(1) การจําแนกตามความใกลชิดกับตลาดปฐมภูมิแบงออกเปน 2 ประเภท คือรีสอรทที่เปนจุดหมายปลายทาง (Destination Resorts) และรีสอรทที่ไมใชจุดหมายปลายทาง (NonDestinationResorts) โดยพิจารณาจากระยะทางและระยะเวลาในการเดินทางเขาถึงความถี่ในการเดินทางไปเยือนระยะเวลาในการพํานักโดย รีสอรทประเภทแรกมักตั้งอยูไกลผูไปเยือนไมนิยมเลือกเดินทางโดยรถยนตเดินทางไปเยือนไดไมบอยครั้งนักเฉลี่ยเพียงปละ 1-2 ครั้งแตจะใชเวลาในการพํานักราวหนึ่งสัปดาหสวนรีสอรทประเภทหลังจะตรงกันขามกับประเภทแรกคือระยะทางไมไกลนัก นิยมเลือกเดินทางโดยรถยนตมีความถี่ในการเดินทางไปเยือนไปบอยครั้งกวาแตระยะเวลาในการพํานักจะคอนขางสั้นเฉลี่ย 1-3 วัน
(2) การจําแนกตามรูปแบบของสถานที่แบงออกเปนรีสอรทริมทะเล หรือชายฝง หรือมหาสมุทร (Beach/Seaside/Costal or Ocean Resort) รีสอรทเชิงเขา (Mountain Resort) รีสอรทเพื่อกิจกรรมกีฬา (Sport Resort) เชน รีสอรทฤดูหนาวเพื่อการเลนกีฬา (Ski Resort) และรีสอรทบนเรือสําราญ (Cruise Ships)คอนโดมีเนียมโฮเต็ล (Condominium Hotels) หมายถึงโรงแรมที่รวมหองชุดเขาดวยกันแทนหองที่พักธรรมดาทั่วไป บุคคลที่ซื้อคอนโดมีเนียมจากบริษัทผูสราง มีฐานะเปนผูถือกรรมสิทธิ์ในหองชุดคอนโดมีเนียม ผูถือกรรมสิทธิ์จะทําสัญญากับบริษัทผูขาย หรือบริษัทที่สามที่จะเขามาบริหารและรวมดําเนินการคอนโดมีเนียม เพื่อดําเนินธุรกิจโรงแรม หรือเปดใหนักเดินทางทองเที่ยวมาเชาพักเจาของกรรมสิทธิ์ที่จะเขามาพักในชวงเวลาหนึ่ง ที่กําหนดแนนอนชัดเจนในแตละรอบหนึ่งปโดยจายคาเชาในอัตราลดพิเศษ บริษัทหรือผูดําเนินการบริหารโรงแรมจะไดรับคาดําเนินการและคาเชาหองพักคอนโดมีเนียมจากผูมาเชาพักที่พักประเภทถือกรรมสิทธิ์รวมกัน (Timesharing) หมายถึง ที่พักประเภทถือกรรมสิทธิ์รวมกัน ในรูปแบบพิเศษของเจาของกรรมสิทธิ์คอนโดมีเนียม โดยการเฉลี่ยคาใชจายรวมทุนกันซื้ออาคารชุด หรือคอนโดมีเนียม แลวกําหนดชวงระยะเวลาที่แตละคนไปใชบริการในแตละรอบปหมุนเวียนกันไป หลักการสําคัญของที่พักแบบนี้ประการแรกการมีสิทธิ์รวมกันในการเขาพักเปนจํานวนปๆ ละกี่ครั้งกําหนดไวแนนอน ประการที่สอง รวมกันเฉลี่ยคาใชจาย ซึ่งจะถูกกวาไปเชาโรงแรมหรืออาคารชุด ประหยัดเงินลงทุนที่จะไปซื้อบาน หรืออาคารชุดอยูอาศัยแลวไดใชไมคุมคา ประการที่สาม สิทธิ์ที่จะแลกเปลี่ยนสิทธิการเขาพักในที่พักของบุคคลอื่นหรือในแหลงทองเที่ยวอื่น ๆ ได