In recent years, Cambodia’s regiona

In recent years, Cambodia’s regional relations have been overshadowed by an ongoing border dispute with Thailand over the contested Preah Vihear temple complex, a dispute that degenerated intermittently into a shooting war between 2008 and 2011. The International Court of Justice (ICJ) had ruled in 1962 that the 900-year–old temple belonged to Cambodia, but did not specify who owned the land surrounding the historic site-which was claimed by both sides. On November 11, 2013, the ICJ awarded Cambodia sovereignty over the whole promontory of Preah Vihear itself, but left the two countries to agree on who owned the adjoining area, including Phnom Trap. The judgment allowed both sides to claim a measure of victory but was especially welcomed in Phnom Penh. Hun Sen described it as “an important and historic step forward,” while reaction from Bangkok was rather muted. There were predictable calls for ASEAN (the Association of Sourtheast Asian Nations) to help resolve the residual dispute, but it remains unclear whether the lackluster regional body has either the requisite capacity or the political will to make a difference.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระดับภูมิภาคของกัมพูชาได้ถูก overshadowed โดยการต่อกรณีพิพาทกับประเทศไทยผ่านระหว่างวิหารวัดซับซ้อน ข้อโต้แย้งที่ degenerated เป็นระยะ ๆ ในสงครามยิงระหว่าง 2008 และ 2011 นานาชาติศาลยุติธรรม (ICJ) มีปกครองในปี 1962 ที่ วัด 900 ปี – อายุอยู่กับกัมพูชา แต่ไม่ได้ระบุผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินในประวัติศาสตร์รอบไซต์การถูกอ้าง โดยทั้งสองฝ่าย บน 11 พฤศจิกายน 2013, ICJ ที่มอบอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาเหนือ promontory ทั้งหมดของวิหารเอง แต่จากทั้งสองประเทศจะตกลงบนที่เจ้าของตั้งอยู่ติดกัน รวมทั้ง Phnom Trap พิพากษาอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายอ้างวัดชัยชนะ แต่ที่ได้รับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพนมเปญ ฮุนเซนอธิบายมันเป็น "ความสำคัญ และประวัติศาสตร์ก้าว ในขณะที่ปฏิกิริยาจากกรุงเทพได้แต่ไม่ออกเสียง มีเรียกได้ในอาเซียน (สมาคมของ Sourtheast เอเชียชาติ) เพื่อช่วยแก้ไขข้อโต้แย้งที่เหลือ แต่มันยังคงไม่ชัดเจนว่าตัวภูมิภาค lackluster มีกำลังการผลิตที่จำเป็นหรือการเมืองที่จะให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ในระดับภูมิภาคของกัมพูชาได้รับการบดบังด้วยข้อพิพาทชายแดนอย่างต่อเนื่องกับประเทศไทยที่ผ่านการประกวดพระวิหารวัดที่ซับซ้อนข้อพิพาทที่ถดถอยต่อเนื่องเข้าสู่สงครามยิงระหว่างปี 2008 และ 2011. ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้ปกครองใน 1962 ที่วัด 900 ปีเป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินรอบประวัติศาสตร์เว็บไซต์ซึ่งได้รับการอ้างว่าทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2013, ศาลโลกที่ได้รับรางวัลอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาเหนือแหลมทั้งเขาพระวิหารตัวเอง แต่ที่เหลือทั้งสองประเทศเห็นด้วยกับผู้ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ติดรวมทั้งกรุงดัก การตัดสินที่ได้รับอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายจะเรียกร้องวัดชัยชนะ แต่ก็ยินดีต้อนรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงพนมเปญ ฮุนเซนเล่าว่า "ขั้นตอนที่สำคัญและประวัติศาสตร์ไปข้างหน้า" ในขณะที่ปฏิกิริยาจากกรุงเทพฯค่อนข้างเงียบ มีสายคาดการณ์อาเซียน (สมาคมประชาชาติเอเชีย Sourtheast) เพื่อช่วยแก้ปัญหาข้อพิพาทที่เหลืออยู่ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าร่างกายในระดับภูมิภาคท​​ี่น่าเบื่อมีทั้งความสามารถที่จำเป็นหรือเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะสร้างความแตกต่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน ปี ล่าสุด ของกัมพูชา ความสัมพันธ์ในภูมิภาคได้ overshadowed โดยข้อพิพาทชายแดนอย่างต่อเนื่องกับประเทศไทยมากกว่าปัญหาปราสาทพระวิหารที่ซับซ้อน , ข้อพิพาทที่เสื่อมเป็นระยะๆในสงครามยิงระหว่าง 2008 และ 2011 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( ICJ ) ได้ปกครองใน ค.ศ. 1962 ว่า 900 ปี และวัดเก่าแก่ที่เป็นของกัมพูชาแต่ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินโดยรอบโบราณสถานที่ถูกอ้างโดยทั้งสองฝ่าย เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2013 ศาลโลกได้รับอธิปไตยกัมพูชาแหลมทั้งเขาพระวิหารเอง เหลือแต่สองประเทศที่จะเห็นด้วยกับคนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ติดกัน ได้แก่ กับดักพนม .การพิพากษาอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายอ้างวัดชัยชนะ แต่ได้รับการต้อนรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพนมเปญ ฮุน เซน อธิบายว่ามันเป็น " ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และก้าวไปข้างหน้า " ในขณะที่ปฏิกิริยาจากกรุงเทพค่อนข้างเงียบ . มีการเรียกว่า อาเซียน ( สมาคมประชาชาติเอเซีย sourtheast ) จะช่วยแก้ไขข้อพิพาทที่ตกค้างแต่มันยังคงไม่ชัดเจนว่าร่างกายภูมิภาค 2 มีทั้งวิชาบังคับความจุ หรือจะทางการเมืองเพื่อสร้างความแตกต่าง