พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรพุทธศักราช ๒๔๘๑  ในพระปรม การแปล - พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรพุทธศักราช ๒๔๘๑  ในพระปรม ไทย วิธีการพูด

พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประ

พระราชบัญญัติ
ให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
พุทธศักราช ๒๔๘๑


ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
(ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร
ลงวันที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๘๐)
อาทิตย์ทิพอาภา
พล.อ.เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน
ตราไว้ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๑
เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาลปัจจุบัน

โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่า สมควรตราประมวลรัษฎากรเพื่อปรับปรุงการรัษฎากรตามหลักความเป็นธรรมแก่สังคม
จึงมีพระราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร พุทธศักราช ๒๔๘๑”
มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๘๒ เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ใช้ประมวลรัษฎากรตามที่ตราไว้ต่อท้ายพระราชบัญญัตินี้เป็นกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๘๒ เป็นต่อไป เว้นแต่บทบัญญัติในลักษณะ ๒ หมวด ๖ ว่าด้วยอากรแสตมป์นั้น ให้ใช้เป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๒ เป็นต้นไป

มาตรา ๔ นับแต่วันใช้พระราชบัญญัตินี้ ให้ยกเลิก
(๑) พระราชบัญญัติเงินรัชชูปการ พุทธศักราช ๒๔๖๘
(๒) พระราชบัญญัติลักษณะเก็บเงินค่านา ร.ศ.๑๑๙
(๓) พระราชบัญญัติลักษณะการเก็บภาษีค่าที่ไร่อ้อย พุทธศักราช ๒๔๖๔
(๔) พระราชบัญญัติเปลี่ยนวิธีเก็บภาษียา ร.ศ.๑๑๙
(๕) ประกาศพระราชทานยกเงินอากรสวนใหญ่ค้างเก่าและเดินสำรวจต้นผลไม้ใหม่ สำหรับ เก็บเงินอากรสวนใหญ่ รัตนโกสินทร์ศก ๑๓๐
(๖) พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ พุทธศักราช ๒๔๘๕
(๗) พระราชบัญญัติภาษีการค้า พุทธศักราช ๒๔๗๕
(๘) พระราชบัญญัติภาษีการธนาคารและการประกันภัย พุทธศักราช ๒๔๗๖
(๙) บรรดาพิกัดอัตรา ข้อบังคับ กฎ ประกาศ และบทกฎหมายอื่น ซึ่งออกเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหรือดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น
และนับตั้งแต่วันใช้บทบัญญัติในลักษณะ ๒ หมวด ๖ แห่งประมวลรัษฎากรว่าด้วยอากรแสตมป์ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติอากรแสตมป์ พุทธศักราช ๒๔๗๕ กับบรรดาพิกัดอัตรา ข้อบังคับ กฎ และบทกฎหมายอื่น ซึ่งออกเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหรือดำเนินการตามพระราชบัญญัตินั้น
มาตรา ๕ บรรดาพระราชบัญญัติ ประกาศ พิกัดอัตรา ข้อบังคับ กฎ และบทกฎหมายที่ให้ยกเลิกตามความในมาตรา ๔ วรรคแรกนั้น ยังคงให้ใช้บังคับได้ในการเก็บภาษีอากรจำนวนพุทธศักราชต่าง ๆ ก่อนใช้ประมวลรัษฎากร
ส่วน พระราชบัญญัติพิกัดอัตรา ข้อบังคับ กฎ และบทกฎหมาย ที่ให้ยกเลิกตามความในมาตรา ๔ วรรคสุดท้าย ก็ยังคงให้ใช้บังคับได้ในการเก็บอากรที่จะพึงเรียกเก็บได้ก่อนใช้บทบัญญัติ ในลักษณะ ๒ หมวด ๖ แห่งประมวลรัษฎากรว่าด้วยอากรแสตมป์
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี







ประมวลรัษฎากร
ลักษณะ ๑
ข้อความเบื้องต้น


มาตรา ๑ กฎหมายนี้ให้เรียกว่า “ประมวลรัษฎากร”
มาตรา ๒ ในประมวลรัษฎากรนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
“รัฐมนตรี” หมายความว่ารัฐมนตรีผู้รักษาการตามประมวลรัษฎากรนี้
“อธิบดี” หมายความว่าอธิบดีกรมสรรพากร หรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมาย
“ผู้ว่าราชการจังหวัด” หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วย
“อำเภอ” หมายความว่านายอำเภอ สมุห์บัญชีอำเภอ หรือสมุห์บัญชีเขต
“นายอำเภอ” หมายความรวมถึงหัวหน้าเขต และปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอด้วย
“ที่ว่าการอำเภอ” หมายความรวมถึงที่ว่าการเขต และที่ว่าการกิ่งอำเภอด้วย
“องค์การ ของรัฐบาล” หมายความว่าองค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล และกิจการของรัฐตามกฎหมายที่จัดตั้งกิจการนั้น และหมายความรวมถึงหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของซึ่งไม่มีฐานะเป็น นิติบุคคลด้วย
“ประเทศ ไทย” หรือ “ราชอาณาจักร” หมายความรวมถึงเขตไหล่ทวีปที่เป็นสิทธิของประเทศไทยตามหลักกฎหมายระหว่าง ประเทศที่ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไป และตามความตกลงกับต่างประเทศด้วย
มาตรา ๓ บรรดารัษฎากรประเภทต่าง ๆ ซึ่งเรียกเก็บตามประมวลรัษฎากรนี้ จะตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อการต่อไปนี้ก็ได้ คือ
(๑) ลดอัตรา หรือยกเว้นเพื่อให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ กิจการหรือสภาพของท้องที่บางแห่งหรือทั่วไป
(๒) ยกเว้นแก่บุคคลหรือองค์การระหว่างประเทศ ตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ต่อองค์การสหประชาชาติ หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือตามสัญญาหรือตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน กับนานาประเทศ
(๓) ยกเว้นแก่รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล องค์การศาสนา หรือองค์การการกุศลสาธารณะ
การลดหรือยกเว้นตาม (๑) (๒) และ (๓) นั้น จะตราพระราชกฤษฎีกายกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงก็ได้
มาตรา ๓ ทวิ ถ้าเจ้าพนักงานดังต่อไปนี้ เห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรต้องได้รับโทษจำคุกหรือไม่ควรถูกฟ้องร้อง ให้มีอำนาจเปรียบเทียบโดยกำหนดค่าปรับแต่สถานเดียวในความผิดต่อไปนี้ เว้นแต่ความผิดตามมาตรา ๑๓ คือ
(๑) ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว หรือมีโทษปรับหรือจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ ซึ่งโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ให้เป็นอำนาจของอธิบดี ถ้าเกิดในจังหวัดอื่นให้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด
(๒) ความผิดที่มีโทษปรับหรือโทษจำคุกเกินหกเดือน แต่ไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งปรับทั้งจำ ซึ่งโทษจำคุกเกินหกเดือนแต่ไม่เกินหนึ่งปี ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยอธิบดี อธิบดีกรมการปกครองและอธิบดีกรมตำรวจ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ถ้า ผู้ต้องหาใช้ค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่ผู้มีอำนาจเปรียบ เทียบกำหนดแล้ว ให้ถือว่าเป็นอันคุ้มผู้ต้องหามิให้ถูกฟ้องร้องต่อไปในกรณีแห่งความผิดนั้น

ถ้า ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบตามวรรคหนึ่งเห็นว่าไม่ควรใช้อำนาจเปรียบเทียบ หรือเมื่อเปรียบเทียบแล้ว ผู้ต้องหาไม่ยอมตามที่เปรียบเทียบ หรือยอมแล้วแต่ไม่ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบกำห
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรพุทธศักราช ๒๔๘๑ ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์(ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎรลงวันที่ ๔ สิงหาคมพุทธศักราช ๒๔๘๐)อาทิตย์ทิพอาภาพล.อ.เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธินตราไว้ณวันที่ ๓๑ มีนาคมพุทธศักราช ๒๔๘๑เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาลปัจจุบัน โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่าสมควรตราประมวลรัษฎากรเพื่อปรับปรุงการรัษฎากรตามหลักความเป็นธรรมแก่สังคม จึงมีพระราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎรดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า "พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรพุทธศักราช๒๔๘๑" มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายนพุทธศักราช ๒๔๘๒ เป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ใช้ประมวลรัษฎากรตามที่ตราไว้ต่อท้ายพระราชบัญญัตินี้เป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายนพุทธศักราช ๒๔๘๒ เป็นต่อไปเว้นแต่บทบัญญัติในลักษณะ ๒ หมวด ๖ ว่าด้วยอากรแสตมป์นั้นให้ใช้เป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายนพุทธศักราช ๒๔๘๒ เป็นต้นไป มาตรา ๔ นับแต่วันใช้พระราชบัญญัตินี้ให้ยกเลิก (๑) พระราชบัญญัติเงินรัชชูปการพุทธศักราช ๒๔๖๘ (๒) พระราชบัญญัติลักษณะเก็บเงินค่านาร.ศ.๑๑๙ (๓) พระราชบัญญัติลักษณะการเก็บภาษีค่าที่ไร่อ้อยพุทธศักราช ๒๔๖๔ (๔) พระราชบัญญัติเปลี่ยนวิธีเก็บภาษียาร.ศ.๑๑๙ (๕) ประกาศพระราชทานยกเงินอากรสวนใหญ่ค้างเก่าและเดินสำรวจต้นผลไม้ใหม่สำหรับเก็บเงินอากรสวนใหญ่รัตนโกสินทร์ศก ๑๓๐ (๖) พระราชบัญญัติภาษีเงินได้พุทธศักราช ๒๔๘๕ (๗) ๒๔๗๕ พระราชบัญญัติภาษีการค้าพุทธศักราช (๘) ๒๔๗๖ พระราชบัญญัติภาษีการธนาคารและการประกันภัยพุทธศักราช (๙) บรรดาพิกัดอัตราข้อบังคับกฎประกาศและบทกฎหมายอื่นซึ่งออกเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหรือดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น และนับตั้งแต่วันใช้บทบัญญัติในลักษณะ ๒ หมวด ๖ แห่งประมวลรัษฎากรว่าด้วยอากรแสตมป์ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติอากรแสตมป์พุทธศักราช ๒๔๗๕ กับบรรดาพิกัดอัตราข้อบังคับกฎและบทกฎหมายอื่นซึ่งออกเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหรือดำเนินการตามพระราชบัญญัตินั้น มาตรา ๕ บรรดาพระราชบัญญัติประกาศพิกัดอัตราข้อบังคับกฎและบทกฎหมายที่ให้ยกเลิกตามความในมาตรา ๔ วรรคแรกนั้นยังคงให้ใช้บังคับได้ในการเก็บภาษีอากรจำนวนพุทธศักราชต่างๆ ก่อนใช้ประมวลรัษฎากร ส่วนพระราชบัญญัติพิกัดอัตราข้อบังคับกฎและบทกฎหมายที่ให้ยกเลิกตามความในมาตรา ๔ วรรคสุดท้ายก็ยังคงให้ใช้บังคับได้ในการเก็บอากรที่จะพึงเรียกเก็บได้ก่อนใช้บทบัญญัติในลักษณะ ๒ หมวด ๖ แห่งประมวลรัษฎากรว่าด้วยอากรแสตมป์ มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีประมวลรัษฎากรลักษณะ ๑ข้อความเบื้องต้น มาตรา ๑ กฎหมายนี้ให้เรียกว่า "ประมวลรัษฎากร" มาตรา ๒ ในประมวลรัษฎากรนี้เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น หมายความว่ารัฐมนตรีผู้รักษาการตามประมวลรัษฎากรนี้ "รัฐมนตรี" "อธิบดี" หมายความว่าอธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมาย หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วย "ผู้ว่าราชการจังหวัด" "ตำบล" หมายความว่านายอำเภอสมุห์บัญชีอำเภอหรือสมุห์บัญชีเขต "นายอำเภอ" หมายความรวมถึงหัวหน้าเขตและปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอด้วย "ที่ว่าการอำเภอ" หมายความรวมถึงที่ว่าการเขตและที่ว่าการกิ่งอำเภอด้วย "องค์การของรัฐบาล" หมายความว่าองค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลและกิจการของรัฐตามกฎหมายที่จัดตั้งกิจการนั้นและหมายความรวมถึงหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของซึ่งไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลด้วย "ประเทศไทย" หรือ "ราชอาณาจักร" หมายความรวมถึงเขตไหล่ทวีปที่เป็นสิทธิของประเทศไทยตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไปและตามความตกลงกับต่างประเทศด้วย มาตรา ๓ บรรดารัษฎากรประเภทต่างๆ ซึ่งเรียกเก็บตามประมวลรัษฎากรนี้จะตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อการต่อไปนี้ก็ได้คือ (๑) ลดอัตราหรือยกเว้นเพื่อให้เหมาะสมกับเหตุการณ์กิจการหรือสภาพของท้องที่บางแห่งหรือทั่วไป (๒) ยกเว้นแก่บุคคลหรือองค์การระหว่างประเทศตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ต่อองค์การสหประชาชาติหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือตามสัญญาหรือตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันกับนานาประเทศ (๓) ยกเว้นแก่รัฐบาลองค์การของรัฐบาลเทศบาลสุขาภิบาลองค์การศาสนาหรือองค์การการกุศลสาธารณะ การลดหรือยกเว้นตามจะตราพระราชกฤษฎีกายกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงก็ได้ (๑) (๒) และ (๓) นั้น มาตรา ๓ ทวิถ้าเจ้าพนักงานดังต่อไปนี้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรต้องได้รับโทษจำคุกหรือไม่ควรถูกฟ้องร้องให้มีอำนาจเปรียบเทียบโดยกำหนดค่าปรับแต่สถานเดียวในความผิดต่อไปนี้เว้นแต่ความผิดตามมาตรา ๑๓ คือ (๑) ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือมีโทษปรับหรือจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือทั้งปรับทั้งจำซึ่งโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครให้เป็นอำนาจของอธิบดีถ้าเกิดในจังหวัดอื่นให้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด (๒) ความผิดที่มีโทษปรับหรือโทษจำคุกเกินหกเดือนแต่ไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งปรับทั้งจำซึ่งโทษจำคุกเกินหกเดือนแต่ไม่เกินหนึ่งปีให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยอธิบดีอธิบดีกรมการปกครองและอธิบดีกรมตำรวจหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ถ้าผู้ต้องหาใช้ค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบกำหนดแล้วให้ถือว่าเป็นอันคุ้มผู้ต้องหามิให้ถูกฟ้องร้องต่อไปในกรณีแห่งความผิดนั้น ถ้าผู้มีอำนาจเปรียบเทียบตามวรรคหนึ่งเห็นว่าไม่ควรใช้อำนาจเปรียบเทียบหรือเมื่อเปรียบเทียบแล้วผู้ต้องหาไม่ยอมตามที่เปรียบเทียบหรือยอมแล้วแต่ไม่ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบกำห
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
4 สิงหาคมพุทธศักราช ณ วันที่ 31 มีนาคมพุทธศักราช 2481 เป็นปีที่ 5 ต่อไปดังนี้มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า พุทธศักราช 2481 "มาตรา2 1 เมษายนพุทธศักราช 2482 ไปเป็นต้นมาตรา3 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนพุทธศักราช 2482 เป็นต่อไปเว้นแต่บทบัญญัติในลักษณะ 2 หมวด 6 ว่าด้วยอากรแสตมป์นั้นให้ใช้เป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนพุทธศักราช 2482 เป็นต้นไปมาตรา4 นับ แต่วันใช้พระราชบัญญัตินี้ให้ยกเลิก(1) พระราชบัญญัติเงินรัชชูปการ พุทธศักราช 2468 (2) พระราชบัญญัติลักษณะเก็บเงินค่านา ร.ศ. 119 (3) พุทธศักราช 2464 (4) ร.ศ. 119 (5) สำหรับเก็บเงินอากรสวนใหญ่รัตนโกสินทร์ศก 130 (6) พระราชบัญญัติภาษีเงินได้พุทธศักราช 2485 (7) พระราชบัญญัติภาษีการค้าพุทธศักราช 2475 (8) พุทธศักราช 2476 (9) บรรดาพิกัดอัตราข้อบังคับกฎประกาศและบทกฎหมายอื่น 2 หมวด 6 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติอากรแสตมป์พุทธศักราช 2475 กับบรรดาพิกัดอัตราข้อบังคับกฎและบทกฎหมายอื่น 5 บรรดาพระราชบัญญัติประกาศพิกัดอัตราข้อบังคับกฎ 4 วรรคแรกนั้น ก่อนใช้ ๆ ประมวลรัษฎากรส่วนพระราชบัญญัติพิกัดอัตราสมัครข้อบังคับกฎและบทกฎหมายที่ให้ยกเลิกตามความในมาตรา4 วรรคสุดท้าย ในลักษณะ 2 หมวด 6 6 1 ข้อความเบื้องต้นมาตรา 1 กฎหมายนี้ให้เรียกว่า "ประมวลรัษฎากร" มาตรา 2 ในประมวลรัษฎากรนี้ หมายความว่าอธิบดีกรมสรรพากร หมายความว่านายอำเภอสมุห์บัญชีอำเภอหรือสมุห์บัญชีเขต"นายอำเภอ" หมายความรวมถึงหัวหน้าเขต หมายความรวมถึงที่ว่าการเขตและที่ว่าการกิ่งอำเภอด้วย"องค์การของรัฐบาล" นิติบุคคลด้วย"ประเทศไทย" หรือ "ราชอาณาจักร" ประเทศที่ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไป 3 บรรดารัษฎากรประเภทต่าง ๆ ซึ่งเรียกเก็บตามประมวลรัษฎากรนี้ คือ(1) ลดอัตรา กับนานาประเทศ(3) ยกเว้นแก่รัฐบาลองค์การของรัฐบาลเทศบาลสุขาภิบาลองค์การศาสนา (1) (2) และ (3) นั้น 3 ทวิถ้าเจ้าพนักงานดังต่อไปนี้ เว้นแต่ความผิดตามมาตรา 13 คือ(1) ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว หรือทั้งปรับทั้งจำ ให้เป็นอำนาจของอธิบดี แต่ไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งปรับทั้งจำ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยอธิบดี ผู้ที่หรือได้รับมอบหมายถ้า เทียบกำหนดแล้ว หรือเมื่อเปรียบเทียบแล้วผู้ต้องหาไม่ยอมตามที่เปรียบเทียบ





































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
พระราชบัญญัติ

พุทธศักราชให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร๒๔๘๑





( ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎรในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ลงวันที่โตเกียวสิงหาคมพุทธศักราช๒๔๘๐ )

อาทิตย์ทิพอาภาพลอากาศเอก เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน
ตราไว้ณวันที่๓๑มีนาคมพุทธศักราช๒๔๘๑
เป็นปีที่๕ในรัชกาลปัจจุบัน

โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่าสมควรตราประมวลรัษฎากรเพื่อปรับปรุงการรัษฎากรตามหลักความเป็นธรรมแก่สังคมดังต่อไปนี้

จึงมีพระราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎรมาตรา๑พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า " พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรพุทธศักราช๒๔๘๑ "
มาตรา๒ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันที่๑เมษายนพุทธศักราช๒๔๘๒เป็นต้นไป
มาตรากันให้ใช้ประมวลรัษฎากรตามที่ตราไว้ต่อท้ายพระราชบัญญัตินี้เป็นกฎหมาย more money than ๑เมษายนพุทธศักราช๒๔๘๒เป็นต่อไปเว้นแต่บทบัญญัติในลักษณะ๒หมวดจากว่าด้วยอากรแสตมป์นั้น๑มิถุนายนพุทธศักราช๒๔๘๒เป็นต้นไป

มาตราโตเกียวนับแต่วันใช้พระราชบัญญัตินี้ให้ยกเลิก
( ๑ ) พระราชบัญญัติเงินรัชชูปการพุทธศักราช๒๔๖๘
( ๒ ) พระราชบัญญัติลักษณะเก็บเงินค่านา Flying ศ . ๑๑๙
( กัน ) พระราชบัญญัติลักษณะการเก็บภาษีค่าที่ไร่อ้อยพุทธศักราช๒๔๖๔
( โตเกียว ) พระราชบัญญัติเปลี่ยนวิธีเก็บภาษียา Flying ศ . ๑๑๙
( ๕ ) ประกาศพระราชทานยกเงินอากรสวนใหญ่ค้างเก่าและเดินสำรวจต้นผลไม้ใหม่สำหรับเก็บเงินอากรสวนใหญ่รัตนโกสินทร์ศก๑๓๐
( จาก ) พระราชบัญญัติภาษีเงินได้พุทธศักราช๒๔๘๕
( ๗ ) พระราชบัญญัติภาษีการค้าพุทธศักราช๒๔๗๕
( แยก ) พระราชบัญญัติภาษีการธนาคารและการประกันภัยพุทธศักราช๒๔๗๖
( ซ้งโคย ) บรรดาพิกัดอัตราข้อบังคับในประกาศและบทกฎหมายอื่นซึ่งออกเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหรือดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น
และนับตั้งแต่วันใช้บทบัญญัติในลักษณะ๒หมวดจากแห่งประมวลรัษฎากรว่าด้วยอากรแสตมป์ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติอากรแสตมป์พุทธศักราช๒๔๗๕กับบรรดาพิกัดอัตราข้อบังคับในและบทกฎหมายอื่นมาตรา๕บรรดาพระราชบัญญัติประกาศพิกัดอัตราข้อบังคับและบทกฎหมายที่ให้ยกเลิกตามความในมาตราในโตเกียววรรคแรกนั้นยังคงให้ใช้บังคับได้ในการเก็บภาษีอากรจำนวนพุทธศักราชต่างจะก่อนใช้ประมวลรัษฎากร
ส่วนพระราชบัญญัติพิกัดอัตราข้อบังคับและบทกฎหมายที่ให้ยกเลิกตามความในมาตราในโตเกียววรรคสุดท้ายก็ยังคงให้ใช้บังคับได้ในการเก็บอากรที่จะพึงเรียกเก็บได้ก่อนใช้บทบัญญัติในลักษณะ๒หมวดเจอร์มาตราจากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้



ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพิบูลสงครามนายกรัฐมนตรี







ประมวลรัษฎากร




ข้อความเบื้องต้นลักษณะต่างหากมาตรา๑กฎหมายนี้ให้เรียกว่า " ประมวลรัษฎากร "
มาตรา๒ในประมวลรัษฎากรนี้เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่นหมายความว่ารัฐมนตรีผู้รักษาการตามประมวลรัษฎากรนี้

" รัฐมนตรี "" อธิบดี " หมายความว่าอธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมาย
" ผู้ว่าราชการจังหวัด " หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วย
" อำเภอ " หมายความว่านายอำเภอสมุห์บัญชีอำเภอหรือสมุห์บัญชีเขต
" นายอำเภอ " หมายความรวมถึงหัวหน้าเขตและปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอด้วยหมายความรวมถึงที่ว่าการเขตและที่ว่าการกิ่งอำเภอด้วย

" ที่ว่าการอำเภอ "" องค์การของรัฐบาล " หมายความว่าองค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลและกิจการของรัฐตามกฎหมายที่จัดตั้งกิจการนั้นนิติบุคคลด้วย
" ประเทศไทย " ค็อค " ราชอาณาจักร " หมายความรวมถึงเขตไหล่ทวีปที่เป็นสิทธิของประเทศไทยตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไปและตามความตกลงกับต่างประเทศด้วย
มาตรากันบรรดารัษฎากรประเภทต่างจะซึ่งเรียกเก็บตามประมวลรัษฎากรนี้จะตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อการต่อไปนี้ก็ได้ความ
( ๑ ) ลดอัตราหรือยกเว้นเพื่อให้เหมาะสมกับเหตุการณ์กิจการหรือสภาพของท้องที่บางแห่งหรือทั่วไป
( ๒ ) ยกเว้นแก่บุคคลหรือองค์การระหว่างประเทศตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ต่อองค์การสหประชาชาติหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือตามสัญญาหรือตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันกับนานาประเทศ
( กัน ) ยกเว้นแก่รัฐบาลองค์การของรัฐบาลเทศบาลสุขาภิบาลองค์การศาสนาหรือองค์การการกุศลสาธารณะ
การลดหรือยกเว้นตาม ( ๑ ) ( ๒ ) และ ( กัน ) นั้นจะตราพระราชกฤษฎีกายกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงก็ได้
มาตรากันทวิถ้าเจ้าพนักงานดังต่อไปนี้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรต้องได้รับโทษจำคุกหรือไม่ควรถูกฟ้องร้องให้มีอำนาจเปรียบเทียบโดยกำหนดค่าปรับแต่สถานเดียวในความผิดต่อไปนี้เว้นแต่ความผิดตามมาตรา๑๓ความ
( ๑ ) ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือมีโทษปรับหรือจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือทั้งปรับทั้งจำซึ่งโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครให้เป็นอำนาจของอธิบดี( ๒ ) ความผิดที่มีโทษปรับหรือโทษจำคุกเกินหกเดือนแต่ไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งปรับทั้งจำซึ่งโทษจำคุกเกินหกเดือนแต่ไม่เกินหนึ่งปีให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยอธิบดีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ถ้าผู้ต้องหาใช้ค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบกำหนดแล้วให้ถือว่าเป็นอันคุ้มผู้ต้องหามิให้ถูกฟ้องร้องต่อไปในกรณีแห่งความผิดนั้น

ถ้าผู้มีอำนาจเปรียบเทียบตามวรรคหนึ่งเห็นว่าไม่ควรใช้อำนาจเปรียบเทียบหรือเมื่อเปรียบเทียบแล้วผู้ต้องหาไม่ยอมตามที่เปรียบเทียบหรือยอมแล้วแต่ไม่ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบกำห
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: