บทที่ 4เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพ วัตถุประสงค์ของโ การแปล - บทที่ 4เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพ วัตถุประสงค์ของโ ไทย วิธีการพูด

บทที่ 4เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะ

บทที่ 4
เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพ

วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อศึกษาหาชนิดของสี โดยศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตสารเคลือบผิวไม้ที่ได้มาจากวัสดุธรรมชาติ และมีคุณสมบัติที่เทียบเท่าหรือพอทดแทนสีแลกเกอร์ทั่วไปที่มีในท้องตลาดที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนำผลการทดลองของสีเคลือบไม้จากน้ำยางพารา ผ่านเครื่องมือวัดผลและวิเคราะห์ผลการทดลอง โดยผู้ทดลองได้ศึกษาเครื่องมือ และเลือกนำเฉพาะเครื่องมือบางตัวมาใช้ในการวัดผลการทดลองดังรายละเอียดต่อไปนี้

4.1 ทำความเข้าใจกับมาตรฐานสากล DIN, EN, ISO และมาตรฐานอื่นๆที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทดสอบคุณภาพของสีเคลือบผิวไม้ในงานอุตสาหกรรม
DIN ย่อมาจาก Deutsches Institut fur Normung คือมาตรฐานจาก German Institute for Standardization ซึ่งงานไม้เฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มประเทศทางยุโรป ประเทศเยอรมันได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในเรื่องมาตรฐานการผลิต และคุณภาพ DIN จึงเป็นมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วทั้งยุโรป ซึ่งความจริง DIN จะเป็นมาตรฐานกำหนดที่ใช้กันในเยอรมันเท่านั้น
EN หรือ European Standard คือมาตรฐานจากกลุ่มประเทศในยุโรป ที่ให้การยอมรับการมาตรฐานนี้ในกลุ่มประเทศทางยุโรปบางครั้งจะเห็นว่ามีการใช้ DIN EN ร่วมกันอยู่หลายมาตรฐาน
ASTM หรือ American Society for testing and Materials คือมาตรฐานทางอเมริกา
ISO หรือ International Organization for Standardization คือมาตรฐานคุณภาพสากล
JIS หรือ Japanese Industrial Standard คือมาตรฐานทางประเทศญี่ปุ่น
SIS หรือ Swedish Standards Instute คือมาตรฐานทางประเทศสวีเดน
มอก. หรือ มาตรฐานอุตสาหกรรม ประเทศไทยใช้ มอก. หรือ มาตรฐานอุตสาหกรรมในการทดสอบคุณภาพ และใช้เป็นการรองรับ หรือ รับประกันสินค้าที่ขายกันในประเทศเช่นเดียวกับ DIN ที่ใช้กันในเยอรมัน แต่ มอก.ยังไม่เป็นที่ยอมรับของมาตรฐานสากล มอก.จึงใช้ได้เฉพาะในเมืองไทย หรือประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น และเนื่องจากผู้ทดลองมีความคุ้นเคยกับมาตรฐานสากล จึงขออนุญาตใช้เครื่องมือจากมาตรฐานสากลในการทดสอบ

ในบางครั้ง เรายังเห็น มาตรฐาน EN ISO ด้วยเช่นกัน ในการทดสอบผลการทดลองนี้ ได้มีมาตรฐาน ที่รวม DIN, EN และ ISO ด้วยเช่นกัน คือ มาตรฐานการทดสอบการทำ Cross Cut ซึ่งมาตรฐานของเยอรมันคือ DIN 53151 ซึ่ง ทางมาตรฐานสากล ใช้ ISO 2409 และตรงกับมาตรฐานอเมริกาคือ ASTM D 3359 โดยในปัจจุบัน มาตรฐานที่เหมือนกันทั้ง 3 มาตรฐานนี้ รวมเรียก DIN EN ISO 2409
DIN EN ISO 2409 Cross Cut Test การทดสอบด้วยการทำ Cross Cut ตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิว เป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุ (13) การหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์ม ถ้าฟิล์มเปราะหรือมีแรงยึดเกาะกับพื้นผิวไม่ดี ฟิล์มก็จะเกิดการแตก ในการทดลองนี้ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง บนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง
DIN 68861 Part 6 การทดสอบด้วยความร้อนจากบุหรี่ Heat Resistance (Cigarette Test) ตามมาตรฐาน DIN 68861 Part 6โดยใช้ความร้อนจากบุหรี่ ทำการทดสอบทั้งสิ้น 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง ที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง
DIN 68861 Part 1 การทดสอบความทนต่อเคมี (13) Chemical Resistant Test ตามมาตรฐาน DIN 68861 Part 1 เป็นการหาความสามารถของฟิล์มของสารเคลือบผิวที่จะกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเข้าไปได้ การทดสอบทำโดยวิธีจุ่มน้ำภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อครบระยะเวลาแล้ว นำแผ่นทดสอบออกจากน้ำแล้วซับด้วยกระดาษซับ ตรวจสอบพื้นผิวแผ่นทดสอบเพื่อดูรอยพองหรือข้อบกพร่องอื่น ๆ จากนั้นตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตรวจสอบพื้นผิวแผ่นทดสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูสภาพการยึดเกาะสนิม การเปลี่ยนสี การเกิดเชื้อรา หรือข้อบกพร่องอื่น ๆ ใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมลอกตัวอย่างทดสอบออกจากพื้นผิวแผ่นทดสอบ แล้วตรวจดูรอยกัดกร่อนบนโลหะส่วนที่ลอกตัวอย่างทดสอบออกแล้ว

4.2 มาตรฐานเครื่องมือวัดผลที่ได้เลือกและนำมาใช้วิเคราะห์ ผลการทดสอบคุณภาพมีดังนี้
4.2.1 เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 1 การหาค่าการยึดเกาะของสี เทียบโดยการขูดด้วยเล็บมือทั้งสีแลคเกอร์ และสีสูตรน้ำยางพารา ทำการทดสอบด้วยการใช้เล็บขูด ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง บนชิ้นงาน 1 แผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง ในการทดสอบนี้จะสามารถเห็นถึงการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุเบื้องต้น และง่ายต่อการทดสอบเพราะไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติมนอกจากเล็บมือของผู้ทดสอบเอง


4.2.2 เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 2 การทดสอบโดยการทำ Cross Cut ตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 Paints and Vanished Cross cut test ในการทดลองและวิเคราะห์ผลจากการทดลองนี้ เพื่อศึกษาดูการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุ ซึ่งการยึดเกาะที่ดีของผิวงานจะมีผลต่ออายุการใช้งาน หลังจากเคลือบสีไปแล้วนั้นจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ถ้าการยึดเกาะไม่ดี หมายถึงขูด หรือ สะกิดออกได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ก็จะมีอายุใช้งานสั้นลง การทดสอบสามารถทำได้ด้วยการใช้มีด คัตเตอร์มาตรฐาน และสก็อตเทป ตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิว เป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุ (13) การหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์ม ถ้าฟิล์มเปราะหรือมีแรงยึดเกาะกับพื้นผิวไม่ดี ฟิล์มก็จะเกิดการแตก ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง บนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 4
เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพ

วัตถุประสงค์ของโครงการนี้เพื่อศึกษาหาชนิดของสีโดยศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตสารเคลือบผิวไม้ที่ได้มาจากวัสดุธรรมชาติ โดยนำผลการทดลองของสีเคลือบไม้จากน้ำยางพาราผ่านเครื่องมือวัดผลและวิเคราะห์ผลการทดลองโดยผู้ทดลองได้ศึกษาเครื่องมือและเลือกนำเฉพาะเครื่องมือบางตัวมาใช้ในการวัดผลการทดลองดังรายละเอียดต่อไปนี้

4.1 ทำความเข้าใจกับมาตรฐานสากล DIN, EN, ISO และมาตรฐานอื่นๆที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทดสอบคุณภาพของสีเคลือบผิวไม้ในงานอุตสาหกรรม
ดินย่อมาจากสถาบันดอยท์เซสเทียขน Normung คือมาตรฐานจากเยอรมันสถาบันมาตรฐานซึ่งงานไม้เฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มประเทศทางยุโรปประเทศเยอรมันได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในเรื่องมาตรฐานการผลิตและคุณภาพดิน ซึ่งความจริงดินจะเป็นมาตรฐานกำหนดที่ใช้กันในเยอรมันเท่านั้น
EN หรือมาตรฐานยุโรปคือมาตรฐานจากกลุ่มประเทศในยุโรปที่ให้การยอมรับการมาตรฐานนี้ในกลุ่มประเทศทางยุโรปบางครั้งจะเห็นว่ามีการใช้ DIN EN ร่วมกันอยู่หลายมาตรฐาน
ASTM หรืออเมริกันสมาคมทดสอบ และวัสดุคือมาตรฐานทางอเมริกา
องค์การระหว่างประเทศหรือ ISO สำหรับมาตรฐานคือมาตรฐานคุณภาพสากล
JIS หรือญี่ปุ่นอุตสาหกรรมมาตรฐานคือมาตรฐานทางประเทศญี่ปุ่น
SIS หรือมาตรฐานสวีเดน Instute คือมาตรฐานทางประเทศสวีเดน
มอก หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมประเทศไทยใช้มอก หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมในการทดสอบคุณภาพและใช้เป็นการรองรับหรือรับประกันสินค้าที่ขายกันในประเทศเช่นเดียวกับดินที่ใช้กันในเยอรมันแต่มอก.ยังไม่เป็นที่ยอมรับของมาตรฐานสากลมอกจึงใช้ได้เฉพาะในเมืองไทยหรือประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้นและเนื่องจากผู้ทดลองมีความคุ้นเคยกับมาตรฐานสากลจึงขออนุญาตใช้เครื่องมือจากมาตรฐานสากลในการทดสอบ

ในบางครั้งเรายังเห็นมาตรฐาน EN ISO ด้วยเช่นกันในการทดสอบผลการทดลองนี้ได้มีมาตรฐานที่รวมดิน น้ำและ ISO ด้วยเช่นกันคือมาตรฐานการทดสอบการทำข้ามตัดซึ่งมาตรฐานของเยอรมันคือดิน 53151 ซึ่งทางมาตรฐานสากลใช้ ISO 2409 และตรงกับมาตรฐานอเมริกาคือ ASTM D 3359 โดยในปัจจุบันมาตรฐานที่เหมือนกันทั้ง 3 มาตรฐานนี้รวมเรียก DIN EN ISO DIN EN ISO 2409 ข้ามทดสอบตัดการทดสอบด้วยการทำข้ามตัดตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิวการหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุดเป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุ (13) ใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์มถ้าฟิล์มเปราะหรือมีแรงยึดเกาะกับพื้นผิวไม่ดีฟิล์มก็จะเกิดการแตกในการทดลองนี้ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่งบนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ดินส่วน 68861 6 การทดสอบด้วยความร้อนจากบุหรี่ความร้อนความต้านทาน (การทดสอบบุหรี่) ตามมาตรฐาน DIN 68861 ส่วน 6โดยใช้ความร้อนจากบุหรี่ ทำการทดสอบทั้งสิ้น 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่งที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ดิน 68861 Part 1 การทดสอบความทนต่อเคมี (13) ทนสารเคมีทดสอบตามมาตรฐาน DIN 68861 Part 1 เป็นการหาความสามารถของฟิล์มของสารเคลือบผิวที่จะกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเข้าไปได้การทดสอบทำโดยวิธีจุ่มน้ำภายในระยะเวลาที่กำหนด ๆ นำแผ่นทดสอบออกจากน้ำแล้วซับด้วยกระดาษซับตรวจสอบพื้นผิวแผ่นทดสอบเพื่อดูรอยพองหรือข้อบกพร่องอื่นจากนั้นตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนสีการเกิดเชื้อราหรือข้อบกพร่องอื่นๆ ใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมลอกตัวอย่างทดสอบออกจากพื้นผิวแผ่นทดสอบแล้วตรวจดูรอยกัดกร่อนบนโลหะส่วนที่ลอกตัวอย่างทดสอบออกแล้ว

4.2 มาตรฐานเครื่องมือวัดผลที่ได้เลือกและนำมาใช้วิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพมีดังนี้
4.2เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 1 1 การหาค่าการยึดเกาะของสีเทียบโดยการขูดด้วยเล็บมือทั้งสีแลคเกอร์ทำการทดสอบด้วยการใช้เล็บขูดและสีสูตรน้ำยางพาราทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ ตำแหน่งบนชิ้นงาน 1 แผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียางในการทดสอบนี้จะสามารถเห็นถึงการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุเบื้องต้นและง่ายต่อการทดสอบเพราะไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ

4.22 เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 2 การทดสอบโดยการทำข้ามตัดตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 วาด และศาสดาระหว่างทดสอบตัดในการทดลองและวิเคราะห์ผลจากการทดลองนี้เพื่อศึกษาดูการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุ หลังจากเคลือบสีไปแล้วนั้นจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานแต่ถ้าการยึดเกาะไม่ดีหมายถึงขูดหรือสะกิดออกได้ง่ายผลิตภัณฑ์ก็จะมีอายุใช้งานสั้นลงการทดสอบสามารถทำได้ด้วยการใช้มีดคัตเตอร์มาตรฐานและสก็อตเทป DIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิวเป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุ (13) การหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์ม ฟิล์มก็จะเกิดการแตกทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่งบนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 4
เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพ

วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อศึกษาหาชนิดของสี โดยศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตสารเคลือบผิวไม้ที่ได้มาจากวัสดุธรรมชาติ และมีคุณสมบัติที่เทียบเท่าหรือพอทดแทนสีแลกเกอร์ทั่วไปที่มีในท้องตลาดที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนำผลการทดลองของสีเคลือบไม้จากน้ำยางพารา ผ่านเครื่องมือวัดผลและวิเคราะห์ผลการทดลอง โดยผู้ทดลองได้ศึกษาเครื่องมือ และเลือกนำเฉพาะเครื่องมือบางตัวมาใช้ในการวัดผลการทดลองดังรายละเอียดต่อไปนี้

4.1 ทำความเข้าใจกับมาตรฐานสากล DIN, EN, ISO และมาตรฐานอื่นๆที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทดสอบคุณภาพของสีเคลือบผิวไม้ในงานอุตสาหกรรม
DIN ย่อมาจาก Deutsches Institut fur Normung คือมาตรฐานจาก German Institute for Standardization ซึ่งงานไม้เฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มประเทศทางยุโรป ประเทศเยอรมันได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในเรื่องมาตรฐานการผลิต และคุณภาพ DIN จึงเป็นมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วทั้งยุโรป ซึ่งความจริง DIN จะเป็นมาตรฐานกำหนดที่ใช้กันในเยอรมันเท่านั้น
EN หรือ European Standard คือมาตรฐานจากกลุ่มประเทศในยุโรป ที่ให้การยอมรับการมาตรฐานนี้ในกลุ่มประเทศทางยุโรปบางครั้งจะเห็นว่ามีการใช้ DIN EN ร่วมกันอยู่หลายมาตรฐาน
ASTM หรือ American Society for testing and Materials คือมาตรฐานทางอเมริกา
ISO หรือ International Organization for Standardization คือมาตรฐานคุณภาพสากล
JIS หรือ Japanese Industrial Standard คือมาตรฐานทางประเทศญี่ปุ่น
SIS หรือ Swedish Standards Instute คือมาตรฐานทางประเทศสวีเดน
มอก. หรือ มาตรฐานอุตสาหกรรม ประเทศไทยใช้ มอก. หรือ มาตรฐานอุตสาหกรรมในการทดสอบคุณภาพ และใช้เป็นการรองรับ หรือ รับประกันสินค้าที่ขายกันในประเทศเช่นเดียวกับ DIN ที่ใช้กันในเยอรมัน แต่ มอก.ยังไม่เป็นที่ยอมรับของมาตรฐานสากล มอก.จึงใช้ได้เฉพาะในเมืองไทย หรือประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น และเนื่องจากผู้ทดลองมีความคุ้นเคยกับมาตรฐานสากล จึงขออนุญาตใช้เครื่องมือจากมาตรฐานสากลในการทดสอบ

ในบางครั้ง เรายังเห็น มาตรฐาน EN ISO ด้วยเช่นกัน ในการทดสอบผลการทดลองนี้ ได้มีมาตรฐาน ที่รวม DIN, EN และ ISO ด้วยเช่นกัน คือ มาตรฐานการทดสอบการทำ Cross Cut ซึ่งมาตรฐานของเยอรมันคือ DIN 53151 ซึ่ง ทางมาตรฐานสากล ใช้ ISO 2409 และตรงกับมาตรฐานอเมริกาคือ ASTM D 3359 โดยในปัจจุบัน มาตรฐานที่เหมือนกันทั้ง 3 มาตรฐานนี้ รวมเรียก DIN EN ISO 2409
DIN EN ISO 2409 Cross Cut Test การทดสอบด้วยการทำ Cross Cut ตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิว เป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุ (13) การหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์ม ถ้าฟิล์มเปราะหรือมีแรงยึดเกาะกับพื้นผิวไม่ดี ฟิล์มก็จะเกิดการแตก ในการทดลองนี้ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง บนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง
DIN 68861 Part 6 การทดสอบด้วยความร้อนจากบุหรี่ Heat Resistance (Cigarette Test) ตามมาตรฐาน DIN 68861 Part 6โดยใช้ความร้อนจากบุหรี่ ทำการทดสอบทั้งสิ้น 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง ที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง
DIN 68861 Part 1 การทดสอบความทนต่อเคมี (13) Chemical Resistant Test ตามมาตรฐาน DIN 68861 Part 1 เป็นการหาความสามารถของฟิล์มของสารเคลือบผิวที่จะกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเข้าไปได้ การทดสอบทำโดยวิธีจุ่มน้ำภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อครบระยะเวลาแล้ว นำแผ่นทดสอบออกจากน้ำแล้วซับด้วยกระดาษซับ ตรวจสอบพื้นผิวแผ่นทดสอบเพื่อดูรอยพองหรือข้อบกพร่องอื่น ๆ จากนั้นตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตรวจสอบพื้นผิวแผ่นทดสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูสภาพการยึดเกาะสนิม การเปลี่ยนสี การเกิดเชื้อรา หรือข้อบกพร่องอื่น ๆ ใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมลอกตัวอย่างทดสอบออกจากพื้นผิวแผ่นทดสอบ แล้วตรวจดูรอยกัดกร่อนบนโลหะส่วนที่ลอกตัวอย่างทดสอบออกแล้ว

4.2 มาตรฐานเครื่องมือวัดผลที่ได้เลือกและนำมาใช้วิเคราะห์ ผลการทดสอบคุณภาพมีดังนี้
4.2.1 เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 1 การหาค่าการยึดเกาะของสี เทียบโดยการขูดด้วยเล็บมือทั้งสีแลคเกอร์ และสีสูตรน้ำยางพารา ทำการทดสอบด้วยการใช้เล็บขูด ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง บนชิ้นงาน 1 แผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง ในการทดสอบนี้จะสามารถเห็นถึงการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุเบื้องต้น และง่ายต่อการทดสอบเพราะไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติมนอกจากเล็บมือของผู้ทดสอบเอง


4.2.2 เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 2 การทดสอบโดยการทำ Cross Cut ตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 Paints and Vanished Cross cut test ในการทดลองและวิเคราะห์ผลจากการทดลองนี้ เพื่อศึกษาดูการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุ ซึ่งการยึดเกาะที่ดีของผิวงานจะมีผลต่ออายุการใช้งาน หลังจากเคลือบสีไปแล้วนั้นจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ถ้าการยึดเกาะไม่ดี หมายถึงขูด หรือ สะกิดออกได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ก็จะมีอายุใช้งานสั้นลง การทดสอบสามารถทำได้ด้วยการใช้มีด คัตเตอร์มาตรฐาน และสก็อตเทป ตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิว เป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุ (13) การหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์ม ถ้าฟิล์มเปราะหรือมีแรงยึดเกาะกับพื้นผิวไม่ดี ฟิล์มก็จะเกิดการแตก ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่ง บนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไป และ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียาง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 4

เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวัตถุประสงค์ของโครงการนี้เพื่อศึกษาหาชนิดของสีโดยศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตสารเคลือบผิวไม้ที่ได้มาจากวัสดุธรรมชาติโดยนำผลการทดลองของสีเคลือบไม้จากน้ำยางพาราผ่านเครื่องมือวัดผลและวิเคราะห์ผลการทดลองโดยผู้ทดลองได้ศึกษาเครื่องมือและเลือกนำเฉพาะเครื่องมือบางตัวมาใช้ในการวัดผลการทดลองดังรายละเอียดต่อไปนี้

4.1 ทำความเข้าใจกับมาตรฐานสากล DIN EN ISO และมาตรฐานอื่นๆที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทดสอบคุณภาพของสีเคลือบผิวไม้ในงานอุตสาหกรรม
ดินย่อมาจากเยอรมันสถาบันขน normung คือมาตรฐานจากเยอรมันมาตรฐานสถาบันซึ่งงานไม้เฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มประเทศทางยุโรปประเทศเยอรมันได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในเรื่องมาตรฐานการผลิตและคุณภาพดินซึ่งความจริงดินจะเป็นมาตรฐานกำหนดที่ใช้กันในเยอรมันเท่านั้น
มาตรฐานยุโรป EN ค็อคคือมาตรฐานจากกลุ่มประเทศในยุโรปที่ให้การยอมรับการมาตรฐานนี้ในกลุ่มประเทศทางยุโรปบางครั้งจะเห็นว่ามีการใช้ DIN EN สังคมร่วมกันอยู่หลายมาตรฐาน
ASTM ค็อคอเมริกันสำหรับการทดสอบและวัสดุคือมาตรฐานทางอเมริกา
ISO ค็อคองค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐานคือมาตรฐานคุณภาพสากล
JIS ค็อคมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่นคือมาตรฐานทางประเทศญี่ปุ่น
พี่ค็อคสวีเดนมาตรฐาน instute คือมาตรฐานทางประเทศสวีเดน
มอก . ค็อคมาตรฐานอุตสาหกรรมประเทศไทยใช้มอก .ค็อคมาตรฐานอุตสาหกรรมในการทดสอบคุณภาพและใช้เป็นการรองรับค็อครับประกันสินค้าที่ขายกันในประเทศเช่นเดียวกับดินที่ใช้กันในเยอรมัน A มอก . ยังไม่เป็นที่ยอมรับของมาตรฐานสากลมอก .จึงใช้ได้เฉพาะในเมืองไทยหรือประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้นและเนื่องจากผู้ทดลองมีความคุ้นเคยกับมาตรฐานสากลจึงขออนุญาตใช้เครื่องมือจากมาตรฐานสากลในการทดสอบ

ในบางครั้งเรายังเห็นมาตรฐาน EN ISO ด้วยเช่นกันในการทดสอบผลการทดลองนี้ได้มีมาตรฐานที่รวมดินในและ ISO ด้วยเช่นกันความมาตรฐานการทดสอบการทำตัดข้ามซึ่งมาตรฐานของเยอรมันคือดิน 53151 ซึ่งทางมาตรฐานสากลใช้ ISO 2409 และตรงกับมาตรฐานอเมริกาคือ ASTM D 3359 โดยในปัจจุบันมาตรฐานที่เหมือนกันทั้ง 3 มาตรฐานนี้รวมเรียก DIN EN ISODIN EN ISO 2409 ตัดข้ามการทดสอบการทดสอบด้วยการทำตัดข้ามตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิวเป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุการหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุด ( 13 )ใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์มถ้าฟิล์มเปราะหรือมีแรงยึดเกาะกับพื้นผิวไม่ดีฟิล์มก็จะเกิดการแตกในการทดลองนี้ทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่งบนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8ดิน 68861 ส่วน 6 การทดสอบด้วยความร้อนจากบุหรี่ความต้านทานความร้อน ( ทดสอบบุหรี่ ) ตามมาตรฐานดิน 68861 ส่วน 6 โดยใช้ความร้อนจากบุหรี่ทำการทดสอบทั้งสิ้น 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่งที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8ดิน 68861 1 ส่วนการทดสอบความทนต่อเคมี ( 13 ) ความต้านทานทางเคมีทดสอบตามมาตรฐานดิน 68861 1 ส่วนเป็นการหาความสามารถของฟิล์มของสารเคลือบผิวที่จะกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเข้าไปได้การทดสอบทำโดยวิธีจุ่มน้ำภายในระยะเวลาที่กำหนดนำแผ่นทดสอบออกจากน้ำแล้วซับด้วยกระดาษซับตรวจสอบพื้นผิวแผ่นทดสอบเพื่อดูรอยพองหรือข้อบกพร่องอื่นจะจากนั้นตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 24 ชั่วโมงการเปลี่ยนสีการเกิดเชื้อราหรือข้อบกพร่องอื่นจะใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมลอกตัวอย่างทดสอบออกจากพื้นผิวแผ่นทดสอบแล้วตรวจดูรอยกัดกร่อนบนโลหะส่วนที่ลอกตัวอย่างทดสอบออกแล้ว


มาตรฐานเครื่องมือวัดผลที่ได้เลือกและนำมาใช้วิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพมีดังนี้ 4.2 4.2 .1 เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 1 การหาค่าการยึดเกาะของสีเทียบโดยการขูดด้วยเล็บมือทั้งสีแลคเกอร์และสีสูตรน้ำยางพาราทำการทดสอบด้วยการใช้เล็บขูดทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือตำแหน่งบนชิ้นงาน 1 แผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีก 8 ชิ้นที่ทาด้วยสียางในการทดสอบนี้จะสามารถเห็นถึงการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุเบื้องต้นและง่ายต่อการทดสอบเพราะไม่มีอุปกรณ์ใดๆ

4.2 .2 เครื่องมือวัดผลและการวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพวิธีที่ 2 การทดสอบโดยการทำตัดข้ามตามมาตรฐาน DIN EN ISO 2409 paints และหายตัวไปทดสอบในการทดลองและวิเคราะห์ผลจากการทดลองนี้เพื่อศึกษาดูการยึดเกาะของสีที่เคลือบบนวัสดุตัดข้ามหลังจากเคลือบสีไปแล้วนั้นจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานแต่ถ้าการยึดเกาะไม่ดีหมายถึงขูดค็อคสะกิดออกได้ง่ายผลิตภัณฑ์ก็จะมีอายุใช้งานสั้นลงการทดสอบสามารถทำได้ด้วยการใช้มีดคัตเตอร์มาตรฐานและสก็อตเทปDIN EN ISO 2409 ความติดแน่นของฟิล์มของสารเคลือบผิวเป็นตัวบอกถึงระดับความมากน้อยของการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับพื้นผิววัสดุการหาความติดแน่นวิธีที่ง่ายที่สุดความใช้ของมีคมขูดที่ผิวฟิล์ม ( 13 )ฟิล์มก็จะเกิดการแตกทำการทดสอบทั้งสิ้นสีละ 10 ครั้งหรือ 10 ตำแหน่งบนแผ่นที่ทาด้วยแลคเกอร์ทั่วไปและ 10 ตำแหน่งบนชิ้นงานอีกชิ้นที่ทาด้วยสียาง
8
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: