The original meaning of Christmas i

The original meaning of Christmas is a special church service, or mass, to celebrate the birth of Christ. The story of the Nativity, or the events surrounding the birth of Jesus, are particularly important in religious celebrations of Christmas. However, many traditions that are around today have their roots in pre-Christian winter festivals. These include the importance of candles and decorations made from evergreen bushes and tree, symbolizing everlasting light and life.
In Roman times, a mid-winter festival was held. This was a relaxing time with a lot of parties and merry making. It was also common to give other people small gifts, such as dolls for children and candles for adults. This festival culminated with the celebration of the winter solstice, which fell on December 25 in the Roman calendar. In Scandinavia, a festival called Yule and lasting up to twelve days was held in late December and early January. In this time people burnt logs and held parties. These customs have influences how Christmas Day is celebrated today in the United States.

The Bible does not give a precise date for the birth of Jesus. It is also unclear when December 25 became associated with the birth of Jesus, although it may have been around two hundred years after his birth. In the early centuries of Christianity, the anniversary of the birth of Jesus was not a cause for celebrations. The idea of turning this day into a celebration started in the early Middle Ages in Europe.

During Reformation and up until the middle of the 1800s, Christmas was often not celebrated because partying and merry making was seen as unchristian. From about 1840, celebrating Christmas became more widespread. December 25 was declared a federal holiday in the United States in 1870. Since then Christmas Day has become a steadily more important holiday.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความหมายเดิมของคริสต์มาสเป็นบริการพิเศษที่คริสตจักร หรือมวล การเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูคริสต์ เรื่องราวของการประสูติ หรือเหตุการณ์เกิดของพระเยซู สำคัญทางศาสนาฉลองคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม ประเพณีจำนวนมากที่อยู่รอบ ๆ วันนี้มีรากของตนในเทศกาลฤดูหนาวก่อนคริสเตียน เหล่านี้รวมถึงความสำคัญของเทียนและตกแต่งที่ทำจากพุ่มไม้ป่าต้นไม้ สัญลักษณ์แสงนิรันดร์ และชีวิตเทศกาลกลางฤดูหนาวถูกจัดขึ้นในช่วงเวลาที่โรมัน นี้คือเวลาผ่อนคลายกับบุคคลและทำให้ร่าเริง ก็ทั่วไปให้ผู้อื่นของที่ระลึก ตุ๊กตาสำหรับเด็กและเทียนสำหรับผู้ใหญ่ เทศกาลนี้ culminated กับงานฉลองเหมายัน ซึ่งลงวันที่ 25 ธันวาคมในปฏิทินโรมัน ในสแกนดิเนเวีย เทศกาลเรียกว่าเทศกาลคริสต์มาส และนานถึงสิบสองวันได้จัดขึ้นในปลายเดือนธันวาคมและต้นเดือนมกราคม ในบันทึกคนเผาเวลาและจัดบุคคล ศุลกากรเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างไรวันคริสต์มาสมีการเฉลิมฉลองวันนี้ในสหรัฐอเมริกาพระคัมภีร์ให้วันเกิดของพระเยซูที่แม่นยำ ก็ยังไม่ชัดเจนเมื่อ 25 ธันวาคมกลายเป็นที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของพระเยซู แม้ว่ามันอาจได้ประมาณสองร้อยปีหลังจากประสูติ ในศตวรรษแรกของคริสต์ศาสนา ครบรอบวันเกิดของพระเยซูถูกไม่ใช่สาเหตุสำหรับการเฉลิมฉลอง ความคิดในการเปลี่ยนวันที่นี้เป็นการเฉลิมฉลองเริ่มต้นในยุคกลางในยุโรปใน ระหว่างการปฏิรูปศาสนา และจน ถึงกลางศตวรรษที่ 19 คริสต์มาสถูกมักจะไม่ได้รับการเฉลิมฉลองเนื่องจากปาร์ตี้ และทำร่าเริงที่เห็นเป็น unchristian จากประมาณ 1840 ฉลองคริสต์มาสกลายแพร่หลายมากขึ้น 25 ธันวาคมรับการประกาศเป็นวันหยุดของรัฐในสหรัฐอเมริกาใน 1870 วันคริสต์มาสเป็น วันสำคัญอย่างต่อเนื่องตั้งแต่นั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความหมายเดิมของคริสมาสต์เป็นบริการพิเศษคริสตจักรหรือมวลเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู เรื่องราวของพระเยซูหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรอบเกิดของพระเยซูที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเฉลิมฉลองทางศาสนาของคริสมาสต์ อย่างไรก็ตามประเพณีหลายอย่างที่อยู่รอบตัวในวันนี้มีรากของพวกเขาในงานเทศกาลฤดูหนาวก่อนคริสต์ศักราช เหล่านี้รวมถึงความสำคัญของเทียนและของประดับตกแต่งที่ทำจากพุ่มไม้ป่าดิบและต้นไม้สัญลักษณ์ไฟนิรันดร์และชีวิต.
ในสมัยโรมันเทศกาลกลางฤดูหนาวที่จัดขึ้น นี้เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายมีจำนวนมากของฝ่ายและมีจิตใจเบิกบาน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะให้คนอื่น ๆ ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นตุ๊กตาสำหรับเด็กและเทียนสำหรับผู้ใหญ่ เทศกาลนี้ culminated กับการเฉลิมฉลองของฤดูหนาวซึ่งลดลงเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมปฏิทินโรมัน ในสแกนดิเนเวีเทศกาลที่เรียกว่าเทศกาลคริสต์มาสและยาวนานถึงสิบสองวันที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคมและช่วงต้นเดือนมกราคม ในเวลานี้ผู้คนเผาบันทึกและบุคคลที่ถือครอง ศุลกากรเหล่านี้มีอิทธิพลต่อวิธีการที่วันคริสต์มาสมีการเฉลิมฉลองในวันนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา. พระคัมภีร์ไม่ได้ให้วันที่แน่นอนสำหรับการเกิดของพระเยซู นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนเมื่อ 25 ธันวาคมกลายเป็นที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของพระเยซูแม้ว่ามันอาจได้รับรอบสองร้อยปีหลังจากที่เขาเกิด ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษ, วันครบรอบวันเกิดของพระเยซูไม่ได้เป็นสาเหตุสำหรับการเฉลิมฉลอง ความคิดของการเปลี่ยนวันนี้ในการเฉลิมฉลองเริ่มต้นในช่วงต้นยุคกลางในยุโรป. ในระหว่างการปฏิรูปขึ้นไปจนถึงกลางปี ​​1800 ที่คริสมาสต์ก็มักจะไม่ได้มีการเฉลิมฉลองเพราะปาร์ตี้และมีจิตใจเบิกบานถูกมองว่าเป็นอนารยะ จากประมาณ 1840 ฉลองคริสมาสต์กลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น 25 ธันวาคมถูกประกาศให้เป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1870 ตั้งแต่นั้นมาวันคริสต์มาสได้กลายเป็นวันหยุดที่สำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความหมายที่แท้จริงของคริสต์มาส คือ บริการ โบสถ์เป็นพิเศษหรือมวลชน เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู เรื่องราวของการประสูติ หรือเหตุการณ์แวดล้อมเกิดของพระเยซู , สำคัญในการเฉลิมฉลองทางศาสนาของวันคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม ประเพณีหลายอย่างที่วันนี้มีรากของพวกเขาในก่อนคริสต์ฤดูหนาวเทศกาล เหล่านี้รวมถึงความสำคัญของเทียนและของประดับตกแต่งที่ทำจากไม้ที่เขียวชอุ่มและต้นไม้ เป็นสัญลักษณ์ของไฟนิรันดร์และชีวิตในสมัยโรมันเทศกาลกลางฤดูหนาวขึ้น นี้คือเวลาพักผ่อนที่มีจำนวนมากของบุคคลและเมอร์รี่ ทํา นอกจากนี้ยังทั่วไปเพื่อให้คนอื่น ๆ ขนาดเล็ก ของขวัญ เช่น ตุ๊กตาสำหรับเด็ก และเทียนสำหรับผู้ใหญ่ เทศกาลนี้ culminated กับการเฉลิมฉลองฤดูหนาว ซึ่งตกอยู่ในวันที่ 25 ธันวาคม ในปฏิทินโรมัน . ในสแกนดิเนเวีย เทศกาลที่เรียกว่า ยูลและยั่งยืนถึงสิบสองวันจัดขึ้นในปลายเดือนธันวาคมหรือต้นเดือนมกราคม ในเวลานี้คนเผาบันทึกและจัดปาร์ตี้ ศุลกากรเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างไรวันคือกระเดื่องในวันนี้ในสหรัฐอเมริกาพระคัมภีร์ไม่ได้บอกวันที่แน่นอนสำหรับการเกิดของพระเยซู มันยังไม่ชัดเจน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ก็มีความสัมพันธ์กับการเกิดของพระเยซู แม้ว่ามันอาจได้รับรอบสองร้อยปีหลังจากเกิดของเขา ในศตวรรษแรกของคริสต์ศาสนา วันครบรอบวันเกิดของพระเยซูไม่ได้เป็นสาเหตุสำหรับการเฉลิมฉลอง ความคิดของการเปลี่ยนวันนี้ในการเฉลิมฉลองเริ่มต้นในช่วงต้นยุคกลางในยุโรปในระหว่างการปฏิรูปและจนถึงกลาง 1800s , คริสต์มาสมักจะไม่ฉลองเพราะปาร์ตี้และร่าเริงทำให้ถูกมองว่าไม่ใช่คริสเตียน . จากประมาณ 1840 ฉลองคริสต์มาสเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น 25 ธันวาคมถูกประกาศให้เป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1870 ตั้งแต่นั้นมาวันคริสต์มาสได้กลายเป็นวันหยุดอย่างต่อเนื่องสำคัญกว่า