9.PRICE STABILITYThe adoption of in

9.PRICE STABILITY
The adoption of inflation targeting has been a major task for the BOJ. In 2002, the adoption of inflation targeting had already discussed been at the Policy Board’s Monetary Policy Meetings. The minutes of the meetings reveal that although monetary policy proved to be effective in controlling inflation, there is no evidence of its effectiveness at overcoming deflation. Because it could not determine an effective measure for achieving the price target under deflation, the BOJ was cautious about adopting an inflation target.
When the BOJ exited from the QEP, it terminated its commitment. Independent central banks in developed economies are disciplined by the commitment to the inflation target. While the BOJ had explained the concept of price stability previously, the BOJ was required to announce a more concrete idea of price stability as “the understanding of price stability.” It revealed the concrete figure of 1% as the median of desirable inflation rates of all Policy Board members.
Despite the strengthening of monetary easing, there had been no clear sign of rising prices. Thus, a more concrete concept had been adopted. In February 2012, the BOJ announced the “goal” of price stability of 1%. This differed from the previous concept. The goal was chosen as a consensus of the Policy Board. However, the BOJ did not link the goal strongly to the policy operation.
Following a landslide victory in the Lower House election in December 2012, after making comments favoring revision of the Bank of Japan Law, Prime Minister Shinzo Abe pressed the BOJ to adopt a 2% inflation target to show a strong commitment. The goal of 1% inflation had been based on historical evidence that inflation in Japan had been around 1% during the economic boom of the previous three decades and had rarely exceeded 2%. A case in which inflation rose above 2% was considered to reflect rising import prices. This was classified as cost-push inflation, which was undesirable. The BOJ nevertheless adopted the 2% inflation target in January 2013. Although the BOJ assumes that the growth policy of the Abe Government will succeed in raising actual economic growth, 2% inflation is an ambitious target (Figure 9).
As seen from the above, the policy framework for the inflation target has changed from a mechanical application to a flexible one. The BOJ has stated that this change accords with its adoption of the inflation target at this time. Given the recent pressure by the government, however, the explanation is not completely convincing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

9.ราคาเสถียรภาพยอมรับการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อแล้วงานหลักสำหรับการ BOJ ใน 2002 กำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ยอมรับได้แล้วพูดถึงการที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินนโยบายการ รายงานการประชุมเปิดเผยว่า แม้ว่าพิสูจน์นโยบายการเงินให้มีประสิทธิภาพในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ มีความประสิทธิผลในภาวะเงินฝืดมากเพียงใด เนื่องจากมันไม่สามารถกำหนดตัววัดประสิทธิภาพบรรลุเป้าหมายราคาภายใต้ภาวะเงินฝืด BOJ ไม่ระมัดระวังการใช้เป้าหมายเงินเฟ้อเมื่อ BOJ ออกจากจาก QEP เลิกมั่น ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางในประเทศพัฒนามี disciplined โดยความมุ่งมั่นเพื่อเป้าหมายเงินเฟ้อ ในขณะ BOJ ได้อธิบายแนวคิดของเสถียรภาพราคาก่อนหน้านี้ BOJ ถูกต้องเพื่อประกาศความคิดเพิ่มเติมคอนกรีตของเสถียรภาพราคาเป็น "ความเข้าใจของเสถียรภาพราคา" มันเปิดเผยรูปคอนกรีต 1% เป็นค่ามัธยฐานของอัตราเงินเฟ้อต้องนโยบายคณะกรรมการทั้งหมดแม้จะแข็งแกร่งในการผ่อนคลายทางการเงิน มีได้ไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนของราคาเพิ่มขึ้น ดังนั้น แนวคิดเพิ่มเติมคอนกรีตได้รับการรับรอง ในเดือน 2012 กุมภาพันธ์ BOJ ที่ประกาศ "เป้าหมาย" ของเสถียรภาพราคา% 1 ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดก่อนหน้านี้ เป้าหมายถูกเลือกเป็นมติของคณะกรรมการนโยบาย อย่างไรก็ตาม BOJ ไม่เชื่อมโยงเป้าหมายอย่างยิ่งการดำเนินนโยบายการต่อไปนี้ดินถล่มชัยชนะในการเลือกตั้งสภาล่างใน 2012 ธันวาคม หลังจากทำการปรับปรุงธนาคารของญี่ปุ่นกฎหมาย นความเห็นนายกรัฐมนตรี Shinzo อะเบะกด BOJ การนำเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% เพื่อแสดงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่ง เป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อ 1% ได้รับขึ้นอยู่กับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศญี่ปุ่นได้ประมาณ 1% ในช่วงบูมเศรษฐกิจของสามทศวรรษที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ และไม่ค่อยมีเกิน 2% กรณีที่อัตราเงินเฟ้อกุหลาบเหนือ 2% ได้พิจารณาถึงเพิ่มขึ้นราคานำเข้า นี้ถูกจัดประเภทเป็นเงินเฟ้อเพิ่มสูง ซึ่งไม่พึงปรารถนา BOJ ได้นำเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% อย่างไรก็ตามในเดือน 2013 มกราคม แม้ว่า BOJ สันนิษฐานว่า นโยบายการเจริญเติบโตของอะเบะรัฐบาลจะประสบความสำเร็จในการเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง อัตราเงินเฟ้อ 2% เป็นเป้าหมายทะเยอทะยาน (9 รูป)เท่าที่เห็นจากด้านบน มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนโยบายเป้าหมายเงินเฟ้อจากการใช้เครื่องจักรกลไปยืดหยุ่น BOJ ได้ระบุไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ accords กับการยอมรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ กำหนดความดันล่าสุดรัฐบาล อย่างไรก็ตาม คำอธิบายจะไม่สมบูรณ์หลอกลวง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

9.PRICE เสถียร
ยอมรับของการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ได้รับเป็นงานที่สำคัญสำหรับ BOJ ในปี 2002 การยอมรับของการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อได้กล่าวแล้วอยู่ที่คณะกรรมการนโยบายของการประชุมนโยบายการเงิน นาทีของการประชุมเปิดเผยว่าแม้ว่านโยบายการเงินที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อมีหลักฐานของความมีประสิทธิผลที่เอาชนะภาวะเงินฝืดไม่มี เพราะมันไม่สามารถกำหนดมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุเป้าหมายราคาภายใต้ภาวะเงินฝืด BOJ ระมัดระวังเกี่ยวกับการนำเป้าหมายเงินเฟ้อ.
เมื่อ BOJ ออกจาก QEP ก็ยกเลิกความมุ่งมั่น ธนาคารกลางที่เป็นอิสระในประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีระเบียบวินัยด้วยความมุ่งมั่นกับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ ในขณะที่ BOJ ได้อธิบายแนวคิดของการสร้างเสถียรภาพด้านราคาก่อนหน้านี้ BOJ ถูกต้องที่จะประกาศความคิดที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นของเสถียรภาพด้านราคาเป็น "ความเข้าใจในการสร้างเสถียรภาพด้านราคา." มันเผยให้เห็นร่างคอนกรีต 1% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอัตราเงินเฟ้อที่พึงประสงค์ของ สมาชิกในคณะกรรมการนโยบายทั้งหมด.
แม้จะมีการสร้างความเข้มแข็งของการผ่อนคลายทางการเงินมีการได้รับสัญญาณที่ชัดเจนของราคาที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นแนวคิดที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นได้รับการรับรอง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012, BOJ ประกาศ "เป้าหมาย" ของเสถียรภาพด้านราคา 1% ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดก่อนหน้านี้ เป้าหมายรับเลือกให้เป็นฉันทามติของคณะกรรมการนโยบาย อย่างไรก็ตาม BOJ ไม่ได้เชื่อมโยงเป้าหมายอย่างยิ่งต่อการดำเนินนโยบาย.
หลังจากชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรในเดือนธันวาคม 2012 หลังจากที่การแสดงความคิดเห็นการแก้ไขความนิยมของธนาคารแห่งกฎหมายญี่ปุ่นนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe กด BOJ จะนำมาใช้ 2% เป้าหมายเงินเฟ้อที่จะแสดงความมุ่งมั่น เป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อที่ 1% ที่ได้รับการขึ้นอยู่กับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศญี่ปุ่นได้รับประมาณ 1% ในช่วงเศรษฐกิจบูมของก่อนหน้านี้สามทศวรรษที่ผ่านมาและได้เกินไม่ค่อย 2% ในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น 2% ได้รับการพิจารณาเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของราคานำเข้า นี้ได้รับการจัดเป็นอัตราเงินเฟ้อค่าใช้จ่ายดันซึ่งเป็นที่ไม่พึงประสงค์ BOJ ยังคงนำมาใช้เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ในเดือนมกราคม 2013 ถึงแม้ว่า BOJ อนุมานว่านโยบายการเจริญเติบโตของรัฐบาลนายอาเบะจะประสบความสำเร็จในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริงอัตราเงินเฟ้อ 2% เป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน (รูปที่ 9).
เท่าที่เห็นจากด้านบน กรอบนโยบายสำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลที่มีความยืดหยุ่นอย่างใดอย่างหนึ่ง BOJ ได้กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับการยอมรับของเป้าหมายเงินเฟ้อในเวลานี้ ที่ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลที่ผ่านมา แต่คำอธิบายที่ไม่น่าเชื่ออย่างสมบูรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

9.price เสถียรภาพ
การยอมรับเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นภารกิจหลักสำหรับเงิน . ใน 2002 , การใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อได้คุยกันอยู่ที่นโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงินประชุม นาทีของการประชุม เปิดเผยว่า แม้ว่านโยบายการเงินที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมเงินเฟ้อ ไม่มีหลักฐานยืนยันประสิทธิภาพในการเอาชนะภาวะเงินฝืดเพราะมันไม่อาจกำหนดมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุเป้าหมายราคาภายใต้ภาวะเงินฝืด , BOJ ได้ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้อัตราเงินเฟ้อเป็นเป้าหมาย
เมื่อเงินออกจาก qep ก็ยกเลิกสัญญาของ อิสระของธนาคารกลางในประเทศที่พัฒนาเป็นผู้มีวินัย โดยมุ่งมั่นให้อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายในขณะที่ BOJ ได้อธิบายแนวคิดของเสถียรภาพราคาก่อนหน้านี้ BOJ ต้องประกาศความคิดเพิ่มเติมคอนกรีตของเสถียรภาพราคาเป็น " ความเข้าใจของเสถียรภาพด้านราคา มันเปิดเผยตัวเลขของคอนกรีต 1 % เป็นค่ามัธยฐานคุณลักษณะอัตราเงินเฟ้อของสมาชิกคณะกรรมการนโยบาย .
แม้จะมีความเข้มแข็งของการผ่อนคลายนโยบายการเงินมี ได้รับสัญญาณที่ชัดเจนของราคาที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นแนวคิดเพิ่มเติมคอนกรีตได้ถูกประกาศใช้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 , BOJ ประกาศ " เป้าหมาย " ของเสถียรภาพของราคา 1 บาท นี้แตกต่างจากแนวคิดเดิม เป้าหมายที่ถูกเลือกเป็นมติของคณะกรรมการนโยบาย อย่างไรก็ตาม เงินไม่ได้เชื่อมโยงเป้าหมายและการดำเนินการตามนโยบาย
ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสภาล่างในเดือนธันวาคม 2012หลังจากให้ความเห็นสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายของธนาคารของญี่ปุ่น , นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กด BOJ ใช้เป้าเงินเฟ้อ 2% เพื่อแสดงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่ง เป้าหมายของ 1% เงินเฟ้อได้ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า อัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นได้ประมาณ 1% ในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟูของก่อนหน้าสามทศวรรษที่ผ่านมาและได้ไม่เกิน 2%กรณีในที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสูงกว่า 2 % ถือว่าสะท้อนราคานำเข้าเพิ่มขึ้น นี้ตามต้นทุนดันเงินเฟ้อ ที่ไม่พึงประสงค์ BOJ ยังคงประกาศใช้ 2 % เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในเดือนมกราคม 2013 แม้ BOJ สันนิษฐานว่า การเจริญเติบโตของนโยบายของรัฐบาล อาเบะ จะประสบความสำเร็จในการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นจริง , 2% อัตราเงินเฟ้อเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน ( รูปที่ 9 ) .
เท่าที่เห็นจากด้านบน กรอบนโยบายเป้าหมายเงินเฟ้อมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้เครื่องจักรกลให้มีความยืดหยุ่นหนึ่ง BOJ ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับการยอมรับของเป้าหมายเงินเฟ้อในเวลานี้ ให้ความดันล่าสุดโดยรัฐบาล อย่างไรก็ตาม อธิบายไม่หมดนะ
.