As regulators seek to ensure the sa

As regulators seek to ensure the safety of medical devices; it
becomes ever-more clear that materials processing, beyond simply
a given raw material, dictates how the final devices will behave.
During both 3D printing and exposure to ionizing radiation, good
laboratory practices will have to be followed and very specific parameters
will have to be documented and evaluated, if the thermomechanical
properties are to be the consistently produced from
device to device. A hypothetical case: Next generation medical
devices are 3D printed from viscoelastic polymers or shape memory
polymers near their Tg at body temperature. Differences in the
ambient temperature where these devices are being printed could
lead to very different network structures that may affect device
performance. This presents an interesting challenge for regulatory
agencies which must ensure that companies have shown that the
final device is safe; which in the case of 3D printing is relative to the
chosen materials and manufacturing techniques. Thus our results
would encourage material providers and 3D printer companies to
provide robust data sets and well-studied parameter ranges with
respect to at least print temperature, radiation temperature, dose,dose rate and starting molecular weight. An approach like the one
described above can help enhance the next generation of personalized
medical devices.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นหน่วยงานกำกับดูแลแสวงหาเพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์การแพทย์ มันกลายเป็น อีกเคยล้างที่วัสดุการประมวลผล อื่น ๆ เพียงแค่วัตถุดิบที่กำหนด บอกวิธีอุปกรณ์สุดท้ายจะทำงานในระหว่างการพิมพ์ 3 มิติและสัมผัสกับโอโซนรังสี ดีห้องปฏิบัติการปฏิบัติจะต้องมีพารามิเตอร์ตาม และเฉพาะเจาะจงมากจะมีการจัดทำเอกสาร และ ประเมิน ถ้าคืนนี้คุณสมบัติจะได้ รับการผลิตอย่างต่อเนื่องจากอุปกรณ์ต่ออุปกรณ์ กรณีสมมุติ: แพทย์รุ่นต่อไปอุปกรณ์ที่พิมพ์จากโพลิเมอร์ viscoelastic หรือหน่วยความจำรูปทรง 3Dโพลิเมอร์ใกล้ Tg ที่อุณหภูมิร่างกายของพวกเขา ความแตกต่างในการอุณหภูมิที่กำลังพิมพ์อุปกรณ์เหล่านี้สามารถนำไปสู่โครงสร้างเครือข่ายที่แตกต่างกันมากซึ่งอาจมีผลต่ออุปกรณ์การทำงาน นี้นำเสนอความท้าทายน่าสนใจสำหรับการกำกับดูแลหน่วยงานซึ่งต้องแน่ใจว่า บริษัทได้แสดงให้เห็นว่าการอุปกรณ์สุดท้ายคือปลอดภัย ซึ่งในกรณีของการพิมพ์ 3 มิติจะสัมพันธ์กับการเลือกวัสดุและเทคนิคการผลิต ดังนั้นผลของเราจะสนับสนุนให้ผู้วัสดุและบริษัทเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพื่อชุดข้อมูลที่แข็งแกร่งและช่วงของพารามิเตอร์ที่ศึกษาดีด้วยเคารพการพิมพ์อุณหภูมิ อุณหภูมิรังสี ยา ราคายา และเริ่มต้นน้ำหนักโมเลกุลน้อย วิธีการเช่นเดียวอธิบายไว้ข้างต้นสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนบุคคลอุปกรณ์การแพทย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลพยายามที่จะมั่นใจในความปลอดภัยของอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้น มัน
จะกลายเป็นที่เคยมากขึ้นชัดเจนว่าวัสดุการประมวลผลมากกว่าแค่การ
เป็นวัตถุดิบให้สั่งการอุปกรณ์สุดท้ายจะทำงาน.
ในช่วงทั้งการพิมพ์ 3 มิติและการสัมผัสกับรังสีดี
ปฏิบัติการจะต้องมีการติดตามและพารามิเตอร์ที่เฉพาะเจาะจงมาก
จะต้อง ได้รับการบันทึกและประเมินผลหาก thermomechanical
คุณสมบัติจะได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องจาก
อุปกรณ์ต่ออุปกรณ์ กรณีสมมุติแพทย์รุ่นถัดไป
อุปกรณ์ 3D พิมพ์จากโพลีเมอ viscoelastic หรือรูปร่างหน่วยความจำ
โพลิเมอร์ใกล้ Tg ของพวกเขาที่อุณหภูมิของร่างกาย ความแตกต่างใน
อุณหภูมิที่อุปกรณ์เหล่านี้จะถูกพิมพ์สามารถ
นำไปสู่โครงสร้างเครือข่ายที่แตกต่างกันมากที่อาจมีผลต่ออุปกรณ์
ประสิทธิภาพ นี้นำเสนอความท้าทายที่น่าสนใจสำหรับการกำกับดูแล
หน่วยงานซึ่งจะต้องให้แน่ใจว่า บริษัท ได้แสดงให้เห็นว่า
อุปกรณ์สุดท้ายคือปลอดภัย ซึ่งในกรณีของการพิมพ์ 3D คือเมื่อเทียบกับ
วัสดุที่เลือกและเทคนิคการผลิต ดังนั้นผลของเรา
จะสนับสนุนให้ผู้ให้บริการวัสดุและ บริษัท เครื่องพิมพ์ 3 มิติเพื่อ
ให้ชุดข้อมูลที่แข็งแกร่งและพารามิเตอร์ที่ดีการศึกษาในช่วงที่มี
ความเคารพอย่างน้อยอุณหภูมิพิมพ์อุณหภูมิรังสีปริมาณอัตราปริมาณรังสีและเริ่มต้นน้ำหนักโมเลกุล วิธีการอย่างหนึ่งที่
กล่าวไว้ข้างต้นสามารถช่วยเสริมสร้างรุ่นต่อไปของส่วนบุคคล
อุปกรณ์ทางการแพทย์