Vitamin E’s main function in the bo

Vitamin E’s main function in the body is to work as an antioxidant, scavenging loose electrons—so-called “free radicals”—that can damage cells. (1) Antioxidants, including vitamin E, came to public attention in the 1980s, when scientists began to understand that free radical damage was involved in the early stages of artery-clogging atherosclerosis, and might also contribute to cancer, vision loss, and a host of other chronic conditions. Studies since then have dimmed some of the promise of using high dose vitamin E to prevent chronic diseases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟังก์ชันหลักของวิตามินในร่างกายจะทำงานเป็นสารต้าน scavenging อิเล็กตรอนหลวม — ดังนั้นซึ่งเรียกว่า "อนุมูลอิสระ" โดยที่สามารถทำลายเซลล์ได้ (1) สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี รวมทั้งมาพร้อมกับความสนใจของสาธารณะในทศวรรษ 1980 เมื่อนักวิทยาศาสตร์เริ่มเข้าใจว่า อนุมูลอิสระเสียในขั้นเริ่มต้นของหลอดเลือดที่หลอดเลือดแดง clogging และยังอาจนำไปสู่มะเร็ง สูญเสียวิสัยทัศน์ และโฮสต์ของโรคเรื้อรังอื่น ๆ ศึกษาตั้งแต่นั้นมีสีจางบางส่วนของสัญญาการใช้ปริมาณสูงวิตามินอีในการป้องกันโรคเรื้อรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิตามิน E หน้าที่หลักในร่างกายคือการทำงานเป็นสารต้านอนุมูลอิสระขับหลวมอิเล็กตรอนที่เรียกว่า "อนุมูลอิสระ" ใช่หรือไม่เพราะสามารถทำลายเซลล์ (1) สารต้านอนุมูลอิสระรวมทั้งวิตามินอีมาถึงความสนใจของประชาชนในช่วงปี 1980 เมื่อนักวิทยาศาสตร์เริ่มที่จะเข้าใจว่าความเสียหายอนุมูลอิสระที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นเริ่มต้นของหลอดเลือดหลอดเลือดอุดตันและยังอาจนำไปสู่​​โรคมะเร็ง, การสูญเสียการมองเห็นและ โฮสต์ของโรคเรื้อรังอื่น ๆ การศึกษาตั้งแต่นั้นได้จางบางส่วนของสัญญาของการใช้วิตามินอีในปริมาณสูงเพื่อป้องกันไม่ให้โรคเรื้อรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิตามินอีเป็นหน้าที่หลักในร่างกายให้ทำงานเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การหลวมอิเล็กตรอนที่เรียกกันว่า " อนุมูลอิสระ " - ที่สามารถทำลายเซลล์ ( 1 ) สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินอี มาถึงความสนใจของสาธารณชนในช่วงปี 1980 เมื่อนักวิทยาศาสตร์เริ่มเข้าใจความเสียหายอนุมูลอิสระ มีส่วนเกี่ยวข้องในช่วงแรกของหลอดเลือดแดงอุดตันหลอดเลือด และอาจนำไปสู่การเป็นมะเร็ง

วิตามินอีเป็นหน้าที่หลักในร่างกายให้ทำงานเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การหลวมอิเล็กตรอนที่เรียกกันว่า " อนุมูลอิสระ " - ที่สามารถทำลายเซลล์ ( 1 ) สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินอี มาถึงความสนใจของสาธารณชนในช่วงปี 1980 เมื่อนักวิทยาศาสตร์เริ่มเข้าใจความเสียหายอนุมูลอิสระ มีส่วนเกี่ยวข้องในช่วงแรกของหลอดเลือดแดงอุดตันหลอดเลือด และอาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งการสูญเสียการมองเห็น และโฮสต์ของเงื่อนไขอื่น ๆเรื้อรัง การศึกษาตั้งแต่นั้นมามีสีจางบางส่วนของสัญญาการใช้ปริมาณวิตามินอีสูง เพื่อป้องกันโรค เรื้อรัง