BeOrigin[edit]The UNIX philosophy i

BeOrigin[edit]
The UNIX philosophy is documented by Doug McIlroy[1] in the The Bell System Technical Journal from 1978:[2]

Make each program do one thing well. To do a new job, build afresh rather than complicate old programs by adding new "features".
Expect the output of every program to become the input to another, as yet unknown, program. Don't clutter output with extraneous information. Avoid stringently columnar or binary input formats. Don't insist on interactive input.
Design and build software, even operating systems, to be tried early, ideally within weeks. Don't hesitate to throw away the clumsy parts and rebuild them.
Use tools in preference to unskilled help to lighten a programming task, even if you have to detour to build the tools and expect to throw some of them out after you've finished using them.
Later summarized by Peter H. Salus in A Quarter-Century of Unix (1994):[1] This is the Unix philosophy:

Write programs that do one thing and do it well.
Write programs to work together.
Write programs to handle text streams, because that is a universal interface.
In the book The Pragmatic Programmer: From Journeyman to Master the authors mention the philosophy of combining "small, sharp tools" and the use of "common underlying format—the line-oriented, plain text file"[3] to accomplish larger tasks.

The whole philosophy of UNIX seems to stay out of assembler.

— Joseph Henry Condon[4]
The development of pipes in 1973 formalized the existing principle of stdin-stdout into a philosophy in Version 3 Unix, with older software rewritten to comply. Previously visible in early utilities such as wc, cat, and uniq, McIlroy cites Thompson's grep as what "ingrained the tools outlook irrevocably" in the operating system, with later tools like tr, m4, and sed imitating how grep transforms the input stream.[5]

"The truth about Unix: The user interface is horrid"[6] was a 1981 criticism of the design philosophy published in Datamation. It was written by Don Norman, who had a background in cognitive science and was the key proponent of the then-current philosophy of cognitive engineering,[4] apparently focused on how engineers comprehend and form a personal cognitive model of a system.
Ex

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

BeOrigin [แก้]ปรัชญา UNIX เป็นเอกสาร โดย Doug ไล่ออก [1] ในตัวระฆังระบบทางเทคนิครายวันจาก 1978: [2]ทำให้สิ่งหนึ่งทำแต่ละโปรแกรมได้ดี การทำงานใหม่ สร้างแตงแทนโปรแกรมเก่าที่ซับซ้อน โดยการเพิ่มใหม่ "คุณลักษณะ"คาดว่าผลผลิตของทุกโปรแกรมจะ ป้อนข้อมูลลงในโปรแกรมอื่น ที่ยังไม่ ทราบ ไม่ถ่วงขาออก มีข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง หลีกเลี่ยงรูปแบบอินพุทที่เรียงเป็นแนวตั้งอย่างเข้มงวด หรือไบนารี ไม่ยืนยันในการป้อนข้อมูลแบบโต้ตอบออกแบบ และสร้างซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการได้ ที่จะพยายามก่อน แห่งภายในสัปดาห์ อย่าลังเลที่จะทิ้งชิ้นส่วนซุ่มซ่าม และสร้างใหม่ดังกล่าวใช้เครื่องมือ in preference to ไร้ฝีมือช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบางานเขียนโปรแกรม แม้ว่าคุณจะต้องไปสร้างเครื่องมือ และคาดว่าจะโยนของพวกเขาออกหลังจากที่คุณเสร็จสิ้นการใช้งานภายหลังสรุป โดย Peter H. Salus ใน A มาสศตวรรษของ Unix (1994): [1] เป็นปรัชญา Unix:เขียนโปรแกรมที่ทำสิ่งหนึ่ง และทำได้ดีเขียนโปรแกรมทำงานร่วมกันเขียนโปรแกรมเพื่อจัดการกับกระแสข้อมูลข้อความ เพราะที่อินเทอร์เฟซแบบสากลในหนังสือ The Pragmatic โปรแกรมเมอร์: Journeyman จากต้นแบบผู้เขียนพูดถึงปรัชญาของการรวม "เครื่องมือเล็ก คม" และการใช้ "รูปแบบพื้นฐานทั่วไป — เชิงเส้น ไฟล์ข้อความธรรมดา" [3] การทำงานขนาดใหญ่ปรัชญาทั้งหมดของ UNIX น่าจะ จาก assembler— คอนโดโจเซฟเฮนรี่ [4]การพัฒนาของท่อในปี 1973 มีสถานะเป็น stdin stdout หลักที่มีอยู่ในปรัชญาใน Unix รุ่น 3 ซอฟต์แวร์รุ่นเก่าที่เขียนใหม่เพื่อให้สอดคล้อง ก่อนหน้านี้ มองเห็นได้ในช่วงต้นสาธารณูปโภค เช่นห้องสุขา แมว ซึ่ง ไล่ออก cites grep ทอมป์สันเป็นอะไร "ฝังแน่น outlook เครื่องมือกฎหมาย" ในระบบปฏิบัติการ ด้วยเครื่องมือที่ใหม่กว่า เช่น tr, m4, sed ที่เลียนแบบวิธี grep เปลี่ยนกระแสข้อมูล [5]"ความจริงเกี่ยวกับ Unix: ส่วนติดต่อผู้ใช้รัก" [6] คือการวิจารณ์ 1981 ของปรัชญาการออกแบบที่เผยแพร่ใน Datamation มันถูกเขียนขึ้น โดยนอร์แมนดอน ที่มีพื้นหลังในการ และ ผู้สนับสนุนที่สำคัญของปรัชญาปัจจุบันขององค์ความรู้ด้านวิศวกรรม, [4] เห็นได้ชัดว่าเน้นวิธีวิศวกรเข้าใจ และรูปแบบองค์ความรู้ส่วนบุคคลของระบบเช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

BeOrigin [แก้ไข]
ปรัชญา UNIX เป็นเอกสารโดยดั๊ก McIlroy [1] ในเดอะเบลล์เทคนิคระบบวารสาร 1978: [2]

ให้แต่ละโปรแกรมทำสิ่งหนึ่งที่ดี การทำเช่นงานใหม่อีกครั้งสร้างความซับซ้อนมากกว่าโปรแกรมเก่าโดยการเพิ่ม "คุณสมบัติ" ใหม่
คาดว่าการส่งออกของทุกโปรแกรมที่จะกลายเป็นการป้อนข้อมูลไปยังอีกที่ยังไม่รู้จักโปรแกรม ไม่ถ่วงส่งออกกับข้อมูลภายนอก หลีกเลี่ยงรูปแบบการป้อนเข้มงวดเสาหรือไบนารี อย่ายืนยันในการป้อนข้อมูลแบบโต้ตอบ
ออกแบบและสร้างระบบซอฟต์แวร์แม้กระทั่งการดำเนินงานที่จะพยายามต้นนึกคิดภายในสัปดาห์ อย่าลังเลที่จะทิ้งชิ้นส่วนเงอะงะและสร้างพวกเขา
ใช้เครื่องมือในการตั้งค่าความช่วยเหลือไร้ฝีมือเพื่อแบ่งเบางานการเขียนโปรแกรมแม้ว่าคุณจะต้องอ้อมไปสร้างเครื่องมือและคาดว่าจะโยนบางส่วนของพวกเขาออกมาหลังจากที่คุณได้เสร็จสิ้นการใช้พวกเขา
สรุปได้ในภายหลังโดยปีเตอร์เอช Salus ในไตรมาส Century ของ Unix (1994): [1] นี่คือปรัชญา Unix:

เขียนโปรแกรมที่จะทำสิ่งหนึ่งและทำมันได้ดี
เขียนโปรแกรมเพื่อทำงานร่วมกัน
เขียนโปรแกรมเพื่อจัดการกับลำธารข้อความเพราะเห็นว่าเป็นอินเตอร์เฟซที่เป็นสากล
ในหนังสือ Programmer ศาสตร์: จาก Journeyman อาจารย์ผู้เขียนพูดถึงปรัชญาของการรวม "เล็กเครื่องมือคม" และใช้ "ที่อยู่ภายใต้รูปแบบไฟล์ข้อความทั่วไปสายที่มุ่งเน้นธรรมดา" ที่ [3] เพื่อบรรลุผลงานที่มีขนาดใหญ่

ปรัชญาทั้งหมดของยูนิกซ์ดูเหมือนว่าจะพักออกจากผู้ประกอบ

- โจเซฟเฮนรี่ Condon [4]
การพัฒนาของท่อในปี 1973 อย่างเป็นทางการหลักการที่มีอยู่ของ stdin stdout-เข้าไปในปรัชญาใน 3 รุ่นใช้ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์กับซอฟต์แวร์เก่าเขียนใหม่เพื่อให้สอดคล้อง ก่อนหน้านี้สามารถมองเห็นได้ในสาธารณูปโภคต้นเช่นสุขาแมวและ UNIQ, McIlroy อ้างอิง grep ธ อมป์สันเป็นสิ่งที่ "ฝังแน่นแนวโน้มเครื่องมืออย่างถาวร" ในระบบปฏิบัติการด้วยเครื่องมือในภายหลังเช่น TR, M4 และ sed เลียนแบบวิธี grep แปลงสตรีมใส่ [5]

"ความจริงเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการยูนิกซ์: อินเตอร์เฟซผู้ใช้เป็นน่าเกลียดน่ากลัว" [6] เป็นวิจารณ์ 1981 ปรัชญาการออกแบบที่ตีพิมพ์ใน Datamation มันถูกเขียนขึ้นโดยดอนนอร์แมนที่มีพื้นหลังในวิทยาศาสตร์องค์ความรู้และเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของปรัชญาปัจจุบันในขณะนั้นของวิศวกรรมทางปัญญา [4] เห็นได้ชัดว่ามุ่งเน้นไปที่วิธีการที่วิศวกรเข้าใจและรูปแบบรูปแบบองค์ความรู้ส่วนบุคคลของระบบ
อดีต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

beorigin [ แก้ไข ]ปรัชญายูนิกซ์เป็นเอกสารโดยดั๊กแม็กเคิลรอย [ 1 ] ในระบบระฆังเทคนิควารสารจาก 1978 : [ 2 ]ให้แต่ละโปรแกรม ทำในสิ่งที่ดี จะได้งานใหม่ สร้างใหม่มากกว่า ซับซ้อน โปรแกรมเก่าโดยการเพิ่มใหม่ " คุณสมบัติ "คาดว่าการส่งออกของทุกโปรแกรมที่เป็น ปัจจัยอื่น เช่นโปรแกรมที่ไม่รู้จัก . อย่าถ่วงออก ด้วยข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง หลีกเลี่ยงอย่างเคร่งครัดมีรูปแบบ หรือสัญญาณไบนารี ไม่ยืนยันข้อมูลแบบโต้ตอบการออกแบบและสร้างซอฟต์แวร์ , ระบบปฏิบัติการ , การพยายาม ก่อน ซึ่งภายในสัปดาห์ ไม่ลังเลที่จะทิ้งชิ้นส่วนที่ซุ่มซ่ามและสร้างพวกเขาใช้เครื่องมือในการตั้งค่าความสามารถช่วยแบ่งเบาการเขียนโปรแกรมงาน แม้ว่าคุณจะต้องอ้อมเพื่อสร้างเครื่องมือและคาดหวังที่จะให้พวกเขาออก หลังจากที่คุณได้เสร็จสิ้นการใช้พวกเขาต่อมาสรุปโดยปีเตอร์เอช. ซาลัสในไตรมาสศตวรรษของยูนิกซ์ ( 1994 ) : [ 1 ] นี่คือปรัชญายูนิกซ์ :เขียนโปรแกรมที่ทำสิ่งหนึ่งและทำมันได้ดีเขียนโปรแกรมเพื่อทำงานร่วมกันเขียนโปรแกรมเพื่อจัดการกับกระแสข้อความ เพราะนั่นคืออินเตอร์เฟซที่เป็นสากลในหนังสือโปรแกรมเมอร์ปฏิบัติ : จากช่างฝีมือต้นแบบผู้เขียนกล่าวถึงปรัชญาของการรวมขนาดเล็ก " แหลม " และใช้ " รูปแบบพื้นฐานทั่วไปสายเชิงแฟ้มข้อความธรรมดา " [ 3 ] เพื่อบรรลุงานขนาดใหญ่ปรัชญาทั้งหมดของยูนิกซ์ดูเหมือนว่าจะออกไปประกอบ-  โจเซฟเฮนรี่ Condon [ 5 ]การพัฒนาของท่อใน 1973 เป็นทางการที่มีอยู่เช่น stdin stdout ในหลักการของปรัชญาในรุ่น 3 Unix กับซอฟต์แวร์รุ่นเก่าที่เขียนใหม่เพื่อให้สอดคล้อง เห็นก่อนหน้านี้ในสาธารณูปโภคก่อนเช่นห้องสุขา , แมว และ UNIQ แม็กเคิลรอย cites ทอมป์สัน , สามารถเป็นสิ่งที่ " ฝังเครื่องมือ Outlook อย่างแน่นอน " ในระบบปฏิบัติการที่มีเครื่องมือในภายหลังเช่น TR M4 และถูกเลียนแบบวิธีการป้อนข้อมูลสามารถแปลงกระแส [ 5 ]" ความจริงเกี่ยวกับยูนิกซ์ : อินเตอร์เฟซผู้ใช้ที่น่ากลัว " [ 6 ] เป็น 1981 การวิจารณ์ของปรัชญาการออกแบบที่ตีพิมพ์ใน datamation . มันถูกเขียนโดย Don Norman ที่มีพื้นหลังในด้านวิทยาศาสตร์ และเป็นผู้สนับสนุนหลักของปัจจุบันแล้ว ปรัชญาของการวิศวกรรม , [ 4 ] เห็นได้ชัดว่าเน้นว่าวิศวกรเข้าใจและแบบฟอร์มรูปแบบการรับรู้ส่วนบุคคลของระบบอดีต