำเน่าเสียด้วยผักตบชวาในบึงมักกะสันแห่งนี้ ได้ผลดี ก็จะได้นำไป ใช้เป็น แบบอย่างในการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียที่แหล่งน้ำ หรือลำคลองอื่นต่อไปซึ่งในขณะนี้กรุงเทพมหานครและการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นหน่วยงานหลักในการใช้ประโยชน์ และดูแลรักษาบึงแห่งนี้ให้คงมีสภาพที่ดีสืบไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปรียบเทียบว่า "บึงมักกะสัน" เป็นเสมือนดั่ง "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานคร ที่เป็นแหล่งเก็บกักและระบายน้ำในฤดูฝน นอกจากนี้ ยังมีผลพลอยได้หลายอย่างเช่น ปุ๋ย เชื้อเพลิง เยื่อสานจากผักตบชวาและการปลูกพืชน้ำอื่นๆ เช่น ผักบุ้ง เป็นต้น รวมทั้งการเลี้ยงปลาด้วย โดยมิได้มีพระราชประสงค์จะทำให้เป็น สวนสาธารณะแต่อย่างใด บึงมักกะสันจึงเป็นบึงที่สร้างภาวะแวดล้อมด้วยวิธีธรรมชาติ เรียบง่าย ประหยัด และที่สำคัญเป็น แหล่งค้นคว้าทดลองที่พระราชทานเพื่อปวงประชา จ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ภายหลังบึงมักกะสันโครงการบำบัดน้ำเสียโดยใช้พืช พระราชดำริ: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแนวพระราชดำริ:โครงการบำบัดน้ำเสียบึงมักกะสันอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อวันที่ 15 เมษายนและวันที่ 20 เมษายนพ.ศ. 2528 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปรับปรุงบึงมักกะสันเพื่อช่วยระบายน้ำและบรรเทาสภาพน้ำเสียในคลองสามเสนโดยใช้รูปแบบ "เครื่องกรองน้ำธรรมชาติ" ความตอนหนึ่งว่า... บึงมักกะสันนี้ทำโครงการที่เรียกว่าแบบคนจนโดยใช้หลักว่าผักตบชวาที่มีอยู่ทั่วไปนั้นเป็นพืชดูดความโสโครกออกมาแล้วก็ทำให้น้ำสะอาดขึ้นได้เป็นเครื่องกรองธรรมชาติใช้พลังงานแสงอาทิตย์และธรรมชาติของการเติบโตของพืช..."ความเป็นมาของโครงการ:หลักการบำบัดน้ำเสียโดยการกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวาตามแนวทฤษฎีการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ "บึงมักกะสัน"บึงมักกะสันเป็นบึงขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ขุดขึ้นในปีพ.ศ. 2474 เพื่อใช้เป็นแหล่งระบายน้ำและรองรับน้ำเสียรวมทั้งน้ำมันเครื่องจากโรงงานรถไฟมักกะสันทำให้บึงมักกะสันตื้นเขินจากการตกตะกอนของสารแขวนลอยครัวเรือนซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็ถ่ายสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอยลงสู่บึงมักกะสันจนเกิดปัญหาภาวะสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมและน้ำเน่าเสียกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคแห่งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงภัยแห่งภาวะมลพิษนี้จึงได้พระราชทานพระราชดำริโดยใช้วิธีการในรูปแบบของ "เครื่องกรองน้ำธรรมชาติ" กล่าวคือให้มีการทดลองใช้ผักตบชวาซึ่งเป็นวัชพืชที่ต้องการกำจัดอยู่แล้วนี้มาทำหน้าที่ดูดซับความโสโครกรวมทั้งสารพิษจากน้ำเน่าเสียโดยทรงเน้นให้ทำการปรับปรุงอย่างประหยัดและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมบึงการทำงานของระบบอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างพืชน้ำได้แก่สาหร่ายหรืออัลจีกับแบคทีเรียโดยในเวลากลางวันอัลจีซึ่งเป็นพืชน้ำสีเขียวจะทำการสังเคราะห์แสงโดยใช้คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในน้ำและแสงแดดอัลจีจะนำคาร์โบไฮเดรตไปใช้สร้างเซลล์ใหม่ส่วนออกซิเจนที่เป็นผลพลอยได้นั้นก็จะถูกแบคที่เรียนำไปใช้ในการย่อยสลายน้ำเสียซึ่งผลของปฏิกิริยานี้จะได้คาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการดำรงชีพของอัลจีดังนั้นอัลจีและแบคทีเรียจึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันได้โดยต่างพึ่งพาอาศัยกันและกันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปรียบเทียบว่า "บึงมักกะสัน" เป็นเสมือนดั่ง "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานครที่เป็นแหล่งเก็บกักและระบายน้ำในฤดูฝนนอกจากนี้ยังมีผลพลอยได้หลายอย่างเช่นปุ๋ยเชื้อเพลิงเยื่อสานจากผักตบชวาและการปลูกพืชน้ำอื่น ๆ เช่นผักบุ้งเป็นต้นรวมทั้งการเลี้ยงปลาด้วยโดยมิได้มีพระราชประสงค์จะทำให้เป็นสวนสาธารณะแต่อย่างใดบึงมักกะสันจึงเป็นบึงที่สร้างภาวะแวดล้อมด้วยวิธีธรรมชาติเรียบง่ายประหยัดและที่สำคัญเป็นแหล่งค้นคว้าทดลองที่พระราชทานเพื่อปวงประชาจักได้มีสุขถ้วนทั่วหน้ากันการพัฒนาบึงมักกะสันจึงนับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากพระปรีชาสามารถในเชิงวิชาการด้านนิเวศวิทยาและการแก้ไขปัญหาภาวะมลพิษทางน้ำด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกลจึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งแก่ชาวไทยทั้งมวล ที่ตั้งของโครงการ:ตำบลห้วยขวางตำบลเขตห้วยขวางจังหวัดภายหลังวัตถุประสงค์:1. เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบพืชกรองน้ำเสียให้กับหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนผู้ที่สนใจนำไปใช้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมและแพร่หลาย2. เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านน้ำเสียชุมชนด้วยเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียด้วยการใช้ระบบพืชกรองน้ำเสีย3. เพื่อพัฒนารูปแบบเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบพืชกรองน้ำเสียให้สามารถนำไปปฏิบัติโดยประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หน่วยงานผู้ดำเนินงาน: -การดำเนินงาน:หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำบ่อดินขนาดความลึก 0.5 – 2 เมตรใส่ผักตบชวาเป็นตัวดูดซับสารอาหารและโลหะหนักโดยมีการเปลี่ยนผักตบชวาทุก 10 สัปดาห์ 30,000-100,000 สามารถบำบัดน้ำเสียได้วันละลูกบาศก์เมตรและต่อมามีการเสริมเครื่องเติมอากาศแบบทุ่นลอยร่วมบำบัดด้วยทำให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้วันละ 260,000 ลูกบาศก์เมตรการพัฒนาและปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียบึงมักกะสันจากการที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยดำเนินการก่อสร้างทางด่วนมหานครขั้น 2 ระยะที่ 1 โดยมีแนวผ่านบึงมักกะสันและมีตอม่อโครงสร้างอยู่กลางบึงทำให้น้ำในบึงไม่ถูกแสงแดดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระราชดำริให้ใช้เครื่องพ่นอากาศเข้าช่วยมูลนิธิชัยพัฒนาและกรุงเทพมหานครจึงรับสนองพระราชดำริในการปรับปรุงบึงมักกะสันเพื่อให้สามารถฟอกน้ำในคลองสามเสนให้สะอาดขึ้นวันละ 260,000 ลูกบาศก์เมตรด้วยการใช้เครื่องเติมอากาศแบบทุ่นลอยผสมกับการใช้ผักตบชวา ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียได้เพิ่มจากเดิม10 เท่าโดยมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นผู้จัดหาและติดตั้งเครื่องเติมอากาศขนาด 11 KW จำนวน 10 เครื่องและกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกบึงพร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและปลูกผักตบชวาสำหรับน้ำที่ใสสะอาดขึ้นนี้ให้ระบายออกสู่คลองธรรมชาติตามเดิม แล้วรับน้ำเสียจำนวนใหม่มาดำเนินการผ่านกรรมวิธีเป็นวงจร เช่นนี้ตลอดไปในอนาคตเมื่อการกำจัดน้ำเน่าเสียด้วยผักตบชวาในบึงมักกะสันแห่งนี้ ได้ผลดี ก็จะได้นำไป ใช้เป็น แบบอย่างในการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียที่แหล่งน้ำ หรือลำคลองอื่นต่อไปซึ่งในขณะนี้กรุงเทพมหานครและการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นหน่วยงานหลักในการใช้ประโยชน์ และดูแลรักษาบึงแห่งนี้ให้คงมีสภาพที่ดีสืบไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปรียบเทียบว่า "บึงมักกะสัน" เป็นเสมือนดั่ง "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานคร ที่เป็นแหล่งเก็บกักและระบายน้ำในฤดูฝน นอกจากนี้ ยังมีผลพลอยได้หลายอย่างเช่น ปุ๋ย เชื้อเพลิง เยื่อสานจากผักตบชวาและการปลูกพืชน้ำอื่นๆ เช่น ผักบุ้ง เป็นต้น รวมทั้งการเลี้ยงปลาด้วย โดยมิได้มีพระราชประสงค์จะทำให้เป็น สวนสาธารณะแต่อย่างใด บึงมักกะสันจึงเป็นบึงที่สร้างภาวะแวดล้อมด้วยวิธีธรรมชาติ เรียบง่าย ประหยัด และที่สำคัญเป็น แหล่งค้นคว้าทดลองที่พระราชทานเพื่อปวงประชา จ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
โครงการบำบัดคุณน้ำเสียโดยใช้พืชบึงมักกะสันกรุงเทพมหานคร

ที่คุณพระราชดำริ:
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แนวที่คุณพระราชดำริ:
โครงการบำบัดน้ำเสียบึงมักกะสันอันเนื่อง มาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อวันที่ 15 เมษายนและวันที่ 20 เมษายนพ . ศ 2528 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปรับปรุงบึง มักกะสันเพื่อช่วยระบายน้ำและบรรเทาสภาพน้ำเสียในคลองสามเสนโดยใช้รูปแบบ "เครื่องกรองน้ำธรรมชาติ" ความตอนหนึ่งว่า " ... บึงมักกะสันนี้ทำโครงการที่เรียกว่า แบบคนจน โดยใช้หลักว่าผักตบชวาที่มีอยู่ ทั่วไปนั้นเป็นพืชดูดความโสโครกออกมาแล้วก็ทำให้น้ำสะอาดขึ้นได้เป็นเครื่องกรองธรรมชาติใช้พลังงานแสงอาทิตย์และธรรมชาติของการเติบโตของพืช ... "
ความเป็นมาของโครงการ:
หลักการบำบัด น้ำเสียโดยการกรองน้ำเสียด้วย ผักตบชวาตามแนวทฤษฎีการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ "บึงมักกะสัน"
บึงมักกะสันเป็นบึงขนาดใหญ่ที่อยู่ ใจกลางกรุงเทพมหานครซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ขุดขึ้นในปี พ.ศ. 2474 เพื่อใช้เป็นแหล่งระบายน้ำและรองรับ น้ำเสียรวมทั้งน้ำมันเครื่องจากโรงงานรถไฟมักกะสันทำให้บึงมักกะสันตื้นเขินจากการตกตะกอนของสารแขวนลอยครัวเรือนซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็ถ่ายสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอยลงสู่บึงมักกะสันจนเกิดปัญหาภาวะสิ่งแวดล้อม เสื่อมโทรมและคุณน้ำเน่าเสียกลายเป็นทางคดีแหล่งเพาะเชื้อโรคแห่งคุณหนึ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคุณทรงตระหนักถึงภัยแห่งภาวะมลพิษนี้จึงได้พระราชทานที่คุณพระราชดำริโดยใช้วิธีหัวเรื่อง: การในห้างหุ้นส่วนจำกัดรูปแบบของ "เครื่องกรองน้ำธรรมชาติ" กล่าวคือให้มีการทดลองใช้ผักตบชวา ซึ่งเป็นวัชพืชที่ต้องการกำจัดอยู่แล้ว นี้มาทำหน้าที่ดูดซับความโสโครกรวมทั้งสารพิษจากน้ำเน่าเสียโดยทรงเน้นให้ทำการปรับปรุงอย่างประหยัดและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมบึงการทำงานของ ระบบอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างพืช น้ำ ได้แก่ สาหร่ายหรืออัลจีกับแบคทีเรียโดยในเวลากลางวันอัลจีซึ่งเป็นพืชน้ำสีเขียวจะทำการสังเคราะห์แสงโดยใช้คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในน้ำและแสงแดดอัลจีจะ นำคาร์โบไฮเดรตไปใช้สร้างเซลล์ใหม่ส่วน ออกซิเจนที่เป็นผลพลอยได้นั้นก็จะถูกแบคที่เรียนำไปใช้ในการย่อยสลายน้ำเสียซึ่งผลของปฏิกิริยานี้จะได้คาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการดำรงชีพของอัลจีดังนั้น อัลจีและแบคทีเรียจึงสามารถดำรง ชีวิตอยู่ร่วมกันได้โดยต่างพึ่งพาอาศัยกันและกันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปรียบเทียบว่า "บึงมักกะสัน" เป็นเสมือนดั่ง "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานครที่เป็นแหล่งเก็บกักและ ระบายน้ำในฤดูฝนนอกจากนี้ ยังมีผลพลอยได้หลายอย่างเช่นปุ๋ยเชื้อเพลิง เยื่อสานจากผักตบชวาและการปลูกพืชน้ำอื่น ๆ เช่นผักบุ้งเป็นต้นรวมทั้งการเลี้ยงปลาด้วยโดยมิได้มีพระราชประสงค์จะทำให้เป็นสวนสาธารณะ แต่อย่างใดบึงมักกะสันจึงเป็นบึงที่สร้างภาวะ แวดล้อมด้วยวิธีธรรมชาติเรียบง่ายประหยัดและ ที่สำคัญเป็นแหล่งค้นคว้าทดลองที่พระราชทานเพื่อปวงประชาจักได้มีสุขถ้วนทั่วหน้ากันการพัฒนาบึงมักกะสันจึงนับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากพระปรีชาสามารถในเชิงวิชาการด้านนิเวศวิทยาและการแก้ไข ภาวะมลพิษปฐมวัยทางคุณน้ำด้วยคุณสายพระเนตรที่ยาวไกลจึงนับเป็นที่คุณพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งแก่ชาวไทย English ทั้งมวล

ที่ตั้งของโครงการ:
ตำบลห้วยขวางอำเภอเขตห้วยขวางจังหวัดกรุงเทพมหานคร
วัตถุประสงค์:
1. เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่เทคโนโลยีการบำบัดน้ำ เสียด้วยระบบพืช กรองน้ำเสียให้กับหน่วยงานต่างๆ และประชาชนผู้ที่สนใจนำไปใช้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมและแพร่หลาย
2. เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านน้ำเสียชุมชน ด้วยเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียด้วยการใช้ระบบพืชกรองน้ำเสีย
3. เพื่อพัฒนา รูปแบบเทคโนโลยีหัวเรื่อง: การบำบัดคุณน้ำเสียด้วยระบบผู้ซื้อสินค้าพืชกรองคุณน้ำเสียให้ด้านนำไปปฏิบัติโดยประหยัดค่าใช้จ่ายและด้านนำไปใช้ประโยชน์ได้

หน่วยงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุณผู้ดำเนินงานเจ้าหน้าที่ฝ่าย:
-
การดำเนินงาน:
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำ บ่อ ดินขนาดความลึก 0.5-2 เมตรใส่ผักตบชวาเป็นตัวดูดซับสาร อาหารและโลหะหนักโดยมีการเปลี่ยนผักตบชวาทุก 10 สัปดาห์สามารถบำบัดน้ำเสียได้วันละ 30,000-100,000 ลูกบาศก์เมตรและต่อมามีการเสริม เครื่องเติมอากาศแบบทุ่น ลอยร่วมบำบัดด้วยทำให้สามารถบำบัดน้ำ เสียได้วันละ 260,000 ลูกบาศก์เมตรปรับแรง
หัวเรื่อง: การพัฒนาและปรับปรุงระบบผู้ซื้อสินค้าบำบัดคุณน้ำเสียบึงมักกะสันจากเนชั่หัวเรื่อง: การที่หัวเรื่อง: การทางพิเศษแห่งประเทศไทยดำเนินหัวเรื่อง: การก่อสร้างทางด่วนมหานครขั้นที่ 2 ระยะที่ 1 โดยมีแนวผ่านบึงมักกะสันและมี ตอม่อโครงสร้างอยู่กลางบึงทำให้น้ำใน บึงไม่ถูกแสงแดดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระราชดำริให้ใช้เครื่องพ่นอากาศเข้าช่วยมูลนิธิชัยพัฒนาและกรุงเทพมหานครจึงรับสนองพระราชดำริในการปรับปรุงบึงมักกะสันเพื่อให้สามารถฟอกน้ำในคลองสามเสน ให้สะอาดขึ้นวันละ 260,000 ลูกบาศก์เมตรด้วยการใช้เครื่องเติมอากาศ แบบทุ่นลอยผสมกับการใช้ผักตบชวาซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียได้เพิ่มจากเดิม 10 เท่าโดยมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นผู้จัดหา และติดตั้งเครื่องเติมอากาศขนาด 11 กิโลวัตต์จำนวน 10 เครื่องและกรุงเทพมหานครเป็นคุณผู้ดำเนินหัวเรื่อง: การขุดลอกบึงพร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบคุณน้ำและปลูกผักตบชวา
สำหรับคุณน้ำที่ใสสะอาดขึ้นนี้ให้ระบายออกสู่คลองธรรมชาติตามเดิมแล้วรับคุณน้ำเสียจำนวนใหม่มาดำเนินหัวเรื่อง: การทางทหารผ่านกรรมวิธีเป็นวงจรเช่น นี้ตลอดไปในอนาคตเมื่อการกำจัด น้ำเน่าเสียด้วยผักตบชวาในบึงมักกะสันแห่งนี้ได้ผลดีก็จะได้นำไปใช้เป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียที่แหล่งน้ำหรือลำคลองอื่นต่อไปซึ่งในขณะนี้กรุงเทพมหานครและ การรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมเป็นหน่วยงาน หลักในการใช้ประโยชน์และดูแลรักษาบึงแห่งนี้ให้คงมีสภาพที่ดีสืบไปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปรียบเทียบว่า "บึงมักกะสัน" เป็นเสมือนดั่ง "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานครที่เป็นแหล่งเก็บกัก และระบายน้ำในฤดูฝนนอกจากนี้ ยังมีผลพลอยได้หลายอย่างเช่นปุ๋ยเชื้อเพลิงเยื่อสานจากผักตบชวาและการปลูกพืชน้ำอื่น ๆ เช่นผักบุ้งเป็นต้นรวมทั้งการเลี้ยงปลาด้วยโดยมิได้มีพระราชประสงค์จะทำให้เป็นสวนสาธารณะ แต่อย่างใด บึงมักกะสันจึงเป็นบึงที่สร้างภาวะ แวดล้อมด้วยวิธีธรรมชาติเรียบง่ายประหยัดและที่สำคัญเป็นแหล่งค้นคว้าทดลองที่พระราชทานเพื่อปวงประชาจ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: