The Influence From Changes in Bully

The Influence From Changes in Bullying Behavior on Stability
of Moral Disengagement
To control for the hierarchical structure of the data (children clustered in
classes), two different models were tested using multilevel linear modeling.
The first model assumed different patterns for each class regarding the relation
between changes in self-reported and peer-nominated bullying behavior
and changes in moral disengagement (residual SE = 12.49, df = 492). The
second model did not assume unique class-level differences (residual SE = 12.69, df = 558). Both models controlled for gender differences in the
classes. A comparison of the two models showed no significant differences,
F(66, 492) = 1.28, p > .05, indicating that the patterns between development
in bullying and development in moral disengagement do not differ between
the classes. Hence, the subsequent analyses did not control for unique class
level patterns of bullying and moral disengagement development.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงใน Bullying ทำงานมั่นคงของ Disengagement คุณธรรมการควบคุมโครงสร้างลำดับชั้นของข้อมูล (จับกลุ่มในเด็กชั้น), ทดสอบสองแบบที่แตกต่างโดยใช้โมเดลเชิงเส้นหลายระดับรุ่นแรกถือว่ารูปแบบที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละคลาสเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม bullying รายงานด้วยตนเอง และเสนอ ชื่อเพียร์และการเปลี่ยนแปลงใน disengagement คุณธรรม (SE เหลือ = 12.49, df = 492) ที่รุ่นที่สองไม่ได้คิดเฉพาะความแตกต่างของระดับชั้น (SE เหลือ = 12.69, df = 558) แบบจำลองทั้งสองควบคุมสำหรับความแตกต่างของเพศในการห้องเรียน การเปรียบเทียบสองรุ่นแสดงให้เห็นว่าไม่แตกต่างกันF (66, 492) =ถึง 1.28, p > .05 ระบุที่ลวดลายระหว่างการพัฒนาbullying และพัฒนาคุณธรรม disengagement ไม่แตกต่างกันระหว่างชั้นเรียน ดังนั้น วิเคราะห์ภายหลังไม่ได้ควบคุมสำหรับการเรียนเฉพาะรูปแบบที่ระดับของการพัฒนา disengagement bullying และคุณธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมข่มขู่ในเสถียรภาพ
ของคุณธรรมเป็นอิสระ
ในการควบคุมสำหรับโครงสร้างลำดับชั้นของข้อมูล (เด็กกลุ่มใน
ชั้นเรียน) รุ่นที่สองที่แตกต่างกันได้รับการทดสอบโดยใช้แบบจำลองเชิงเส้นหลาย.
รุ่นแรกสันนิษฐานว่ารูปแบบที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละชั้นเรียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ระหว่างการเปลี่ยนแปลงในตนเองรายงานและพฤติกรรมการข่มขู่แบบ peer-เสนอชื่อเข้าชิง
และการเปลี่ยนแปลงในทางศีลธรรมหลุดพ้น (เหลือ SE = 12.49, DF = 492)
รูปแบบที่สองไม่ถือว่าแตกต่างชั้นเรียนในระดับที่ไม่ซ้ำกัน (ที่เหลือ SE = 12.69, DF = 558) ทั้งสองรุ่นควบคุมความแตกต่างทางเพศใน
ชั้นเรียน เปรียบเทียบสองรุ่นพบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ,
F (66, 492) = 1.28, p> 0.05 แสดงให้เห็นว่ารูปแบบระหว่างการพัฒนา
ในการข่มขู่และการพัฒนาในหลุดพ้นศีลธรรมไม่แตกต่างกันระหว่าง
การเรียน ดังนั้นการวิเคราะห์ที่ตามมาไม่ได้ควบคุมสำหรับการเรียนที่ไม่ซ้ำ
รูปแบบระดับของการข่มขู่และการพัฒนาหลุดพ้นศีลธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการกลั่นแกล้งในเสถียรภาพ
คุณธรรมความเป็นอิสระ
ควบคุมโครงสร้างลำดับชั้นของข้อมูล ( เด็กในชั้นเรียนแบบ
) , สองแบบที่แตกต่างกันที่ใช้ในการทดสอบแบบจำลองเชิงเส้นพหุระดับ .
รุ่นแรกถือว่ารูปแบบที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละชั้นเรียนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงใน self-reported
เพื่อนเสนอชื่อและพฤติกรรมกลั่นแกล้ง
และการเปลี่ยนแปลงในผู้นำคุณธรรม ( ตกค้าง เซ = / , df = 492 )
รุ่นที่สองไม่ถือว่าความแตกต่างระดับพิเศษ ( ตกค้าง เซ = 12.69 , df = 558 ) ทั้งสองรุ่นควบคุมความแตกต่างเพศใน
ชั้นเรียน การเปรียบเทียบของทั้งสองรุ่นมีอย่างมีนัยสำคัญ
F ( 66 , 492 ) = 1.28 , p > . 05 แสดงว่ารูปแบบระหว่างการพัฒนา
ในการกลั่นแกล้งและการพัฒนาผู้นำจริยธรรมไม่แตกต่างกันระหว่าง
ชั้นเรียน ดังนั้น การวิเคราะห์ที่ตามมาไม่ควบคุมรูปแบบระดับเฉพาะของการกลั่นแกล้งและการพัฒนา
เป็นแบบอย่างทางศีลธรรม