ถือเป็นก้าวใหม่ในวงการร้านค้าออนไลน์ เมื่อเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซแดนอเมริกันอย่าง “อเมซอน (Amazon)” ประกาศว่าได้เริ่มนำหุ่นยนต์มาทำงานในกระบวนการจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อที่ได้รับ เบื้องต้นมีการใช้หุ่นยนต์มากกว่า 15,000 ตัว ในศูนย์กระจายสินค้ามากกว่า 10 แห่งทั่วสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า หุ่นยนต์ที่อเมซอนนำมาเสริมแกร่งในกระบวนการกระจายสินค้านั้นเป็นเทคโนโลยีของบริษัท “คิวา ซิสเต็มส์ (Kiva Systems)” บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่อเมซอนซื้อกิจการมาด้วยราคา 775 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว (2012) ซึ่งทำให้อเมซอนสามารถเพิ่มจำนวนหุ่นยนต์ หรือพัฒนาความสามารถให้หุ่นยนต์นี้มีบทบาทในคลังสินค้าของอเมซอนได้มากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม อเมซอนยืนยันว่า การนำหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการจัดส่งสินค้านี้ไม่ได้กระทบต่อการจ้างพนักงาน เนื่องจากอเมซอนยังคงมีแผนว่าจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉพาะปีนี้ อเมซอนเคยประกาศว่าจะจ้างพนักงานมากกว่า 80,000 คน เพื่อให้กระบวนการจัดส่งสินค้าเป็นไปได้รวดเร็วพอในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี
การสำรวจในส่วนนี้พบว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าของอเมซอนช่วงปลายปีจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดจำหน่ายสินค้าในช่วงหลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้า หรือ Thanksgiving นั้นทะลุไปถึงหลัก 36.8 ล้านชิ้น จุดนี้ทำให้อเมซอนมีแผนว่าจ้างพนักงานชั่วคราวหลายพันตำแหน่ง
สำหรับหน้าที่หลักของหุ่นยนต์ Kiva คือ การเคลื่อนไหวไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยด้วยล้อเลื่อน นอกจากนี้ อเมซอนยังนำหุ่นแขนกล Robo-Stow มาช่วยลดภาระเรื่องการยกสินค้าด้วย ทั้งหมดนี้ช่วยลดเวลาให้การจัดส่งสินค้าของอเมซอนทำได้เร็วขึ้น บนความคาดหวังว่าจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจมากกว่าเดิม
เบื้องต้น อเมซอนประเมินว่า เทศกาลจับจ่ายปลายปีไตรมาส 4 จะทำให้บริษัทมีรายรับมากขึ้น 18% โดยเติบโตจาก 2.73 หมื่นล้านเหรียญ มาเป็น 3.03 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินประมาณ 9.6 แสนล้านบาท