Job LossesJob losses exacerbated mo

Job Losses
Job losses exacerbated mortgage defaults and foreclosures. The news media recorded the trend
in unemployment as it evolved month by month. According to the US Department of Labor,
the US jobless rate rose to 7.3% in December 2008, the highest monthly figure for 16 years, as
a result of employers laying off 524 000 staff. This figure was surpassed many times in 2009,with the unemployment rate reaching 10.1%. The US Department of Labor’s Bureau of Labor
Statistics unemployment figures record the increase in unemployment between December 2006
and December 2009 as 7.2 million. The US national press described the drop in employment
as the biggest decline since the Great Depression. The total US unemployment figure for
2006 was 7 million and by 2009 it had reached 14.27 million (9.3%). Job losses had not only
occurred in the housing and service industries (banks and insurance companies) which were
directly affected by the subprime turmoil but had spread to retail, manufacturing, leisure and
professional services. Falling house prices, combined with news of rising unemployment in
other parts of the country, made homeowners both less wealthy and more cautious, contributing
to a gradual decline in spending. Less consumer spending eventually weakened the economy,
prompting companies to start laying off workers in a vicious cycle that caused households to
become even more frugal.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขาดงานขาดทุนงานเลวร้ายค่าจำนองและ foreclosures สื่อที่บันทึกแนวโน้มในงานตามพัฒนาเดือนต่อเดือน ตามสหรัฐอเมริกากรมแรงงานอัตราการว่างงานสหรัฐฯ โรส 7.3% ในเดือน 2008 ธันวาคม ตัวเลขรายเดือนสูงสุด 16 ปี เป็นผลถาวางปิดพนักงาน 524 000 รูปนี้ได้แล้วหลายครั้งในปี 2552 อัตราว่างงานสูงถึง 10.1% สำนักงานสหรัฐอเมริกากรมแรงงานของแรงงานสถิติตัวเลขว่างงานบันทึกเพิ่มในงานระหว่างเดือน 2549 ธันวาคมและเดือน 2009 ธันวาคมเป็น 7.2 ล้าน ข่าวประเทศสหรัฐฯ อธิบายลดลงของการจ้างงานเป็นปฏิเสธที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ภาวะซึมเศร้ามาก ตัวเลขว่างงานสหรัฐฯ รวมสำหรับ2006 ได้ 7 ล้าน และ โดย 2009 มันมีถึง 14.27 ล้าน (9.3%) ขาดงานมีไม่เพียงเกิดขึ้นในอยู่อาศัยและอุตสาหกรรมบริการ (การธนาคารและบริษัทประกันภัย) ที่ได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายฤตโดยตรง แต่ได้แพร่กระจายไปขายปลีก ผลิต พักผ่อน และบริการระดับมืออาชีพ ราคาบ้านตก รวมข่าวสารของการว่างงานเพิ่มขึ้นในส่วนอื่น ๆ ของประเทศ ทำเจ้าของบ้านทั้งสองน้อยกว่ามั่งคั่ง และระมัด ระวังมากขึ้น สนับสนุนจะค่อย ๆ ลดลงใช้ น้อยกว่าผู้บริโภค ใช้จ่ายก็ลดลงเศรษฐกิจเพื่อให้บริษัทเริ่มวางปิดงานในวงจรชั่วร้ายที่เกิดจากการที่ครัวเรือนเป็นยิ่งประหยัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานขาดทุน
งานขาดทุน exacerbated จำนองเริ่มต้นและ foreclosures . ข่าวสื่อบันทึกแนวโน้มการว่างงานเป็นวิวัฒนาการ
ในเดือนโดยเดือน ตามที่สหรัฐอเมริกากรมแรงงาน อัตราการว่างงาน
เราเพิ่มขึ้น 7.3% ในเดือนธันวาคม 2551 รายเดือนสูงสุดราว 16 ปี ขณะที่
" นายจ้างเลิกจ้าง 524 , 000 พนักงาน รูปนี้คือทะลุหลายครั้งในปี 2009มีอัตราการว่างงานถึง 10.1% สหรัฐอเมริกากรมแรงงานสำนักงานแรงงาน
สถิติตัวเลขการว่างงานบันทึกการว่างงานเพิ่มขึ้นในระหว่างธันวาคม 2549
และธันวาคม 2009 เป็น 7.2 ล้าน สหรัฐอเมริกาแห่งชาติกดอธิบายลดลงในการจ้างงาน
เป็นลดลงมากที่สุดตั้งแต่ Great อาการซึมเศร้า . รวมรูปสำหรับ
เราว่างงานปี 2549 อยู่ที่ 7 ล้านบาท และลดลงได้ถึง 14.27 ล้าน ( 9.3% ) การสูญเสียงานไม่ได้เท่านั้น
เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมบริการ ที่อยู่อาศัยและธนาคารและบริษัทประกัน ) ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติ subprime
แต่ได้แพร่กระจายไปยังการผลิต ค้าปลีก และสันทนาการ
บริการระดับมืออาชีพ ลดลงของราคาบ้าน รวมกับข่าวของการว่างงานที่เพิ่มขึ้นใน
ส่วนอื่นของประเทศทำให้เจ้าของบ้านทั้งสองไม่ร่ำรวย และระมัดระวังมากขึ้น สาเหตุ
จะค่อยๆลดลงในการใช้จ่าย การใช้จ่ายผู้บริโภคน้อยลง ในที่สุดทำให้เศรษฐกิจ
แจ้งบริษัทเพื่อเริ่มเลิกจ้างคนงานในวงจรอุบาทว์ ที่ทำให้ครอบครัว

ยิ่งประหยัดมากขึ้น