At the outset of the 19th century,

At the outset of the 19th century, Great Britain was locked in a long and bitter conflict with Napoleon Bonaparte’s France. In an attempt to cut off supplies from reaching the enemy, both sides attempted to block the United States from trading with the other. In 1807, Britain passed the Orders in Council, which required neutral countries to obtain a license from its authorities before trading with France or French colonies. The Royal Navy also outraged Americans by its practice of impressment, or removing seamen from U.S. merchant vessels and forcing them to serve on behalf of the British. In 1809, the U.S. Congress repealed Thomas Jefferson’s unpopular Embargo Act, which by restricting trade had hurt Americans more than either Britain or France. Its replacement, the Non-Intercourse Act, specifically prohibited trade with Britain and France. It also proved ineffective, and in turn was replaced with a May 1810 bill stating that if either power dropped trade restrictions against the United States, Congress would in turn resume non-intercourse with the opposing power. After Napoleon hinted he would stop restrictions, President James Madison blocked all trade with Britain that November. Meanwhile, new members of Congress elected that year–led by Henry Clay and John C. Calhoun–had begun to agitate for war, based on their indignation over British violations of maritime rights as well as Britain’s encouragement of Native American hostility against American expansion in the West.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่มือของศตวรรษที่ 19 สหราชอาณาจักรถูกล็อกความขัดแย้งยาวนาน และขมกับนโปเลียนโบนาปาร์ตของฝรั่งเศส ในความพยายามที่จะตัดอุปกรณ์เข้าถึงศัตรู ทั้งสองฝ่ายพยายามบล็อกสหรัฐอเมริกาจากการค้าขายกับอีก ใน 1807 สหราชอาณาจักรผ่านใบสั่งในสภา ซึ่งจำเป็นประเทศเป็นกลางเพื่อขอรับใบอนุญาตจากหน่วยงานของก่อนค้าขายกับอาณานิคมฝรั่งเศสหรือฝรั่งเศส ราชนาวียัง outraged ชาวอเมริกัน โดย impressment หรือเอาชาวจากเรือพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา และบังคับให้พวกเขาเพื่อให้บริการในนามของอังกฤษ ใน 1809 สภาสหรัฐฯ repealed Thomas Jefferson เติบ Embargo บัญญัติ ซึ่ง ด้วยการจำกัดทางการค้ามีเจ็บชาวอเมริกันมากกว่าอังกฤษ หรือฝรั่งเศส การแทน การมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่กระทำ ห้ามค้ากับสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสโดยเฉพาะ มันยัง พิสูจน์ผล และจะถูกแทนที่ ด้วยรายการ 1810 พฤษภาคมระบุที่ถ้าพลังงานใดหลุดข้อจำกัดทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา สภาจะจะดำเนินต่อไปไม่ใช่มีเพศสัมพันธ์กับอำนาจฝ่ายตรงข้าม หลังจากที่นโปเลียนประจำเขาจะหยุดจำกัด เมดิสันประธานาธิบดี James ถูกบล็อคทั้งหมดค้ากับอังกฤษที่พฤศจิกายน ในขณะเดียวกัน สมาชิกใหม่รัฐสภาเลือกที่ปี – นำ โดยเฮนรีเคลย์และจอห์น C. Calhoun – เริ่มก่อกวนในสงคราม ยึดของ indignation ผ่านอังกฤษละเมิดสิทธิทางทะเลรวมทั้งสหราชอาณาจักรสนับสนุนศัตรูอเมริกันดั้งเดิมกับขยายอเมริกันตะวันตก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เริ่มแรกของศตวรรษที่ 19 สหราชอาณาจักรถูกขังอยู่ในความขัดแย้งที่ยาวนานและขมขื่นกับฝรั่งเศสของนโปเลียนมหาราช ในความพยายามที่จะตัดออกจากการเข้าถึงอุปกรณ์ศัตรูทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะขัดขวางสหรัฐอเมริกาจากการซื้อขายกับคนอื่น ๆ 1807 ในสหราชอาณาจักรผ่านการสั่งซื้อในสภาซึ่งจำเป็นต้องมีประเทศที่เป็นกลางที่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะซื้อขายกับฝรั่งเศสหรืออาณานิคมของฝรั่งเศส กองทัพเรือยังโกรธชาวอเมริกันโดยการปฏิบัติของ impressment หรือถอดลูกเรือจากลำเรือสหรัฐและบังคับให้พวกเขาที่จะให้บริการในนามของอังกฤษ ใน 1809 ที่รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกายกเลิกห้ามกระทำไม่เป็นที่นิยมของโทมัสเจฟเฟอร์สันซึ่งโดยการ จำกัด การค้าได้ทำร้ายชาวอเมริกันมากขึ้นกว่าทั้งอังกฤษหรือฝรั่งเศส แทนที่พระราชบัญญัติไม่สนธิค้าต้องห้ามโดยเฉพาะกับอังกฤษและฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังได้รับการพิสูจน์ไม่ได้ผลและในทางกลับถูกแทนที่ด้วยการเรียกเก็บเงินพฤษภาคม 1810 ระบุว่าถ้าพลังงานปรับตัวลดลงทั้งข้อ จำกัด ทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาสภาคองเกรสจะเปิดดำเนินการที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ที่มีอำนาจของฝ่ายตรงข้าม หลังจากที่นโปเลียนพูดเป็นนัย ๆ ว่าเขาจะหยุดข้อ จำกัด ประธานเจมส์เมดิสันที่ถูกปิดกั้นการค้ากับอังกฤษในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่สมาชิกใหม่ของสภาคองเกรสได้รับการเลือกตั้งในปีนั้นนำโดยเฮนรีนวลและจอห์นซี-ได้เริ่มรณรงค์สำหรับการทำสงครามบนพื้นฐานของความไม่พอใจของพวกเขามากกว่าการละเมิดอังกฤษของสิทธิทางทะเลเช่นเดียวกับการให้กำลังใจของสหราชอาณาจักรของความเป็นศัตรูของชาวอเมริกันพื้นเมืองกับการขยายตัวในอเมริกา ตะวันตก.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่เริ่มต้นของศตวรรษที่ 19 อังกฤษถูกขังอยู่ในความขัดแย้งที่ยาวนานและขมขื่นกับนโปเลียน โบนาปาร์ตของฝรั่งเศส ในความพยายามที่จะตัดการส่งเสบียงจากการเข้าถึงศัตรู ทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะปิดกั้นสหรัฐอเมริกาจากการซื้อขายกับอื่น ๆ ในปี 1815 สหราชอาณาจักรผ่านคำสั่งในสภาซึ่งเป็นประเทศเป็นกลาง เพื่อขอรับใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน การค้ากับอาณานิคมฝรั่งเศส หรือ ฝรั่งเศส ทัพเรือยังข่มขืนชาวอเมริกันโดยการปฏิบัติของ ประทับใจ หรือเอาลูกเรือจากเรือพาณิชย์สหรัฐ และบังคับให้พวกเขาที่จะให้บริการในนามของอังกฤษ ใน 1256 , รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกายกเลิกของโทมัสเจฟเฟอร์สันไม่ห้ามทำซึ่งจำกัดการค้าทำร้ายชาวอเมริกันมากขึ้นกว่าทั้งอังกฤษหรือฝรั่งเศส แทนของ ไม่ใช่สนธิทำ โดยเฉพาะห้ามการค้าขายกับอังกฤษและฝรั่งเศส มันยังพิสูจน์ไม่ได้ และจะถูกแทนที่ด้วยอาจ 1810 บิลระบุว่า ถ้าให้พลังลดลง การค้า จำกัด จากสหรัฐอเมริการัฐสภาจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ใช่พลังงาน หลังจากที่นโปเลียนบอกใบ้เขาอาจหยุดจำกัด , ประธานเจมส์เมดิสันปิดกั้นทุกการค้ากับอังกฤษที่พฤศจิกายน ในขณะเดียวกัน สมาชิกใหม่ของรัฐสภาได้รับการเลือกตั้งในปีนั้น แอลอีดี โดย เฮนรี เคลย์ และ จอห์น โฮล์ม และ ก็เริ่มเกิดสงครามจากความไม่พอใจของพวกเขามากกว่าการละเมิดสิทธิทางทะเลของอังกฤษเช่นเดียวกับอังกฤษให้กําลังใจของความเป็นปรปักษ์ต่อต้านอเมริกันพื้นเมืองอเมริกันขยายทางทิศตะวันตก