I. IntroductionTime is one of the m

I. Introduction
Time is one of the most valuable things to us. A time and motion study (or time-motion study) is
a business efficiency technique combining the time study work of Frederick Winslow Taylor (1881 A.D) with
the motion study work of Frank B. Gilberth and his wife Lillian Gilbreth (1885A.D). It is a major part
of scientific management (Taylorism)1
. Motion study is designed to determine best way to complete a repetitive
job while the time study measures how long it takes an average worker to complete a task at a normal pace.
Historically the two studies are discussed individually; today they generally are discussed as one. The two
techniques became integrated and refined into a widely accepted method applicable to the improvement and
upgrading of work systems. This integrated approach to work system improvement is applied to determine
schedules and planning of work in industrial as well as service organizations, including banks, schools and
hospitals2
. The objective of the Time and Motion Study is to determine a ‘normal’ or average time for a job, by
using observers to record exactly how much time is being devoted to each task. With this objective, time and
motion studies can be effective for performance evaluations as well as can be used for planning purposes3,4
.
During the last decade, the number of patients seeking Outpatient Department (OPD) services has increased
many folds, but the facilities in the OPD have not increased at the same rate. Huge number of patients in the
OPDs with limited manpower, especially in Rural Hospital, creates chaos as well as the chance of
mismanagement. OPD thus requires a systematic study of its service for its efficient management and function.
It is therefore imperative that a simple time and motion study of an OPD system and suitable inexpensive
interventions can go a long way to improve the efficiency of a hospital. Dearth of literature has been found on
time and motion study in OPD settings with OPD of rural hospital as rarity. Hence the present study was carried
out in the OPD clinic of a rural hospital to know the time taken in different service delivery points in outpatient
department and to assess the perception of beneficiaries regarding the total time spent in the OPD

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

I. บทนำเวลาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา ศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา (หรือเคลื่อนไหวเวลาเรียน)เทคนิคประสิทธิภาพธุรกิจรวมเวลาศึกษาของเฟรเดอริก Winslow Taylor (1881 A.D) ด้วยการศึกษาการเคลื่อนไหวทำงานของ Frank B. Gilberth และ Lillian Gilbreth (1885A ภรรยาของเขา D) เป็นส่วนใหญ่การจัดการทางวิทยาศาสตร์ (Taylorism) 1. ศึกษาการเคลื่อนไหวถูกออกแบบมาเพื่อกำหนดวิธีที่ดีที่สุดสมบูรณ์แบบซ้ำ ๆงานขณะวัดเวลาศึกษายาวนานวิธีใช้ผู้ปฏิบัติงานมีค่าเฉลี่ยการทำงานที่ก้าวปกติอดีตศึกษาสองจะกล่าวถึงแต่ละ วันนี้พวกเขาโดยทั่วไปจะกล่าวถึงเป็นหนึ่ง ทั้งสองเทคนิครวม และกลั่นเป็นการปรับปรุงวิธีการยอมรับอย่างกว้างขวาง และปรับปรุงระบบงาน ใช้วิธีการนี้รวมการปรับปรุงระบบการทำงานเพื่อกำหนดกำหนดการและการวางแผนการทำงานในองค์กรอุตสาหกรรม ตลอดจนบริการ รวมทั้งธนาคาร โรงเรียน และhospitals2. วัตถุประสงค์ของการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลาจะกำหนดเป็น 'ปกติ' หรือเฉลี่ยเวลางาน โดยใช้ผู้สังเกตการณ์บันทึกว่าการทุ่มเทเวลาให้งานแต่ละ มีวัตถุประสงค์นี้ เวลา และศึกษาการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการทำงาน รวมทั้งสามารถใช้สำหรับการวางแผน purposes3, 4.ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีเพิ่มจำนวนผู้ป่วยที่กำลังบริการผู้ป่วยนอกแผนก (ผู้ป่วยนอก)หลายเท่า แต่ในผู้ป่วยนอกได้ไม่เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน จำนวนมากของผู้ป่วยในการOPDs กับแมนพาวเวอร์จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงพยาบาล Rural สร้างความวุ่นวายเป็นโอกาสmismanagement ผู้ป่วยนอกจึงต้องมีการศึกษาระบบการบริการจัดการที่มีประสิทธิภาพและฟังก์ชันดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นว่า เรื่องเวลาและการเคลื่อนไหวศึกษาระบบผู้ป่วยนอก และเหมาะสมไม่แพงการแทรกแซงไปแบบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงพยาบาล ผลงานวรรณกรรมของพวกเขาได้พบในศึกษาเคลื่อนไหวและเวลาในการตั้งค่าของผู้ป่วยนอกกับผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลชนบทเป็นสังข์ จึง ดำเนินการศึกษาปัจจุบันในคลินิกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลชนบทรู้เวลาที่ใช้ในการบริการจัดส่งคะแนนในผู้ป่วยนอกกรมและ เพื่อประเมินการรับรู้ของผู้รับผลประโยชน์เกี่ยวกับเวลารวมที่ใช้ในผู้ป่วยนอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

I. Introduction
เวลาเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเรา เวลาและการศึกษาการเคลื่อนไหว (หรือการศึกษาเวลาการเคลื่อนไหว)
เป็นเทคนิคประสิทธิภาพทางธุรกิจรวมเวลาการทำงานการศึกษาของเฟรเดอริพระพุทธเจ้าเทย์เลอร์(1881 AD)
กับการทำงานการศึกษาการเคลื่อนที่ของแฟรงก์บีGilberth และภรรยาของเขา Lillian Gilbreth (1885A.D) . มันเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการจัดการทางวิทยาศาสตร์ (Taylorism) 1 การศึกษาการเคลื่อนไหวที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบวิธีที่ดีที่สุดที่จะเสร็จสมบูรณ์ซ้ำงานในขณะที่เวลามาตรการการศึกษาใช้เวลานานเท่าใดคนงานเฉลี่ยเพื่อให้งานที่ก้าวปกติ. ในอดีตการศึกษาทั้งสองจะกล่าวถึงรายบุคคล วันนี้พวกเขามักจะถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่ง ทั้งสองเทคนิคกลายเป็นแบบบูรณาการและการกลั่นเป็นวิธีการที่ยอมรับอย่างกว้างขวางที่ใช้บังคับกับการปรับปรุงและการอัพเกรดของระบบงาน วิธีนี้บูรณาการเพื่อการพัฒนางานระบบถูกนำไปใช้ในการกำหนดตารางเวลาและการวางแผนในการทำงานในอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับองค์กรที่ให้บริการรวมทั้งธนาคารโรงเรียนและhospitals2 วัตถุประสงค์ของเวลาและการศึกษาการเคลื่อนไหวคือการตรวจสอบ 'ปกติ' หรือเวลาเฉลี่ยสำหรับงานโดยใช้ผู้สังเกตการณ์ในการบันทึกว่าวิธีการมากเวลาที่มีการทุ่มเทให้กับงานแต่ละงาน ด้วยวัตถุประสงค์นี้เวลาและการศึกษาการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงานเช่นเดียวกับที่สามารถนำมาใช้ในการวางแผนpurposes3,4. ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยที่กำลังมองหาแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) ให้บริการได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าแต่สิ่งอำนวยความสะดวก ในผู้ป่วยนอกไม่ได้เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน จำนวนมากของผู้ป่วยในOPDS กับกำลังคนที่ จำกัด โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชนบทสร้างความวุ่นวายเช่นเดียวกับโอกาสของการปรับตัว ผู้ป่วยนอกจึงต้องมีระบบการศึกษาในการให้บริการสำหรับการจัดการที่มีประสิทธิภาพและฟังก์ชั่น. ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่เป็นเวลาที่เรียบง่ายและการศึกษาการเคลื่อนไหวของระบบผู้ป่วยนอกและราคาไม่แพงเหมาะกับการแทรกแซงสามารถไปทางยาวเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงพยาบาล ความขาดแคลนของวรรณกรรมที่ได้รับการพบในเวลาและการศึกษาการเคลื่อนไหวในการตั้งค่าผู้ป่วยนอกกับผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลในชนบทเป็นสิ่งที่หายาก ดังนั้นการศึกษานี้ได้ดำเนินการในคลินิกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลในชนบทที่จะรู้ว่าเวลาที่อยู่ในจุดที่การส่งมอบบริการที่แตกต่างกันในผู้ป่วยนอกสรรพสินค้าและในการประเมินการรับรู้เกี่ยวกับการได้รับผลประโยชน์ของเวลาทั้งหมดที่ใช้ในผู้ป่วยนอกที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวลาผมแนะนำ
เป็นหนึ่งในสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเรา มีการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา ( หรือเวลาการศึกษาการเคลื่อนไหว )
ประสิทธิภาพธุรกิจเทคนิครวมเวลาทำงานของเฟรดเดอริค วินสโลว์ เทย์เลอร์ ( 1881 a.d )
การศึกษาการเคลื่อนไหวการทำงานของแฟรงค์ บี gilberth และภรรยาของเขา Lillian Gilbreth ( 1885a D ) มันเป็นส่วนหลักของการจัดการทางวิทยาศาสตร์ (
taylorism ) 1

การศึกษาการเคลื่อนไหวถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้งานซ้ำซ้อน
ใช้เวลาศึกษามาตรการใช้เวลานานแค่ไหนคนงานเฉลี่ยที่จะเสร็จสมบูรณ์งานที่ก้าวปกติ
ในอดีตสองการศึกษามีการกล่าวถึงบุคคล ; วันนี้พวกเขามักจะมีการกล่าวถึงเป็นหนึ่งใน 2
เทคนิคได้ผสมผสานและการกลั่นเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่ใช้ในการปรับปรุงและ
ปรับปรุงระบบงาน นี้การบูรณาการงานพัฒนาระบบที่ใช้เพื่อตรวจสอบ
ตารางและวางแผนงานในองค์กรและอุตสาหกรรม ตลอดจนบริการ ได้แก่ ธนาคาร โรงเรียน และ hospitals2

วัตถุประสงค์ของการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลาที่จะกำหนดเป็น ' ปกติ ' หรือมีเวลาสำหรับงาน โดย
ใช้สังเกตการณ์บันทึกเท่าใดเวลาที่จะทุ่มเทให้กับงานแต่ละงาน ด้วยวัตถุประสงค์นี้และเวลา
การเคลื่อนไหวสามารถมีประสิทธิภาพการประเมินผลการปฏิบัติงาน ตลอดจนสามารถใช้

purposes3,4 การวางแผน ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยที่มองหาแผนกผู้ป่วยนอก ( OPD ) บริการได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า
,แต่เครื่องที่ OPD ได้เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน ตัวเลขขนาดใหญ่ของผู้ป่วย
OPDS กับกำลังคนที่มีจำกัด โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชนบท สร้างความโกลาหล ตลอดจนโอกาส
การจัดการไม่ดี ไทยจึงต้องมีระบบการศึกษาบริการสำหรับการจัดการที่มีประสิทธิภาพและฟังก์ชัน .
มันจึงจำเป็นที่เวลาง่ายและการศึกษาการเคลื่อนไหวของระบบรักษาและการแทรกแซงราคาไม่แพง
เหมาะสมสามารถไปอยู่ได้นานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงพยาบาล ความขาดแคลนของวรรณกรรมได้ถูกพบบน
การศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลาในการตั้งค่าผู้ป่วยนอก OPD กับโรงพยาบาลชุมชนเป็นสิ่งหายาก ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
ในคลินิกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลในชนบทว่าเวลาถ่ายในจุดบริการต่าง ๆ ในแผนกผู้ป่วยนอก
และเพื่อประเมินการรับรู้ของผู้รับผลประโยชน์เกี่ยวกับเวลาทั้งหมดที่ใช้ในผู้ป่วย