A message that has been sent encryp

A message that has been sent encrypted using the public key of the receiver can be generated by anyone, but can only
be read by the receiver. This is one basis of confidentiality. In theory, a message that has been encrypted twice, first
by the sender’s secret key, and second by the receiver’s public key, achieves both authentication and confidentiality
objectives, but it is not commonly used because it could generate performance issues.
Elliptical Curve Cryptography
Although public key cryptography ensures message security, the long keys and mathematical problems it uses tend to
be inefficient. A variant and more efficient form of public key cryptography is elliptical curve cryptography (ECC),
which is gaining prominence as a method for increasing security while using minimum resources. It is believed that
ECC demands less computational power and therefore offers more security per bit. For example, an ECC with a
160-bit key offers the same security as an RSA-based system with a 1,024-bit key.
ECC works well on networked computers requiring strong cryptography. However, it has some limitations such as
bandwidth and processing power.
Quantum Cryptography
Quantum cryptography is the next generation of cryptography that may solve some of the existing problems
associated with current cryptographic systems, specifically the random generation and secure distribution of
symmetric cryptographic keys. It is based on a practical application of the characteristics of the smallest “grains” of
light (photons) and the physical laws governing their generation, propagation and detection. Initial commercial usage
has already started now that the laboratory research phase has been completed.
Advanced Encryption Standard
AES has replaced the DES as the cryptographic algorithm standard. It originated in 1997, when NIST announced the
initiation of the AES development effort and made a formal call for algorithms. In October 2000, NIST announced
that it had selected Rijndael as the algorithm for the AES. This algorithm was developed by Dr. Joan Daemen and
Dr. Vincent Rijmen.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อความที่ถูกเข้ารหัสลับโดยใช้คีย์สาธารณะของผู้รับ สามารถสร้างได้ โดยทุกคน แต่สามารถเท่านั้นถูกอ่าน โดยผู้รับ นี้เป็นพื้นฐานหนึ่งของการรักษาความลับ ในทางทฤษฎี ข้อความที่ถูกเข้ารหัสสองครั้ง แรกโดยความลับของผู้ส่งคีย์ และสอง ด้วยคีย์สาธารณะของผู้รับ ได้รับรับรองความถูกต้องและเป็นความลับวัตถุประสงค์ แต่มันไม่ใช้ทั่วไปเนื่องจากมันสามารถสร้างปัญหาประสิทธิภาพการทำงานการเข้ารหัสโค้งรีแม้ว่าการเข้ารหัสคีย์สาธารณะมั่นใจความปลอดภัยของข้อความ ปุ่มยาวและปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ใช้มักจะอย่างต่ำ แบบฟอร์มย่อย และเพิ่มประสิทธิภาพของการเข้าเป็นเส้นโค้งรีเข้ารหัส (ECC),ซึ่งจะดึงดูดความโดดเด่นเป็นวิธีการเพิ่มความปลอดภัยในขณะที่ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ทำให้เชื่อว่าECC ต้องน้อยกว่าพลังงานคำนวณ และมีความปลอดภัยเพิ่มเติมต่อบิตดังนั้น ตัวอย่าง ECC กับการ160 บิตคีย์มีการรักษาความปลอดภัยเดียวกันเป็นระบบการใช้ RSA คีย์บิตงานได้ 1024 คนECC ทำงานบนคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายที่ต้องการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งดี อย่างไรก็ตาม มันมีข้อจำกัดบางประการเช่นเพาเวอร์แบนด์วิธและประมวลผลการเข้ารหัสของควอนตัมการเข้ารหัสควอนตัมเป็นรุ่นต่อไปของการเข้ารหัสที่อาจแก้ปัญหาบางปัญหาที่มีอยู่เชื่อมโยงกับปัจจุบันเข้าระบบ เฉพาะรุ่นสุ่มและแจกจ่ายทางสมมาตรเข้ารหัสลับคีย์ โดยมีการประยุกต์ในทางปฏิบัติลักษณะของเล็กที่สุด "แป้ง"แสง (photons) และกฎหมายทางกายภาพที่ควบคุมการสร้าง เผยแพร่ และตรวจสอบ เริ่มต้นการใช้งานเชิงพาณิชย์แล้วได้เริ่มหลังจากที่เสร็จสิ้นขั้นตอนการวิจัยปฏิบัติการมาตรฐานการเข้ารหัสลับขั้นสูงAES ได้แทนจะเดเป็นอัลกอริธึมการเข้ารหัสลับที่มาตรฐาน มันมาในปี 1997 เมื่อ NIST ประกาศเริ่มต้นของความพยายามพัฒนา AES และทำการเรียกอย่างเป็นทางการสำหรับอัลกอริทึมการ ในเดือน 2000 ตุลาคม NIST ประกาศที่ได้เลือก Rijndael เป็นอัลกอริธึมสำหรับ AES อัลกอริทึมนี้ได้รับการพัฒนา โดยดร. Joan Daemen และดร. Vincent Rijmen

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อความที่ถูกเข้ารหัสโดยใช้กุญแจสาธารณะของผู้รับ สามารถสร้างขึ้นโดยทุกคน แต่แค่
ถูกอ่านโดยเครื่องรับ นี้เป็นหนึ่งในพื้นฐานของความลับ ในทางทฤษฎี ข้อความที่ได้รับการเข้ารหัส สองครั้ง ครั้งแรก
คีย์ลับของผู้ส่ง และ สอง โดยรับกุญแจสาธารณะใช้ทั้งความถูกต้องและความลับ
วัตถุประสงค์แต่ไม่นิยมใช้เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ เส้นโค้งวงรีแบบ

แม้ว่าการเข้ารหัสคีย์สาธารณะเพื่อให้ข้อความการรักษาความปลอดภัย ยาวคีย์และปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ใช้มักจะ
ไม่เป็นผล แบบฟอร์มที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพมากขึ้นของการเข้ารหัสคีย์สาธารณะเป็นเส้นโค้งรูปไข่ ( ECC )
, การเข้ารหัสซึ่งจะดึงดูดความโดดเด่นเป็นวิธีการเพิ่มความปลอดภัยในขณะที่ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด เชื่อกันว่า คำนวณพลังงานที่น้อยกว่าความต้องการ
ECC และดังนั้นจึงมีความปลอดภัยต่อนิดหน่อย ตัวอย่าง ฯลฯ ด้วยคีย์ A
160 บิตมีความปลอดภัยเช่นเดียวกับการใช้ระบบ RSA 1024 บิตคีย์ A .
ซึ่งทำงานได้ดีบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามมันมีบางข้อ จำกัด แบนด์วิดธ์และพลังการประมวลผลเช่น
.

ควอนตัมควอนตัมการเข้ารหัสการเข้ารหัสเป็นรุ่นต่อไปของการเข้ารหัสที่อาจแก้ไขบางส่วนของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบที่มีอยู่
ปีปัจจุบัน โดยเฉพาะรุ่นที่สุ่มและการกระจายของ
สมมาตรคีย์การเข้ารหัสลับ .มันขึ้นอยู่กับ การฝึกในลักษณะของเกรนที่เล็กที่สุด " "
แสง ( โฟตอน ) และทางกฎหมายเกี่ยวกับรุ่นของพวกเขา การขยายพันธุ์ และการตรวจหา
ใช้เชิงพาณิชย์ครั้งแรกเริ่มขึ้นแล้ว ตอนนี้ที่ห้องปฏิบัติการวิจัยเฟสเสร็จเรียบร้อยแล้ว
Advanced Encryption Standard
AES ได้เปลี่ยนเดสเป็นมาตรฐานขั้นตอนวิธีการเข้ารหัสลับ .มันมาในปี 1997 เมื่อทำการประกาศ
เริ่มต้นของ AES การพัฒนาความพยายามและโทรอย่างเป็นทางการสำหรับอัลกอริธึม ในเดือนตุลาคมปี 2000 หรือประกาศ
มันเลือก Rijndael เป็นขั้นตอนวิธี AES . ขั้นตอนวิธีนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย ดร. โจน daemen และ
ดร. วินเซนต์ rijmen .