Although this is the first study to

Although this is the first study to examine the effects of music listening on pain and stress in patients with FMS in an everyday life setting, combining both psychological and biological outcomes, this study is not without limitations. First, the timing of the assessment relative to the music listening does not allow us to draw any conclusions about immediate effects of music listening on pain and stress. As there were, in part, up to 4 h between music listening and the assessments, we cannot rule out that music listening had acute effects on subjective pain and stress reports which were not sufficiently persistent to be captured by the later assessment. Second, we only asked about deliberate music listening. Thus, we cannot rule out that participants were exposed to background music during episodes that we coded as no-music episodes. Future studies are necessary to examine the effects of background music on health-related outcomes. Third, our sample size was moderate, although we did use a repeated measures design, which leads to a high number of observations per participant. Fourth, our hypotheses are based on within-person observations. A comparison group (i.e., participants with acute pain and/or healthy participants) would allow the testing of between-subject hypotheses that examine the potentially different mechanisms underlying the pain-reducing effects of music listening between a population with chronic pain versus a population with acute pain. Finally, as we only assessed women, our results do not allow generalizations to male FMS patients. This should be a focus of future research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่านี้เป็นการศึกษาแรกเพื่อตรวจสอบผลของเพลงฟังบนความเจ็บปวด และความเครียดในผู้ป่วยกับ FMS ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งจิตใจ และชีวภาพผล การศึกษานี้ได้ โดยไม่มีข้อจำกัด ครั้งแรก ระยะเวลาของการประเมินที่สัมพันธ์กับการฟังเพลงไม่ให้เราวาดบทสรุปเกี่ยวกับผลทันทีเพลงฟังบนความเจ็บปวดและความเครียด เท่าที่มี ในส่วน ถึง 4 h เพลงฟังและประเมินผล เราไม่สามารถออกกฎว่า เพลงฟังมีผลเฉียบพลันปวดตามอัตวิสัยและรายงานความเครียดซึ่งไม่เพียงพอแบบจะถูกรวบรวม โดยประเมินในภายหลัง สอง เราเพียงถามเกี่ยวกับเพลงเจตนาฟัง ดังนั้น เราไม่สามารถออกกฎว่า ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสเพลงในตอนที่เราเข้ารหัสเป็นไม่มีเพลงตอน การศึกษาในอนาคตจำเป็นต้องตรวจสอบผลของเพลงบนผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้ ที่สาม ขนาดของตัวอย่างถูกปานกลาง ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ใช้แบบวัดซ้ำ ซึ่งนำไปสู่ข้อสังเกตต่อผู้เข้าร่วมจำนวนสูง สี่ สมมุติฐานของเราอยู่บนข้อสังเกตภายในบุคคล กลุ่มเปรียบเทียบ (เช่น ร่วมกับอาการปวดเฉียบพลัน) และ/หรือผู้เรียนมีสุขภาพดีจะช่วยให้การทดสอบสมมุติฐานระหว่างเรื่องที่ตรวจสอบกลไกต่าง ๆ อาจต้นผลลดอาการปวดของเพลงฟังระหว่างประชากรมีอาการปวดเรื้อรังเมื่อเทียบกับประชากรที่มีอาการปวดเฉียบพลัน สุดท้าย เป็นเท่าเราประเมินผู้หญิง ผลของเราไม่อนุญาต generalizations กับผู้ป่วยชาย FMS นี้ควรเน้นของการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่นี้คือการศึกษาแรกเพื่อตรวจสอบผลกระทบของการฟังเพลงความเจ็บปวดและความเครียดในผู้ป่วยที่มี FMS ในการตั้งค่าในชีวิตประจำวันรวมทั้งผลทางด้านจิตใจและทางชีวภาพการศึกษานี้ไม่ได้โดยไม่มีข้อ จำกัด ครั้งแรกที่ระยะเวลาของญาติประเมินเพื่อการฟังเพลงที่ไม่ได้ช่วยให้เราสามารถวาดข้อสรุปใด ๆ เกี่ยวกับผลกระทบโดยตรงจากการฟังเพลงความเจ็บปวดและความเครียด เท่าที่มีอยู่ในส่วนที่ไม่เกิน 4 ชั่วโมงระหว่างการฟังเพลงและการประเมินผลที่เราไม่สามารถออกกฎว่าเพลงที่ฟังมีผลต่อความเจ็บปวดเฉียบพลันอัตนัยและรายงานความเครียดที่ไม่ถาวรพอที่จะได้รับการบันทึกโดยการประเมินในภายหลัง ประการที่สองเราจะถามเกี่ยวกับการฟังเพลงโด​​ยเจตนา ดังนั้นเราจึงไม่สามารถออกกฎว่าผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับเพลงพื้นหลังในช่วงตอนที่เราเขียนเป็นตอนที่ไม่มีเพลง การศึกษาในอนาคตมีความจำเป็นในการตรวจสอบผลกระทบของเพลงพื้นหลังต่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับ ประการที่สามขนาดตัวอย่างของเราอยู่ในระดับปานกลางถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช้การออกแบบวัดซ้ำซึ่งนำไปสู่​​จำนวนมากของการสังเกตต่อผู้เข้าร่วม ประการที่สี่การตั้งสมมติฐานของเราจะขึ้นอยู่กับการสังเกตคนที่อยู่ใน กลุ่มเปรียบเทียบ (เช่นผู้ที่มีอาการปวดเฉียบพลันและ / หรือเข้าร่วมการมีสุขภาพดี) จะช่วยให้การทดสอบสมมติฐานระหว่างเรื่องที่ตรวจสอบกลไกที่แตกต่างกันที่อาจเกิดขึ้นภายใต้ผลกระทบที่มีอาการปวดลดการฟังเพลงระหว่างประชากรที่มีอาการปวดเรื้อรังเมื่อเทียบกับประชากรที่มี อาการปวดเฉียบพลัน ในที่สุดในขณะที่เราประเมินผู้หญิงเท่านั้นผลของเราไม่ได้ช่วยให้ภาพรวมให้กับผู้ป่วย FMS ชาย นี้ควรจะมุ่งเน้นการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถึงแม้ว่าการศึกษานี้เป็นครั้งแรก เพื่อศึกษาผลของการฟังดนตรีต่อความเจ็บปวดและความเครียดในผู้ป่วยที่มี FMS ในชีวิตประจำวันการรวมผลทั้งทางจิตวิทยาและทางชีวภาพ การศึกษานี้ไม่ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ครั้งแรกระยะเวลาของการประเมินเทียบกับการฟังเพลงไม่ได้ช่วยให้เราสามารถวาดข้อสรุปใด ๆเกี่ยวกับทันทีผลของการฟังดนตรีต่อความปวดและความเครียด เป็น มี ใน ส่วน ถึง 4 ชั่วโมง ระหว่างการฟังเพลงและการประเมินเราไม่สามารถออกกฎว่า การฟังดนตรีมีผลเฉียบพลันของความเจ็บปวดและความเครียดซึ่งเป็นอัตนัยรายงานควรหมั่นที่จะถูกจับโดยการประเมินในภายหลัง ประการที่สอง เราแค่ถามเกี่ยวกับเรื่องเพลงที่ฟัง ดังนั้นเราจึงไม่สามารถออกกฎว่า ผู้เข้าร่วมสัมผัสกับเพลงพื้นหลังในตอนที่เราเขียนเป็นตอนเพลงการศึกษาในอนาคตเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบผลของเสียงดนตรีในสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ สาม ขนาดตัวอย่างของเราคือปานกลาง แม้ว่าเราจะใช้วัดซ้ำ การออกแบบ ซึ่งนำไปสู่จำนวนมากของการสังเกต ต่อผู้เข้าร่วม ประการที่สี่ สมมติฐานของเราจากภายในบุคคล การสังเกต กลุ่มเปรียบเทียบ ( เช่นผู้ที่มีอาการปวดเฉียบพลันและ / หรือสุขภาพ ) จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบสมมติฐานระหว่างวิชาที่ศึกษากลไกที่แตกต่างกันอาจแฝงความเจ็บปวดลดผลของการฟังดนตรีระหว่างประชากรกับอาการปวดเรื้อรังเมื่อเทียบกับประชากรที่มีอาการเฉียบพลัน สุดท้ายเป็นเราประเมินผู้หญิง ผล ไม่ อนุญาต ให้ ทั่วไปชาย FMS ผู้ป่วยนี้ควรจะมุ่งมั่นในการวิจัยในอนาคต