2.4. ProcedureThe mobile phase was

2.4. Procedure
The mobile phase was pumped through the column at a flow
rate of 1.0mLmin−1. The column effluent was mixed with the supporting
electrolyte (2.5mLmin−1) at a mixing-tee and then flowed
into the flow-cell. Until stable baseline was achieved, 20L standardsolution
or sample solutionอwas injected into the mobile phase.
The quantitative determination was based on the net ECL intensity
I = IS −I0, where IS is the ECL intensity in the presence of naproxen
and I0 is the intensity of blank signal.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.4 ขั้นตอนระยะเคลื่อนถูกสูบผ่านคอลัมน์ที่ขั้นตอนการอัตราของ 1.0mLmin−1 น้ำคอลัมน์ถูกผสมกับการสนับสนุนอิเล็กโทร (2.5mLmin−1) ที่ผสมที และเกิดขึ้นแล้วกระแสเซลล์ จนสำเร็จพื้นฐานมั่นคง standardsolution 20 Lหรือ solutionอwas ตัวอย่างที่ฉีดเข้าไปในเฟสเคลื่อนที่กำหนดเชิงปริมาณได้ตามความเข้ม ECL สุทธิฉัน = IS −I0 ที่ IS มีความเข้มของ ECL ในต่อหน้าของนาโปรเซนและ I0 คือ ความเข้มของสัญญาณที่ว่างเปล่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.4 ขั้นตอนขั้นตอนที่มือถือถูกสูบผ่านคอลัมน์ที่ไหลอัตรา1.0mLmin-1 น้ำทิ้งคอลัมน์ผสมกับสนับสนุนอิเล็กโทรไล (2.5mLmin-1) ที่ผสมทีแล้วไหลเข้าไปในเซลล์ไหลที่ จนกระทั่งพื้นฐานที่มั่นคงก็ประสบความสำเร็จ 20 L standardsolution หรือสารละลายตัวอย่างอถูกฉีดเข้าไปในเฟสมือถือ. การกำหนดปริมาณขึ้นอยู่กับความเข้มของ ECL สุทธิI = IS -I0 ที่ IS เป็นความเข้ม ECL ในการปรากฏตัวของ naproxen และ I0 เป็นความเข้มของสัญญาณที่ว่างเปล่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.4 . ขั้นตอน
เฟสเคลื่อนที่ถูกสูบผ่านคอลัมน์ในอัตราการไหล
1.0mlmin − 1 คอลัมน์น้ำผสมกับการสนับสนุน
อิเล็กโทรไลต์ ( 2.5mlmin − 1 ) ที่ผสมทีแล้วไหล
เป็นไหลเซลล์ จนกว่าฐานมั่นคงเท่ากับ 20  ผม standardsolution
ต โซลูชั่น หรือจำนวนการฉีดเข้าไปในเฟสเคลื่อนที่
การหาปริมาณขึ้นอยู่กับสุทธิ ECL เข้ม
ฉัน = − i ที่เป็นคือ การทดสอบความเข้มในการปรากฏตัวของบาเลนเซีย และ ได้เป็น
ความเข้มของสัญญาณว่าง