เมื่อเดินข้ามสะพานยกมาจะเป็นฝั่งจอดเรือประมองนับ 70-80 ลำ และมีเพลิงที่ชาวประมงสร้างติด ๆ กันไว้นำปูที่จับมาได้ใส่ในถุงตาข่าย และแช่ในน้ำทะเล เมื่อมีท่องเที่ยวมาซื้อพ่อค้า แม่ค้าเจ้าของแผงก็จะวิ่งมาชักปูขึ้นจากน้ำ นำไปชั่งและเสนอราคา โดยไม่ต้องกลัวว่าปูที่นี่จะแช่ยาเพื่อให้ปูสด นี่คือที่มาของคำว่า “ปูชัก”
นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้บรรยายถึงรสชาติของเนื้อปูให้ฟังว่า “ปูที่นี่เนื้อแน่นมาก หวาน พอแกะเปลือกออกมาเนื้อจะเป็นรูป ไม่เละ ประทับใจมาก”
หากเดินต่อเข้ามาอีกสักนิดจะพบกับ ชุมชนบ้านคลองเทียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาเด็ก และโรงเรือนขนาดเล็กที่มีชื่อว่า โครงการจัดตั้งธนาคารปู กลุ่มประมง (เรือปู) ภายในโรงเรือนมีถังน้ำ สายออกซิเจน กว่า 60 ถัง ภายในถังบรรจุแม่ปู ถังละ 1 ตัว
ที่นี่เป็นธนาคารปูม้าแห่งแรกใน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ถึงแม้จะเป็นเพียงโรงเรือนหลังเล็ก ๆ แต่ก็แข็งแรงมาก ด้วยการลงมือลงแรงร่วมกันของสมาชิกธนาคารปูแห่งนี้
หลังจากสำรวจธนาคารได้สักพักก็ได้พบกับชายวัยกลางคน หน้าตาใจดี เอ่ยทักทายด้วยสำเนียงคนเพชรบุรี ชายคนนั้น คือ คุณปัญญา พุมเจริญ ประธานธนาคารปูม้าบ้านคลองเจริญ ได้เล่าว่า สาเหตุที่ต้องเป็นธนาคารปูม้า เพราะว่าบริเวณทะเลชะอำ เป็นแหล่งชุกชุมของปูม้า จะมีปูดำบ้างประปราย แต่ปูม้าจะเยอะกว่ามาก