Below the gelation temperatures of

Below the gelation temperatures of the MC solutions G′ and G″ show strong dependencies of the angular frequency ω. At low frequencies, the loss modulus G″ is higher than the storage modulus G′. Deformation takes place so slowly that the majority of the energy is dissipated by viscous flow. The MC chains have time to respond to the externally imposed deformation by relaxing to an energetically more favorable state. As the frequency increases, the available relaxation time declines. The polymer chains can no longer slip past one another, so entanglements act more and more like fixed junctions. Consequently, the ability of this temporary polymer network to store the temporarily imposed energy increases, and it behaves more like an elastic solid. The storage modulus therefore increases more sharply with frequency than the loss modulus does ( Clasen & Kulicke, 2001).

Due to a low network structure density at a concentration of c = 1% there is no cross-over of G′ and G″ in the frequency domain for which reliable measurement data could be obtained. With increased concentration and polymer density the relaxation of the macromolecules gets hindered. This also leads to enhanced number of entanglements, increased absolute position of the moduli with increasing concentrations and a cross-over of the moduli can be detected in the high frequency region.

To further analyze the solution state of the polymers in solution, the data of the complex viscosity |η*| of the oscillation experiment were compared to the steady shear flow viscosity η. This follows the principles of the empirical Cox–Merz rule where equal values of |η*| and η for equivalent values of angular frequencies and shear rates were shown for melts or homogenous solutions ( Cox & Merz, 1958). If a super architecture structure is present in the sample, η is lower than |η*| due to partial destruction of this structure with increasing applied shear

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต่ำกว่าอุณหภูมิ gelation ในโซลูชั่น MC G′ และ G″ แสดงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของωความถี่แองกูลาร์ ความถี่ต่ำ โมดูลัสสูญเสีย G″ ได้สูงกว่าโมดูลัสเก็บ G′ แมพเกิดอย่างช้า ๆ ว่า พลังงานส่วนใหญ่เป็น dissipated โดยการไหลความหนืด กลุ่ม MC มีเวลาตอบสนองการแมพกำหนดภายนอกผ่อนคลายสถานะหรบ ๆ ดี เป็นความถี่ที่เพิ่มขึ้น เวลาพักผ่อนมีปฏิเสธ โซ่พอลิเมอร์สามารถไม่จัดส่งผ่านกัน เพื่อกีดขวางดำเนินการมากขึ้นเช่น junctions ถาวร ดังนั้น เพิ่มความสามารถของเครือข่ายพอลิเมอร์ชั่วคราวนี้เก็บพลังงานชั่วคราวตาม และมันทำงานมากขึ้นเช่นของแข็งยืดหยุ่น โมดูลัสเก็บจึงเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความถี่กว่าโมดูลัสขาดทุนไม่ (Clasen & Kulicke, 2001)เนื่องจากความหนาแน่นโครงสร้างเครือข่ายต่ำที่ความเข้มข้นของ c = 1% มีไม่เกินข้าม G′ และ G″ ในโดเมนความถี่ซึ่งสามารถรับข้อมูลการวัดที่เชื่อถือได้ มีความหนาแน่นเข้มข้นและพอลิเมอร์ เพิ่ม เป็นของ macromolecules รับผู้ที่ขัดขวาง นี้ยังนำไปสู่จำนวนกีดขวางขั้นสูง เพิ่มตำแหน่งสัมบูรณ์ของ moduli ด้วยเพิ่มความเข้มข้นมากกว่าขนของ moduli สามารถตรวจพบในภูมิภาคความถี่สูงการวิเคราะห์สถานะโซลูชันของโพลิเมอร์ในโซลูชัน ข้อมูลของ|ηความหนืดซับซ้อน * เพิ่มเติม | ทดลองสั่นได้เมื่อเปรียบเทียบกับแรงเฉือน steady ไหลความหนืดη นี้ตามหลักของกฎค็อกซ์-Merz ประจักษ์ซึ่งเท่ากับค่าของ|η | และηค่าเทียบเท่าของความถี่แองกูลาร์และอัตราเฉือนถูกแสดงสำหรับละลายหรือโซลูชั่นให้ (ค็อกซ์และ Merz, 1958) ถ้าโครงสร้างสถาปัตยกรรมซุปเปอร์อยู่ในตัวอย่าง ηคือต่ำกว่า|η | เนื่องจากทำลายบางส่วนของโครงสร้างนี้มีการเพิ่มใช้แรงเฉือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้านล่างอุณหภูมิเจในโซลูชั่น MC G และ G "แสดงการอ้างอิงที่แข็งแกร่งของความถี่เชิงมุมω ที่ความถี่ต่ำโมดูลัสการสูญเสียจี "จะสูงกว่าการจัดเก็บโมดูลัสจี ' ความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้ช้าว่าส่วนใหญ่ของพลังงานที่มีการกระจายโดยการไหลหนืด โซ่ MC มีเวลาในการตอบสนองต่อความผิดปกติที่เรียกเก็บจากภายนอกด้วยการผ่อนคลายไปสู่สภาพที่ดีขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ขณะที่การเพิ่มขึ้นของความถี่เวลาการพักผ่อนที่มีอยู่ลดลง โซ่ลิเมอร์ไม่สามารถลื่นหนึ่งที่ผ่านมาอีกดังนั้น entanglements ทำหน้าที่มากขึ้นเช่นทางแยกคงที่ ดังนั้นความสามารถของเครือข่ายลิเมอร์ชั่วคราวในการจัดเก็บที่กำหนดชั่วคราวเพิ่มขึ้นของพลังงานและมันจะทำงานมากขึ้นเช่นความยืดหยุ่นที่เป็นของแข็ง โมดูลัสการจัดเก็บจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่มีความถี่มากกว่าโมดูลัสการสูญเสียไม่ (Clasen และ Kulicke, 2001). เนื่องจากความหนาแน่นของโครงสร้างเครือข่ายในระดับต่ำที่ความเข้มข้นของ c = 1% ไม่มีข้ามไปจีและจี "ใน โดเมนความถี่ที่ข้อมูลการวัดที่เชื่อถือได้อาจจะได้รับ ด้วยการเพิ่มความเข้มข้นและความหนาแน่นของพอลิเมอผ่อนคลายของโมเลกุลที่ได้รับการขัดขวาง นอกจากนี้ยังนำไปสู่จำนวนที่เพิ่มขึ้นของ entanglements เพิ่มตำแหน่งที่แน่นอนของโมดูลที่มีความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นและข้ามของโมดูลที่สามารถตรวจพบในภูมิภาคความถี่สูง. เพื่อเป็นการวิเคราะห์รัฐแก้ปัญหาของโพลิเมอร์ในการแก้ปัญหาข้อมูลของ ความหนืดที่ซับซ้อน | η * | ของการทดสอบการสั่นที่ถูกเมื่อเทียบกับการไหลคงความหนืดเฉือนη นี้ตามหลักการของการทดลองกฎ Cox-Merz ที่ค่าเท่ากัน | η * | และηค่าเทียบเท่าของความถี่เชิงมุมและอัตราเฉือนที่มีการแสดงสำหรับละลายหรือการแก้ปัญหาเป็นเนื้อเดียวกัน (Cox และ Merz, 1958) หากโครงสร้างสถาปัตยกรรมสุดมีอยู่ในตัวอย่างηต่ำกว่า | η * | เนื่องจากการทำลายบางส่วนของโครงสร้างนี้มีเพิ่มขึ้นเฉือนนำไปใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ด้านล่างเจลาตินอุณหภูมิ MC โซลูชั่น G และ G ให้แข็งแรงนั้นบอกว่า การอ้างอิงของωความถี่เชิงมุม . ที่ความถี่ต่ำ การสูญเสียค่า g เพลงสูงกว่ากระเป๋าัส G นั้น . ความผิดปกติเกิดขึ้นช้ามากที่ส่วนใหญ่ของพลังงานจะลดลงโดยการไหลหนืดพิธีกร โซ่ มีเวลาที่จะตอบสนองต่อจากภายนอกโดยการผ่อนคลายสภาพดีมีพลังมากขึ้น เมื่อความถี่เพิ่มขึ้น เวลาพักผ่อนของปฏิเสธ พอลิเมอร์โซ่ไม่สามารถผ่านอีกคนหนึ่ง เพื่อกีดขวางทำเหมือนซ่อมทางแยก จากนั้นความสามารถนี้ชั่วคราว โพลีเมอร์ เครือข่ายเก็บชั่วคราวกำหนดพลังงานที่เพิ่มขึ้น และทำตัวเหมือนเป็นยางแข็ง การจัดเก็บค่าโมดูลัสจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความถี่กว่า loss modulus ( เคลเซิ่น&

kulicke , 2001 )เนื่องจากความหนาแน่นของโครงสร้างเครือข่ายต่ำความเข้มข้น C = % 1 ไม่มีข้ามกลุ่ม G และ g ในนั้นบอกว่า โดเมนความถี่ที่ข้อมูลเชื่อถือได้ สามารถวัดได้ กับการเพิ่มสมาธิและการผ่อนคลายของโมเลกุลของพอลิเมอร์ถูกขัดขวาง นี้ยังนำไปสู่จำนวนที่เพิ่มขึ้นของการกีดขวาง ,เพิ่มตำแหน่งของค่าโมดูลัสแบบเพิ่มความเข้มข้นและข้ามกลุ่มของเส้นใยที่สามารถตรวจพบในความถี่สูง เขต .

เพิ่มเติม วิเคราะห์แก้ไขสถานะของพอลิเมอร์ในการแก้ปัญหาข้อมูลที่ซับซ้อนของความหนืด | η * | ของการแกว่งการทดลองเปรียบเทียบกับการไหลคงที่ความหนืดเฉือนη .นี้ตามหลักเชิง Cox –แมร์ซกฎที่เท่ากับค่า | η * | ηเทียบเท่าและค่าความถี่เชิงมุมและอัตราเฉือนถูกแสดงเพื่อละลายหรือ homogenous โซลูชั่น ( Cox &เมิร์ส , 1958 ) ถ้าโครงสร้างสถาปัตยกรรมสุดมีอยู่ในตัวอย่าง ηต่ำกว่า | η * | เนื่องจากการทำลายบางส่วนของโครงสร้างนี้กับการใช้แรงเฉือน