Fluorescence is the property of abs

Fluorescence is the property of absorbing light rays of one particular wavelength and emitting rays with a different wavelength. Fluorescent dyes show up brightly under ultraviolet light as they convert ultraviolet into visible light. Coons and his colleagues (1942) showed that fluorescent dyes can be conjugated to antibodies and that such labeled antibodies can be used to locate and identify antigens in tissue. Because of this reason, immunofluorescence technique is also a type of immunohistochemistry assay.



The most commonly used fluorescent dyes are fluorescein and rhodamine but other highly fluorescent substances such as phycoerythrin and phycobiliproteins have also been used. Dyes can be conjugated to the Fc region of an antibody molecule without affecting the specificity of antibody. Fluorescein, an organic dye that is the most widely used label for immunofluorescence procedures absorb blue light (490nm) and emits an intense yellow green fluorescence (517nm). Rhodamine, another organic dye absorb in the yellow green range (515nm) and emits a deep red fluorescence (546nm).



Fluorescent-antibody staining of cell membrane molecules or tissue sections can be direct or indirect. In direct staining, the specific antibody (the primary antibody) is directly conjugated with fluorescein; in indirect staining, the primary antibody is unlabeled and is detected with an additional fluorochrome-labeled reagent. A number of reagents have been developed for indirect staining. The most common is a fluorochrome-Labeled secondary antibody raised in one species against antibodies of another species, such as fluorescein-labeled goat anti-mouse immunoglobulin.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรืองแสงเป็นทรัพย์สินของการดูดซับรังสีของแสงความยาวคลื่นหนึ่งโดยเฉพาะและเปล่งรังสีที่มีความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน สีเรืองแสงแสดงขึ้นสดใสภายใต้แสงอัลตราไวโอเลตที่พวกเขาเข้ามาในแปลงอัลตราไวโอเลตแสงที่มองเห็น แรคคูนและเพื่อนร่วมงานของเขา (1942) พบว่าสีเรืองแสงสามารถผันไปแอนติบอดีและแอนติบอดีที่มีข้อความดังกล่าวสามารถใช้ในการค้นหาและระบุแอนติเจนในเนื้อเยื่อ เพราะเหตุนี้เทคนิคอิมมูโนยังเป็นประเภทของการทดสอบ immunohistochemistry ได้. ที่ใช้กันมากที่สุดจะเรืองแสงสี fluorescein และ rhodamine แต่สารอื่น ๆ เรืองแสงสูงเช่น phycoerythrin phycobiliproteins และได้ถูกนำมาใช้ สีย้อมสามารถผันไปยังภูมิภาค Fc ของโมเลกุลแอนติบอดีโดยไม่มีผลต่อความจำเพาะของแอนติบอดี Fluorescein เป็นสีย้อมอินทรีย์ที่เป็นฉลากใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับขั้นตอนการอิมมูโนดูดซับแสงสีฟ้า (490nm) และส่งเสียงเรืองแสงสีเขียวสีเหลืองที่รุนแรง (517nm) rhodamine อีกสีย้อมอินทรีย์ดูดซับอยู่ในช่วงสีเขียวสีเหลือง (515nm) และส่งเสียงเรืองแสงสีแดงเข้ม (546nm). การย้อมสีฟลูออเรแอนติบอดีของโมเลกุลเยื่อหุ้มเซลล์หรือเนื้อเยื่อส่วนที่อาจจะโดยตรงหรือโดยอ้อม ในการย้อมสีตรงแอนติบอดีที่เฉพาะเจาะจง (แอนติบอดีหลัก) จะผันโดยตรงกับ fluorescein; ในการย้อมสีทางอ้อมแอนติบอดีหลักคือไม่มีป้ายกำกับและมีการตรวจพบสารที่มีสารเรืองแสงที่มีข้อความเพิ่มเติม จำนวนของสารเคมีที่ได้รับการพัฒนาสำหรับการย้อมสีทางอ้อม ที่พบมากที่สุดคือแอนติบอดี fluorochrome-ป้ายรองเติบโตในหนึ่งชนิดกับภูมิคุ้มกันของสายพันธุ์อื่นเช่นแพะ fluorescein ที่มีข้อความต่อต้านอิมมูโนเมาส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้เป็นคุณสมบัติของการดูดซับรังสีแสงอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะความยาวคลื่นเปล่งรังสีที่มีความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน สีเรืองแสง แสดงสดใสภายใต้แสงอัลตราไวโอเลตที่พวกเขาแปลงรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงที่มองเห็น .แรคคูนและเพื่อนร่วมงานของเขา ( 1942 ) พบว่าสีย้อมฟลูออเรสเซนต์สามารถและแอนติบอดี และติดป้ายว่าแอนติบอดีดังกล่าวสามารถใช้ในการค้นหาและระบุแอนติเจนในเนื้อเยื่อ เพราะเหตุนี้ เทคนิค วิธี ยัง ชนิดของหลอด



( . . .ส่วนใหญ่นิยมใช้สีเรืองแสงและเป็นสารเรืองแสงจากี่แต่อย่างอื่น เช่น ไฟโคอิริทริน และ phycobiliproteins ยังถูกใช้ สีย้อมสามารถและกับ เอฟซี เขตของแอนติบอดีโมเลกุลโดยไม่มีผลต่อความจำเพาะของแอนติบอดี ี่ ,เป็นสีย้อมอินทรีย์ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายป้ายชื่อสำหรับขั้นตอนวิธีดูดซับแสงสีฟ้า ( 490nm ) และส่งเสียงเข้ม สีเหลือง สีเขียวเรืองแสง ( 517nm ) โรดามีน อื่น สีย้อมอินทรีย์ดูดซับในช่วงสีเหลืองเขียว ( 515nm ) และปล่อยเรืองแสงสีแดงลึก ( 546nm )



ทรหึงการย้อมสีของเยื่อเซลล์ โมเลกุล หรือเนื้อเยื่อส่วนที่สามารถโดยตรงหรือทางอ้อมโดยการย้อมสีแอนติบอดีที่เฉพาะเจาะจง ( แอนติบอดีหลัก ) โดยตรงและโดยอ้อมี่ ; staining ) หลักใกล้เคียงกันและพบว่ามีการเพิ่มเติมฟลู โรโครมเกิดปฏิกิริยา หมายเลขของสารเคมีได้ พัฒนาโดยอ้อม stainingที่พบมากที่สุดคือระดับแอนติบอดีขึ้นในฟลู โรโครมป้ายชนิดเดียวกับแอนติบอดีต่ออิมมูโนโกลบูลินชนิดอื่น เช่น ป้องกันเมาส์ี่ติดป้าย แพะ