In the Lewis model the line of argu

In the Lewis model the line of argument runs:
An economy starts with two sectors; a rural agricultural sector and an urban industrial sector. Agriculture generally under-employs workers and the marginal productivity of agricultural labour is virtually zero.

Therefore, transferring workers out of agriculture does not reduce productivity in the whole economy.

Labour is then released for work in the more productive, urban, industrial sector.

Industrialisation is now possible, given the increase in the supply of workers who have moved from the land.

Industrial firms start to make profits, which can be re-invested into even more industrialisation, and capital starts to accumulate.

As soon a capital accumulates, further economic development can sustain itself.

Evaluation of the Lewis model
Though highly influential at the time, and despite the considerable logic of the Lewis approach, the benefits of industrialisation may be limited because:

Profits may leak out of the developing economy and find their way to developed economies through a process called capital flight.

Capital accumulation may reduce the need for labour in the urban industrial sector.

The model assumes competitive labour and product markets, which may not exist in reality.

Urbanisation may create problems, such as poverty, squalor and shanty-towns, with unemployment replacing underemployment.

The financial benefits from industrialisation might not trickle down to the majority of the population.

Development of a tertiary sector
Clark-Fisher
As early as 1935, Allen Fisher had suggested that economic progress would lead to the emergence of a large service sector, which followed the development of a primary and secondary sector. Later, in 1940, Colin Clark developed this theme to create the Clark-Fisher development theory, also called the Fisher-Clark model.

The Clark-Fisher model shares some characteristics of early linear stage models and later structural change models. In this model, structural change must occur for economic progress to occur in capitalist economies.

Their work is still very relevant to modern explanations of development and the importance of a large service sector as an indicator of development. The Clark-Fisher hypothesis states that development will eventually lead to the majority of the labour force working in the service sector.

Why does a service sector emerge after industrialisation?
According to this model, there are two essential reasons why a service sector will emerge.

High income elasticity of demand
There is generally a high income elasticity of demand for services, especially leisure, tourism and financial services. As incomes rise, demand for services increases and more employment and national output are allocated to service production. For example, in the UK and many developed economies over two-thirds of all workers are employed in the service sector (for the UK it is around 72%).

Low productivity of labour
Secondly, productivity in the service sector is lower than in the manufacturing sector because it is harder to apply new technology to many services. This means that, over time prices of services rise relative to primary and secondary goods.

The effect of high income elasticity of demand and low productivity is that an increasing proportion of national income and consumption is allocated to the service sector.

Victor Fuchs
The importance of the service sector
In the 1960s and 1970s, American economist Victor Fuchs also focussed on the service sector, and attempted to develop a general theory of economic development by looking, in particular, at changes that were happening within the American economy during that period. In particular he looked at changing patterns of employment associated with the rise of a service sector, and took this to be a key indicator of economic progress. Increasingly, growth in service sector employment could be seen across western economies.

This, he argued, also contributed to the slow-down in economic growth rates in more developed economies. As the Clark-Fisher model had proposed, productivity growth in the service sector would tend to be much slower than for the manufacturing sector. He argued that the service sector itself would need to go through an industrialisation process if growth rates were to be maintained. Fuchs also pointed to the increased participation of females in the labour force as being an important contributory factor to service sector development - families with working wives tend to spend more of their income on services.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในแบบจำลองของ Lewis อาร์กิวเมนต์บรรทัดทำงาน:เศรษฐกิจเริ่ม มีภาคสอง ภาคเกษตรในชนบทและภาคอุตสาหกรรมการเมือง เกษตรโดยทั่วไปคนงานลป้องกันน้อยและการผลิตส่วนเพิ่มของแรงงานเกษตรได้แทบเป็นศูนย์ดังนั้น การถ่ายโอนงานจากเกษตรไม่ลดผลผลิตในเศรษฐกิจทั้งการแรงงานแล้วได้นำออกใช้สำหรับการทำงานในภาคอุตสาหกรรม มากกว่า ในเมืองอุตสาหกรรมในปัจจุบันเป็น ได้รับการเพิ่มขึ้นของอุปทานของแรงงานที่ย้ายจากที่ดินบริษัทอุตสาหกรรมเริ่มทำกำไร ซึ่งจะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเพิ่มเติม และทุนเริ่มต้นสะสมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทุนการสะสม การพัฒนาเศรษฐกิจสามารถรักษาเองประเมินผลของแบบจำลองของ Lewisแม้ว่าอิทธิพลสูง ในเวลา และแม้ มีตรรกะมากวิธีลูอิส ประโยชน์ของอุตสาหกรรมอาจมีจำกัดเนื่องจาก:ผลกำไรอาจรั่วไหลจากการพัฒนาเศรษฐกิจ และหาทางพัฒนาเศรษฐกิจผ่านกระบวนการเรียกว่าทุนบินสะสมทุนอาจลดความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมในเมืองรูปแบบสันนิษฐานแรงแข่งขันและตลาดผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในความเป็นจริงของอาจสร้างปัญหา เช่นความยากจน squalor และทั้งสองฝ่าย เมือง ด้วยการว่างแทน underemploymentสิทธิประโยชน์จากอุตสาหกรรมอาจไม่อธิษฐานลงไปส่วนใหญ่ของประชากรการพัฒนาของภาคตติยภูมิฟิชเชอร์คลาร์กก่อนที่เป็น 1935 อัลเลน Fisher ได้แนะนำว่า เศรษฐกิจจะนำไปสู่การเกิดขึ้นของภาคการบริการขนาดใหญ่ ตามการพัฒนาของภาคหลัก และรอง ในภายหลัง ในปี 1940, Colin Clark พัฒนารูปแบบนี้สร้างทฤษฎีพัฒนาคลาร์ก Fisher เรียกว่าแบบ Fisher คลาร์กแบบ Fisher คลาร์กหุ้นลักษณะบางอย่างของรุ่นรุ่นเชิงเส้นขั้นต้นและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในภายหลัง ในรุ่นนี้ โครงสร้างการเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้นเพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในเศรษฐกิจทุนนิยมยังคงเป็นงานที่เกี่ยวข้องมากกับคำอธิบายที่ทันสมัยของการพัฒนาและความสำคัญของภาคบริการมีขนาดใหญ่เป็นตัวบ่งชี้ของการพัฒนา อเมริกาสมมติฐาน Fisher คลาร์กที่พัฒนาในที่สุดจะทำให้ส่วนใหญ่ของกำลังแรงงานที่ทำงานในภาคทำไมภาคบริการออกมาหลังจากอุตสาหกรรมตามรูปแบบนี้ มีสองเหตุผลสำคัญที่ทำไมภาคบริการจะโผล่รายได้สูงความยืดหยุ่นของอุปสงค์โดยทั่วไปมีความยืดหยุ่นที่รายได้สูงของความต้องการโดยเฉพาะการพักผ่อน การท่องเที่ยว และการบริการทางการเงิน บริการ เป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น ความต้องการบริการเพิ่มเติมการจ้างงาน และผลผลิตแห่งชาติถูกปันส่วนให้บริการผลิต ตัวอย่างเช่น ในสหราชอาณาจักรและหลายพัฒนาเศรษฐกิจมากกว่าสองในสามของแรงงานทั้งหมดทำงานในภาคบริการ (สำหรับสหราชอาณาจักรมีประมาณ 72%)ประสิทธิภาพต่ำของแรงงานประการที่สอง ผลิตภาพในภาคบริการจะต่ำกว่าในภาคการผลิตเพราะยากที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ในการบริการมากมาย ซึ่งหมายความ ว่า ช่วงเวลาราคาของบริการเมื่อเทียบกับสินค้าหลัก และรองผลของรายได้สูงความยืดหยุ่นของความต้องการและผลผลิตต่ำคือ ที่เป็นสัดชาติรายได้และปริมาณการใช้มีการปันส่วนภาควิคเตอร์ฟุคส์ความสำคัญของภาคในปี 1960 และ 1970 นักเศรษฐศาสตร์อเมริกัน Fuchs วิคเตอร์ยังเน้นภาค และพยายามที่จะพัฒนาทฤษฎีทั่วไปของการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยดูจาก โดยเฉพาะ การเปลี่ยนแปลงที่ได้เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจอเมริกันที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามองการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของภาคการบริการ และเอานี้จะ บ่งชี้เศรษฐกิจ เพิ่มขึ้น เจริญเติบโตในการจ้างงานภาคการบริการอาจจะเห็นในประเทศตะวันตกนี้ เขาโต้เถียง ส่วนในชะลออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมพัฒนาเศรษฐกิจ ตามที่ได้เสนอแบบ Fisher คลาร์ก เจริญเติบโตของผลิตภาพในภาคจะมีแนวโน้มจะช้ากว่าอุตสาหกรรมการผลิต เขาโต้เถียงว่า ภาคตัวเองจะต้องผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมถ้าสามารถรักษาอัตราการเติบโต ฟุคส์ยังชี้ไปยังการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นของตัวเมียในกำลังแรงงานเป็นการดีจากปัจจัยสำคัญเพื่อพัฒนาบริการภาค - ครอบครัวกับภรรยาทำงานมักจะ ใช้จ่ายเพิ่มเติมของรายได้บริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในรูปแบบของลูอิสสายของอาร์กิวเมนต์ทำงาน:
เศรษฐกิจจะเริ่มต้นด้วยสองภาค; ภาคการเกษตรในชนบทและภาคอุตสาหกรรมในเขตเมือง เกษตรทั่วไปภายใต้การจ้างคนงานและผลผลิตส่วนเพิ่มของแรงงานเกษตรเกือบเป็นศูนย์. ดังนั้นการถ่ายโอนแรงงานนอกการเกษตรไม่ได้ลดการผลิตในระบบเศรษฐกิจทั้ง. แรงงานถูกปล่อยออกมาแล้วสำหรับการทำงานในการผลิตมากขึ้นในเมืองภาคอุตสาหกรรม. Industrialisation คือตอนนี้ไปได้รับการเพิ่มขึ้นในการจัดหาคนงานที่ได้ย้ายจากแผ่นดิน. บริษัท อุตสาหกรรมเริ่มต้นในการทำกำไรที่สามารถนำกลับมาลงทุนในอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้นและเงินทุนเริ่มต้นที่จะสะสม. ทันทีทุนสะสมต่อไป การพัฒนาทางเศรษฐกิจสามารถรักษาตัวเอง. การประเมินผลของรูปแบบลูอิสแม้ว่ามีอิทธิพลอย่างมากในเวลานั้นและแม้จะมีตรรกะมากของวิธีการที่ลูอิสประโยชน์ของอุตสาหกรรมอาจถูก จำกัด เนื่องจากผลกำไรอาจรั่วไหลออกมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจและหาทางของพวกเขาไป ประเทศที่พัฒนาผ่านกระบวนการที่เรียกว่าเงินทุน. การสะสมทุนอาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมในเมือง. รุ่นที่ถือว่าแรงงานในการแข่งขันและตลาดสินค้าซึ่งอาจจะไม่อยู่ในความเป็นจริง. Urbanisation อาจสร้างปัญหาเช่นความยากจนความสกปรกและ กระท่อม-เมืองกับการว่างงานเปลี่ยนการทำงานไม่เต็ม. สิทธิประโยชน์ทางการเงินจากอุตสาหกรรมอาจจะไม่หยดลงไปส่วนใหญ่ของประชากร. การพัฒนาตติยเซกเตอร์คลาร์กฟิชเชอร์เป็นช่วงต้นปี 1935 อัลเลนฟิชเชอร์ได้ชี้ให้เห็นว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจะนำไปสู่การเกิด ของภาคบริการขนาดใหญ่ซึ่งตามการพัฒนาของภาคประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ต่อมาในปี 1940 โคลินคลาร์กได้รับการพัฒนาในรูปแบบนี้ในการสร้างทฤษฎีการพัฒนาคลาร์กฟิชเชอร์ที่เรียกว่ารูปแบบฟิชเชอร์-Clark. หุ้นรุ่นคลาร์กฟิชเชอลักษณะบางอย่างของแบบจำลองขั้นตอนการเชิงเส้นในช่วงต้นและต่อมารูปแบบการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ในรูปแบบนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจะต้องเกิดขึ้นสำหรับความคืบหน้าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจทุนนิยม. งานของพวกเขายังคงมีความเกี่ยวข้องกับคำอธิบายที่ทันสมัยของการพัฒนาและความสำคัญของภาคบริการที่มีขนาดใหญ่เป็นตัวบ่งชี้ของการพัฒนานั้น คลาร์กฟิชเชอสมมติฐานระบุว่าการพัฒนาในที่สุดจะนำไปสู่การส่วนใหญ่ของแรงงานที่ทำงานในภาคบริการ. ทำไมภาคบริการที่โผล่ออกมาหลังจากที่อุตสาหกรรม? ตามที่รุ่นนี้มีสองเหตุผลที่สำคัญว่าทำไมภาคบริการจะโผล่ออกมาความยืดหยุ่นของรายได้สูงของความต้องการโดยทั่วไปมีความยืดหยุ่นเป็นรายได้สูงของความต้องการสำหรับการให้บริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสันทนาการ, การท่องเที่ยวและการบริการทางการเงิน ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นและการจ้างงานมากขึ้นและการส่งออกแห่งชาติจะจัดสรรให้บริการการผลิต ยกตัวอย่างเช่นในสหราชอาณาจักรและประเทศที่พัฒนาแล้วมากมายกว่าสองในสามของคนงานทุกคนมีการจ้างงานในภาคบริการ (สำหรับสหราชอาณาจักรนั้นเป็นเวลาประมาณ 72%). ผลผลิตต่ำของแรงงานประการที่สองการผลิตในภาคบริการที่ต่ำกว่าใน ภาคการผลิตเพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ในการบริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าเมื่อเวลาผ่านไปราคาของการบริการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสินค้าประถมศึกษาและมัธยมศึกษา. ผลของความยืดหยุ่นของรายได้สูงของอุปสงค์และผลผลิตต่ำคือสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของรายได้ประชาชาติและการบริโภคจะจัดสรรให้ภาคบริการ. วิกเตอร์ Fuchs ความสำคัญของการ ภาคบริการในปี 1960 และ 1970 นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันวิกเตอร์ Fuchs ยังเน้นในภาคบริการและพยายามที่จะพัฒนาทฤษฎีทั่วไปของการพัฒนาเศรษฐกิจโดยการมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจอเมริกันในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามองไปที่การเปลี่ยนรูปแบบของการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของภาคบริการและเอานี้จะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เพิ่มมากขึ้น, การเจริญเติบโตในการจ้างงานภาคบริการอาจจะเห็นทั่วประเทศตะวันตก. นี้เถียงยังสนับสนุนการชะลอตัวลงในอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศที่พัฒนามากขึ้น ในฐานะที่เป็นรุ่นคลาร์กฟิชเชอร์ได้เสนอ, การเจริญเติบโตผลผลิตในภาคบริการจะมีแนวโน้มที่จะได้ช้ากว่าสำหรับภาคการผลิต เขาแย้งว่าภาคบริการของตัวเองจะต้องไปผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมถ้าอัตราการเจริญเติบโตที่กำลังจะได้รับการรักษา Fuchs ยังชี้ไปที่การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของเพศหญิงในกำลังแรงงานว่าเป็นปัจจัยที่สนับสนุนสำคัญต่อการพัฒนาภาคบริการ - ครอบครัวที่มีภรรยาทำงานมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นของรายได้ของพวกเขาในการให้บริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในรูปแบบเส้นของอาร์กิวเมนต์รัน : ลูอิสเศรษฐกิจเริ่มมี 2 ภาค เป็นภาคเกษตรในชนบทและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมของเมือง การเกษตรโดยทั่วไปภายใต้การใช้แรงงานและผลผลิตเพิ่มของแรงงานภาคเกษตรเป็นเสมือนศูนย์ดังนั้น การถ่ายโอนงานจากเกษตรไม่ลดผลผลิตในระบบเศรษฐกิจทั้งหมดแรงงานที่ถูกปล่อยออกแล้วเพื่อทำงานในการผลิตมากขึ้นในอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมคือตอนนี้สามารถให้เพิ่มขึ้นในการจัดหาแรงงานที่ย้ายจากที่ดินบริษัทอุตสาหกรรมเริ่มทำกำไร ซึ่งสามารถจะลงทุนในอุตสาหกรรมมากขึ้น และทุนเริ่มสะสมทันทีที่ทุนสะสม การพัฒนาเศรษฐกิจยังสามารถประคับประคองตัวเองการประเมินรูปแบบของลูอิสแม้ว่า มีอิทธิพลอย่างสูงในเวลา และแม้จะมีตรรกะมากของวิธีการ ลูอิส ประโยชน์ของอุตสาหกรรมอาจถูก จำกัด เนื่องจาก :ผลกำไรที่อาจรั่วไหลออกมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจ และหาทางที่จะพัฒนาเศรษฐกิจโดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า เมืองหลวง เที่ยวบินการสะสมทุน อาจช่วยลดความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมในเมืองรูปแบบถือว่าตลาดแรงงานที่แข่งขัน และผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจไม่มีอยู่ในความเป็นจริงกลายเป็นเมืองที่อาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น ความยากจน ความสกปรก และเมืองกระท่อมที่มีการเปลี่ยนระดับ .ประโยชน์ทางการเงินจากอุตสาหกรรมจะไม่หยดลงให้กับประชากรส่วนใหญ่การพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมตติยภูมิคลาร์ก ฟิชเชอร์เร็วเท่าที่ 1933 , อลัน ฟิชเชอร์ ได้ชี้ให้เห็นว่า ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจะนำไปสู่การเกิดขึ้นของภาคบริการขนาดใหญ่ ซึ่งตามการพัฒนาของภาคประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ต่อมา ในปี 1940 , โคลิน คลาร์ค พัฒนารูปแบบนี้เพื่อสร้างทฤษฎีพัฒนาการ คลาร์ก ฟิชเชอร์ เรียกว่ารุ่น ฟิชเชอร์ คล้ากคล้าร์ก ฟิชเชอร์ แบบหุ้นบางลักษณะของรูปแบบเวทีเชิงเส้นก่อนและภายหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแบบ ในรูปแบบนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจะต้องเกิดขึ้นเพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจทุนนิยมงานยังคงมากที่เกี่ยวข้องกับคำอธิบายสมัยใหม่ของการพัฒนาและความสําคัญของภาคบริการขนาดใหญ่เป็นตัวบ่งชี้ของการพัฒนา คล้าร์ก ฟิชเชอร์ สมมติฐานที่ระบุว่า การพัฒนาในที่สุดจะทำให้ส่วนใหญ่ของแรงงานที่ทำงานในภาคบริการทำไมภาคบริการออกมาหลังอุตสาหกรรม ?ตามรูปแบบนี้ มีอยู่สองเหตุผลสำคัญว่าทำไมภาคบริการจะออกมาความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้สูงโดยทั่วไปมีรายได้สูง ความยืดหยุ่นของอุปสงค์สำหรับบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สันทนาการ การท่องเที่ยว และบริการทางการเงิน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น ความต้องการใช้บริการ และการจ้างงานมากขึ้น และเพิ่มผลผลิตแห่งชาติจัดสรรให้บริการการผลิต ตัวอย่างเช่น ในอังกฤษและหลายประเทศที่พัฒนากว่าสองในสามของคนงานมีการจ้างงานในภาคบริการ ( เพราะว่ามันเป็นประมาณ 72% )ผลิตภาพแรงงานต่ำประการที่สอง การเพิ่มผลผลิตในภาคบริการลดลงกว่าในภาคการผลิต เนื่องจากเป็นการยากที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อให้บริการหลาย นี้หมายความว่า เวลาผ่านไปราคาของบริการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสินค้าปฐมภูมิและทุติยภูมิผลของความยืดหยุ่นของอุปสงค์ และผลผลิตต่ำ รายได้สูง คือ การเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประชาชาติ การบริโภค และจะจัดสรรให้กับภาคบริการวิคเตอร์ ฟัชส์ความสำคัญของภาคบริการในทศวรรษที่ 1960 และ 1970 ชาวอเมริกัน นักเศรษฐศาสตร์ วิคเตอร์ ฟุชส์ยังเน้นภาคบริการ และพยายามที่จะพัฒนาทฤษฎีทั่วไปของการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยมอง โดยเฉพาะในการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจอเมริกันในยุคนั้น โดยเฉพาะเขาดูที่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของภาคบริการ และเอานี้เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การจ้างงานในภาคบริการมากขึ้น อาจจะเห็นในประเทศตะวันตกนี้ เขาแย้งว่า ยังสนับสนุนให้ชะลอตัวลงในอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นโมเดลคลาร์ก Fisher ได้เสนอ การขยายตัวของผลผลิตในภาคบริการก็มีแนวโน้มจะช้ากว่าสำหรับภาคการผลิต เขาแย้งว่าภาคบริการเอง ก็จะต้องผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม ถ้าอัตราการเจริญเติบโตจะถูกเก็บรักษาไว้ ฟุคส์ยังชี้เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในแรงงานเป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญเพื่อการพัฒนาครอบครัวภรรยาทำงานภาคบริการมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นจากรายได้ของพวกเขาในการให้บริการ