DiabetesThere is a growing interest

Diabetes
There is a growing interest in the role of vitamin D in the
aetiology of type 2 diabetes based on several reports
finding vitamin D deficiency in impaired glucose tolerance
and type 2 diabetes [9]. The association of vitamin D deficiency
and type 2 diabetes could be easily predicted by
their common link to obesity; however, several in vitro and
epidemiological studies suggest a direct relationship
between these two apparently disparate pathways. For
example, a potentially direct beneficial effect of vitamin D
on insulin action has been suggested by an increase in
insulin receptors following 24 h of treatment with
1,25(OH)2D3 in U-937 human promonocytic cells [10].
Furthermore, the role of vitamin D in ensuring adequate
calcium influx through cell membranes and intracellular
cytosolic calcium is of paramount importance to preserve
the insulin-mediated insulin process in insulin-responsive
tissues, such as skeletal muscle and adipose tissue [11].
Other researchers, however, have reported that vitamin D
deficiency may blunt insulin action through elevated parathyroid
hormone (PTH) levels [12]. In addition, it has been
reported that an intriguing correlation between vitamin D
deficiency and type 1 diabetes exists [13], may be due to
the ability of vitamin D in preserving insulin release
modulating the extracellular and intracellular b calcium
pools [14]. A recent small, but well-conducted, study [15]
suggested that cholecalciferol supplementation might
increase the disposition index (the product of insulin
secretion and action) in subjects at high risk of developing
diabetes, warranting the need for larger studies. ‘Recently,
an interesting association has also been reported between
hypovitaminosis D and the severity of non-alcoholic fatty
liver disease (NAFLD) in terms of steatosis, necroinflammation
and fibrosis. In addition, hypovitaminosis D is
also thought to be a risk factor for NAFLD independently of
the other components of the metabolic syndrome, although
the molecular mechanism by which it would act is still
unknown

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคเบาหวานมีความสนใจเพิ่มมากขึ้นในบทบาทของวิตามินดีในการชครอบของอิงรายงานหลายโรคเบาหวานชนิดที่ 2หาขาดวิตามินดีในความทนทานต่อกลูโคสบกพร่องและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 [9] สมาคมขาดวิตามินดีและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถคาดการณ์ได้อย่างง่ายดายโดยเชื่อมโยงของพวกเขาทั่วไปโรคอ้วน อย่างไรก็ตาม หลายในหลอดทดลอง และศึกษาระบาดวิทยาแสดงให้เห็นความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างทางเห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันเหล่านี้สอง สำหรับตัวอย่าง ผลประโยชน์โดยตรงอาจวิตามินดีในอินซูลิน การกระทำได้รับการแนะนำ โดยการเพิ่มขึ้นตัวรับอินซูลินต่อ 24 ชม.ของการรักษาด้วย1.25 (OH) 2D 3 ใน U-937 promonocytic มนุษย์เซลล์ [10]นอกจากนี้ บทบาทของวิตามินดีในการสร้างความมั่นใจเพียงพอไหลเข้าของแคลเซียม ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ และภายในเซลล์cytosolic แคลเซียมมีความสำคัญยิ่งในการรักษากระบวนการในการตอบสนองต่ออินซูลินอินซูลินอินซูลินเนื้อเยื่อ เช่นกล้ามเนื้อโครงร่างและเนื้อเยื่อไขมัน [11]นักวิจัยอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า วิตามินดีขาดอาจทู่อินซูลินการกระทำผ่านพาราไทรอยด์สูงขึ้นฮอร์โมน (PTH) ระดับ [12] นอกจากนี้ มันได้รายงานว่า มีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่างวิตามินดีขาดและชนิด 1 โรคเบาหวานมีอยู่ [13] อาจจะความสามารถของวิตามินดีในการปล่อยอินซูลินในการรักษาปรับแคลเซียมภายในเซลล์ และสาร bสระว่ายน้ำ [14] ขนาดเล็ก แต่ดีที่ดำเนิน การ การศึกษาล่าสุด [15]แนะนำว่า การเสริม cholecalciferol อาจเพิ่มการจัดการดัชนี (ผลิตภัณฑ์ของอินซูลินการหลั่งและการกระทำ) ในวิชาที่มีความเสี่ยงสูงของการพัฒนาเบาหวาน จำเป็นสำหรับการศึกษาขนาดใหญ่ ' เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังได้รายงานความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่างhypovitaminosis D และความรุนแรงของไขมันแอลกอฮอล์โรคตับ (NAFLD) ในแง่ของตับ necroinflammationและปอดเรื้อรัง นอกจากนี้ hypovitaminosis D เป็นยัง คิดว่า จะ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับ NAFLD เป็นอิสระของอื่น ๆ ส่วนประกอบของอาการเผาผลาญ แม้ว่ากลไกในระดับโมเลกุลซึ่งมันจะทำหน้าที่เป็นที่ไม่รู้จัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคเบาหวาน
มีความสนใจเพิ่มขึ้นในบทบาทของวิตามินดีในที่เป็น
สาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ตามรายงานหลาย
หาการขาดวิตามินดีในความทนทานต่อกลูโคสบกพร่อง
และเบาหวานชนิดที่ 2 [9] สมาคมของการขาดวิตามิน D
และเบาหวานชนิดที่ 2 อาจจะคาดการณ์ได้อย่างง่ายดายโดย
เชื่อมโยงกันของพวกเขาไปสู่โรคอ้วน; แต่หลายในหลอดทดลองและ
ศึกษาทางระบาดวิทยาชี้ให้เห็นความสัมพันธ์โดยตรง
ระหว่างทั้งสองทางเดินที่แตกต่างกันเห็นได้ชัด สำหรับ
ตัวอย่างเช่นอาจโดยตรงผลประโยชน์ของวิตามินดี
ในการดำเนินอินซูลินได้รับการแนะนำจากการเพิ่มขึ้นใน
ตัวรับอินซูลินต่อไป 24 ชั่วโมงของการรักษาด้วย
1,25 (OH) 2D3 ใน U-937 เซลล์ promonocytic มนุษย์ [10].
นอกจากนี้ บทบาทของวิตามินดีในการสร้างความมั่นใจเพียงพอ
ไหลบ่าเข้ามาแคลเซียมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์และเซลล์
แคลเซียม cytosolic มีความสำคัญยิ่งที่จะรักษา
กระบวนการอินซูลินอินซูลินพึ่งอินซูลินที่ตอบสนองต่อ
เนื้อเยื่อเช่นโครงกระดูกกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมัน [11].
นักวิจัยคนอื่นอย่างไร มีรายงานว่าวิตามินดี
ขาดอาจทื่ออินซูลินกระทำผ่านการยกระดับพาราไธรอยด์
ฮอร์โมน (PTH) ระดับ [12] นอกจากนี้ยังได้รับ
รายงานว่ามีความสัมพันธ์รักระหว่างวิตามินดี
บกพร่องและโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีอยู่ [13], อาจจะเป็นเพราะ
ความสามารถของวิตามินดีในการรักษาปล่อยอินซูลิน
เลตขแคลเซียมและสารภายในเซลล์
สระว่ายน้ำ [14] เมื่อเร็ว ๆ นี้มีขนาดเล็ก แต่ดีดำเนินการศึกษา [15]
ชี้ให้เห็นว่าการเสริม cholecalciferol อาจ
ดัชนีเพิ่มขึ้นจำหน่าย (ผลิตภัณฑ์ของอินซูลิน
หลั่งและการกระทำ) ในสาขาวิชาที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนา
โรคเบาหวานการมอบอำนาจความจำเป็นในการศึกษาขนาดใหญ่ 'เมื่อเร็ว ๆ นี้
สมาคมที่น่าสนใจยังได้รับการรายงานระหว่าง
ภาวะขาดวิตามินดีและความรุนแรงของที่ไม่มีแอลกอฮอล์ไขมัน
โรคตับ (NAFLD) ในแง่ของ steatosis, necroinflammation
และพังผืด นอกจากนี้ภาวะขาดวิตามินดีจะ
ยังคิดว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับ NAFLD เป็นอิสระจาก
ส่วนประกอบอื่น ๆ ของภาวะ metabolic syndrome แม้ว่า
กลไกในระดับโมเลกุลโดยที่มันจะทำหน้าที่ยังคงเป็น
ที่ไม่รู้จัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคเบาหวานมีความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นในบทบาทของวิตามินดีในการศึกษาที่เกี่ยวกับสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ตามรายงานหลายการขาดวิตามิน D ในความทนกลูโคสบกพร่องและเบาหวานชนิดที่ 2 [ 9 ] ความสัมพันธ์ของวิตามินดีและเบาหวานชนิดที่ 2 อาจจะสามารถทำนายโดยการเชื่อมโยงกับโรคอ้วน อย่างไรก็ตาม หลายหลอด และการศึกษาระบาดวิทยาชี้ให้เห็นความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างทั้งสองที่แตกต่างกันเห็นได้ชัดเส้นทาง . สำหรับตัวอย่าง ผลอาจเป็นประโยชน์โดยตรงของวิตามินดีในการได้รับการแนะนำโดยอินซูลินเพิ่มขึ้นตัวรับอินซูลินต่อ 24 ชั่วโมงของการรักษาด้วย1,25 ( OH ) ในเซลล์มนุษย์ 2d3 Balb promonocytic [ 10 ]นอกจากนี้ บทบาทของวิตามินดีในการสร้างความมั่นใจเพียงพอแคลเซียมผ่านเข้าในเซลล์เยื่อหุ้มเซลล์และcytosolic แคลเซียมมีความสําคัญยิ่งที่จะรักษาอินซูลิน ( อินซูลินอินซูลินในกระบวนการตอบสนองเนื้อเยื่อ เช่นกล้ามเนื้อโครงกระดูกและเนื้อเยื่อไขมัน [ 11 ]นักวิจัยอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า วิตามินดีการขาดอินซูลินอาจทื่อกระทำผ่านสูงพาราไทรอยด์ระดับฮอร์โมน ( PTH ) [ 12 ] นอกจากนี้ จะได้รับรายงานว่ามีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่างวิตามินดีความขาดแคลนและโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีอยู่ [ 13 ] อาจจะเนื่องจากความสามารถของวิตามินดีในการปล่อยอินซูลินของที่และภายในเซลล์ บี แคลเซียมสระว่ายน้ำ [ 14 ] ล่าสุดขนาดเล็ก แต่ก็มีการศึกษา [ 15 ]4 ) อาจจะแนะนำว่าเพิ่มดัชนีการจัดการ ( ผลิตภัณฑ์ของอินซูลินการกระทำ ) ในวิชาที่มีความเสี่ยงสูงของการพัฒนาโรคเบาหวาน warranting ต้องศึกษาขนาดใหญ่ ' เมื่อเร็วๆ นี้สมาคมที่น่าสนใจนอกจากนี้ยังได้รายงาน ระหว่างอ่อนแรงและไร้ไขมัน ความรุนแรงของโรคตับ ( nafld ) ในแง่ของ steatosis necroinflammation ,และ การเกิดพังผืด นอกจากนี้ อ่อนแรง ดียังคิดที่จะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับ nafld อย่างอิสระส่วนประกอบอื่น ๆของกลุ่มอาการเมตาบอลิ , แม้ว่าโมเลกุลกลไกซึ่งจะทำยังที่ไม่รู้จัก