Numerous studies have suggested a l

Numerous studies have suggested a link between gum disease and heart disease. Now, new research clarifies how bacteria in our mouths can lead to cardiovascular health problems. (You might want to go brush and floss before you continue reading.)

Porphyromonas gingivalis is an oral bacteria that causes periodontitis, a more advanced stage of the common gum disease gingivitis. Oral bacteria can break free during chewing or toothbrushing and enter the bloodstream, binding to blood cells and making their way to blood vessels. This is particularly likely to occur in people with serious gum infections.

Scientists have previously identified P. gingivalis in the arterial plaque of heart attack patients, and animal studies show that P. gingivalis can both cause and accelerate the buildup of plaque inside the coronary and aortic arteries, a condition known as atherosclerosis. The accumulation of plaque provokes inflammation, which is thought to be a crucial component of atherosclerosis.

But exactly how P. gingivalis participates in that process has remained mysterious—until now. A team of researchers led by Torbjörn Bengtsson of Örebro University in Sweden infected aortic smooth muscle cells with P. gingivalis. They observed that the bacteria altered gene expression in a way that dramatically increased inflammation. This is the first time the chemical process has been observed at a molecular level. Their findings were recently published in the journal Infection and Immunity.

In addition to identifying the mechanism by which P. gingivalis provoked inflammation, the researchers discovered that the combination of the bacteria and stress may amplify the risk of a heart attack. “P. gingivalis markedly increases the sensitivity of platelets … to adrenaline, which means that a combination of periodontitis and stress increases the risk for [blood clot and heart attack],” said Bengtsson.

Now that they better understand the mechanism linking periodontitis to heart disease, the researchers will continue searching for biomarkers that could help diagnose and treat the disease more quickly. Nearly half of adults over age 30 in the United States suffer from periodontal disease, according to the Centers for Disease Control and Prevention.

After controlling for factors such as high blood pressure, diabetes, obesity, alcohol consumption and smoking, the prevalence of cardiovascular diseases in patients with periodontitis is still 25–50 percent higher than in people who don’t have the gum disease, said Bengtsson, who also emphasized the importance of good oral hygiene.

“Taking care of your teeth by careful brushing and flossing and going to the dentist regularly is of course basic and very important,” he said, adding that removal of plaque through regular dental cleanings to prevent periodontitis is still the general treatment.

However, his team is also testing new methods of controlling oral bacteria before they cause serious gum disease. It turns out that a protein in some lactobacillus—the so-called “good” bacteria that help the body fight a multitude of ailments from diarrhea to yeast infections—may also hold promise for preventing and treating periodontitis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาจำนวนมากได้แนะนำการเชื่อมโยงระหว่างโรคเหงือกและโรคหัวใจ ตอนนี้ งานวิจัยใหม่ชัดเจนว่าแบคทีเรียในปากของเราสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด (คุณอาจต้องไปแปรง และใช้ไหมขัดฟันก่อนคุณอ่านต่อ)Porphyromonas gingivalis เป็นแบคทีเรียมีปากที่เป็นสาเหตุของโรคปริทันต์ ขั้นสูงขึ้นของโรคเหงือกอักเสบโรคเหงือกทั่วไป ช่องปากแบคทีเรียสามารถทำลายฟรีระหว่างแปรงฟันหรือเคี้ยว และป้อนสู่กระแสเลือด ผูกกับเซลล์เม็ดเลือด และทำให้ทางหลอดเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักจะเกิดในคนที่มีการติดเชื้อรุนแรงเหงือกได้นักวิทยาศาสตร์ได้เคยระบุ gingivalis P. ในคราบแดงของผู้ป่วยหัวใจวาย และศึกษาสัตว์แสดงว่า P. gingivalis สามารถทั้งทำ และเร่งการสะสมของคราบจุลินทรีย์ภายในหลอดเลือดแดงเอออร์ตา และหลอดเลือดหัวใจ สภาพที่เรียกว่าหลอดเลือด การสะสมของคราบแบคทีเรียกระตุ้นให้เกิดอักเสบ ซึ่งเป็นความคิดที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของหลอดเลือดแต่ว่า P. gingivalis เข้าร่วมที่ยังคงลึกลับอยู่กระบวนการซึ่งจนถึงขณะนี้ ทีมนักวิจัยนำ โดยเก้าอี้ Bengtsson Örebro มหาวิทยาลัยในสวีเดนติดเชื้อเซลล์กล้ามเนื้อเรียบที่เอออร์ตากับ P. gingivalis พวกเขาสังเกตเห็นว่า แบคทีเรียเปลี่ยนแปลงยีนในทางที่เพิ่มขึ้นอักเสบอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับการปฏิบัติกระบวนการทางเคมีในระดับโมเลกุล ค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ถูกประกาศในสมุดรายวันการติดเชื้อและภูมิคุ้มกันนอกจากระบุกลไก โดยที่ P. gingivalis เคืองอักเสบ นักวิจัยค้นพบว่า แบคทีเรียและความเครียดอาจขยายความเสี่ยงของหัวใจวาย "P. gingivalis ซึ่งเพิ่มความไวแสงของเกล็ดเลือด...การตื่นเต้น ซึ่งหมายความ ว่า โรคปริทันต์และความเครียดเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ [เลือดและหัวใจ]," Bengtsson กล่าวหลังจากที่พวกเขาเข้าใจถึงกลไกการเชื่อมโยงโรคปริทันต์โรคหัวใจ นักวิจัยจะค้นหา biomarkers ที่สามารถช่วยวินิจฉัย และรักษาโรคได้รวดเร็วขึ้น เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่อายุ 30 ในสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาจากโรคปริทันต์ ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหลังจากการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ เช่นความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน แอลกอฮอล์และบุหรี่ ความชุกของโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยโรคปริทันต์ได้ยังคง 25 – 50 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าในคนที่ไม่มีโรคเหงือก กล่าวว่า Bengtsson ที่ยัง เน้นความสำคัญของสุขอนามัยในช่องปากดี"การดูแลฟันของคุณโดยระวังแปรงฟัน และใช้ไหมขัด และไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นหลักสูตรพื้นฐาน และสำคัญมาก เขากล่าวว่า เพิ่มการกำจัดคราบจุลินทรีย์โดยทำความสะอาดฟันเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคปริทันต์ยังคงรักษาทั่วไปอย่างไรก็ตาม ทีมงานของเขายังทดสอบวิธีใหม่ของการควบคุมแบคทีเรียในช่องปากก่อนเกิดโรคเหงือกที่รุนแรง ปรากฎว่าโปรตีนในแลคโตบาซิลลัสบาง — แบคทีเรียเรียกว่า "ดี" ที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคท้องร่วงจากการติดเชื้อยีสต์ที่หลากหลายซึ่งอาจยังเก็บสัญญาสำหรับป้องกัน และรักษาโรคปริทันต์ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาหลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างโรคเหงือกและโรคหัวใจ ตอนนี้งานวิจัยใหม่ชี้แจงว่าแบคทีเรียในปากของเราสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด (คุณอาจต้องการที่จะไปแปรงขนอ่อนและก่อนที่คุณจะอ่านต่อไป.) Porphyromonas gingivalis เป็นแบคทีเรียในช่องปากที่เป็นสาเหตุของโรคปริทันต์เวทีที่สูงขึ้นของโรคเหงือกอักเสบโรคเหงือกที่พบบ่อย แบคทีเรียในช่องปากสามารถทำลายฟรีระหว่างการเคี้ยวหรือแปรงฟันและเข้าสู่กระแสเลือด, ผูกพันกับเซลล์เม็ดเลือดและการทำทางของพวกเขาไปยังหลอดเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในคนที่มีการติดเชื้อเหงือกร้ายแรง. นักวิทยาศาสตร์ได้ระบุก่อนหน้านี้พี gingivalis ในคราบจุลินทรีย์หลอดเลือดแดงของผู้ป่วยโรคหัวใจวายและการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสัตว์ P. gingivalis ทั้งสาเหตุและสามารถเร่งการสะสมของคราบจุลินทรีย์ภายในหลอดเลือดและ หลอดเลือดแดงหลอดเลือดสภาพที่เรียกว่าหลอดเลือด การสะสมของคราบจุลินทรีย์กระตุ้นให้เกิดการอักเสบซึ่งเป็นความคิดที่จะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของหลอดเลือด. แต่ว่าวิธี P. gingivalis มีส่วนร่วมในกระบวนการที่ยังคงลึกลับจนถึงขณะนี้ ทีมนักวิจัยที่นำโดยTorbjörn Bengtsson ของมหาวิทยาลัยในสวีเดนÖrebroติดเชื้อเซลล์กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดกับพี gingivalis พวกเขาพบว่าเชื้อแบคทีเรียที่มีการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีนในทางที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอักเสบ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของกระบวนการทางเคมีได้รับการปฏิบัติในระดับโมเลกุล การค้นพบของพวกเขาถูกตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ในการติดเชื้อและภูมิคุ้มกันวารสาร. นอกจากการระบุกลไกที่ P. gingivalis เคืองอักเสบนักวิจัยได้ค้นพบว่าการรวมกันของเชื้อแบคทีเรียและความเครียดอาจขยายความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ "พี gingivalis โดดเด่นเพิ่มความไวของเกล็ดเลือด ... เพื่อตื่นเต้นซึ่งหมายความว่าการรวมกันของโรคปริทันต์และความเครียดเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ [ลิ่มเลือดและหัวใจวาย] "Bengtsson กล่าวว่า. ตอนนี้พวกเขาเข้าใจถึงกลไกการเชื่อมโยงปริทันต์การเกิดโรคหัวใจที่ นักวิจัยจะยังคงค้นหา biomarkers ที่จะช่วยให้การวินิจฉัยและรักษาโรคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่อายุ 30 กว่าในสหรัฐอเมริกาทนทุกข์ทรมานจากโรคปริทันต์ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค. หลังจากควบคุมปัจจัยเช่นความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน, โรคอ้วน, บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ความชุกของโรคหัวใจและหลอดเลือด ในผู้ป่วยที่มีปริทันต์ยังคงเป็น 25-50 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าคนที่ไม่ได้มีโรคเหงือก Bengtsson ที่ยังเน้นความสำคัญของสุขอนามัยช่องปากที่ดีกล่าวว่า. "การดูแลฟันของคุณโดยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างระมัดระวังและไป ทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นหลักสูตรขั้นพื้นฐานและสิ่งที่สำคัญมาก "เขากล่าวเพิ่มว่ากำจัดคราบจุลินทรีย์ที่ผ่านการทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ปริทันต์ยังคงรักษาทั่วไป. อย่างไรก็ตามทีมของเขาจะยังมีการทดสอบวิธีการใหม่ในการควบคุมแบคทีเรียในช่องปากก่อนที่พวกเขาทำให้ร้ายแรง โรคเหงือก แต่กลับกลายเป็นว่าโปรตีนใน Lactobacillus-ที่เรียกว่าแบคทีเรียบางชนิดที่ "ดี" ที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับความหลากหลายของโรคท้องเสียจากการติดเชื้อยีสต์อาจยังถือสัญญาสำหรับการป้องกันและรักษาโรคปริทันต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษามากมายได้พบการเชื่อมโยงระหว่างโรคเหงือกและโรคหัวใจ ตอนนี้งานวิจัยใหม่ชี้แจงว่าแบคทีเรียในปากของเราสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ( คุณอาจต้องการไปแปรงและไหมขัดฟันก่อนอ่านต่อ )เชื้อพอร์ไฟโรโมนาส เป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคปริทันต์อักเสบในช่องปาก เป็นขั้นตอนที่สูงขึ้นของโรคที่พบเหงือกโรคเหงือก แบคทีเรียในช่องปากสามารถพักฟรีในการเคี้ยวหรือการแปรงฟัน และเข้าสู่กระแสเลือด ผูกเลือดเซลล์และทำให้ทางของพวกเขาไปยังเส้นเลือด นี้คือโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในคนที่มีการติดเชื้อหมากฝรั่งที่ร้ายแรงนักวิทยาศาสตร์ได้ระบุก่อนหน้านี้หน้าเชื้อในคราบจุลินทรีย์หลอดเลือดของผู้ป่วยโรคหัวใจ และการศึกษาสัตว์แสดงให้เห็นว่าหน้าเชื้อสามารถทั้งสาเหตุและเร่งการสะสมของหินปูนในหลอดเลือดแดงหัวใจ และ หลอดเลือด , สภาพที่เรียกว่าหลอดเลือด การสะสมของหินปูนช่วยกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ซึ่งคิดว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของหลอดเลือดแต่สิ่งที่หน้าพอร์มีส่วนร่วมในกระบวนการที่ยังคงลึกลับ จนกระทั่งตอนนี้ ทีมนักวิจัยที่นำโดย torbj ö rn bengtsson ของเออเรบรูมหาวิทยาลัยในสวีเดนติดเชื้อของกล้ามเนื้อเรียบเซลล์ที่มีเชื้อ P . พวกเขาพบว่าแบคทีเรียการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีนในทางที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของการอักเสบ นี่เป็นครั้งแรกที่กระบวนการทางเคมี พบว่า ในระดับโมเลกุล การค้นพบล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารการติดเชื้อและภูมิคุ้มกันนอกจากการระบุกลไกที่หน้าเชื้อกระตุ้นการอักเสบ นักวิจัยพบว่า การรวมกันของแบคทีเรียและความเครียดอาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย " หน้าอย่างเห็นได้ชัด ความไวของเชื้อเพิ่มเกล็ดเลือด . . . ตื่นเต้น ซึ่งหมายความว่าการรวมกันของโรคปริทันต์อักเสบ และความเครียด เพิ่มความเสี่ยงหัวใจวาย ] [ ก้อนเลือด และกล่าวว่า " bengtsson .ตอนนี้พวกเขาเข้าใจกลไกการเชื่อมโยงโรคปริทันต์โรคหัวใจ นักวิจัยจะยังคงค้นหาแบบใหม่ที่สามารถช่วยวินิจฉัยและรักษาโรคได้อย่างรวดเร็ว เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่อายุ 30 ในสหรัฐอเมริกาประสบจากโรคปริทันต์ ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหลังจากควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ความชุกของโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบยัง 25 – 50 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ที่ไม่มีโรคเหงือก , กล่าวว่า bengtsson ที่ยังเน้นความสำคัญของสุขอนามัยช่องปากที่ดี" การดูแลฟันของคุณ โดยระวังการแปรง และ flossing และไปที่ทันตแพทย์เป็นหลักสูตรพื้นฐานและที่สำคัญ " เขากล่าวเพิ่มว่า การกำจัดจุลินทรีย์ผ่านปกติฟันล้างเพื่อป้องกันโรคปริทันต์ยังคงรักษาทั่วไปอย่างไรก็ตาม ทีมของเขายังมีการทดสอบวิธีการใหม่ในการควบคุมแบคทีเรียในช่องปากก่อนที่พวกเขาก่อให้เกิดโรคเหงือกอย่างรุนแรง ปรากฎว่าโปรตีนในแบคทีเรีย Lactobacillus ที่เรียกว่า " ดี " ที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับความหลากหลายของโรคท้องร่วงจากเชื้อยีสต์อาจยังถือสัญญาสำหรับการป้องกันและการรักษาโรคปริทันต์อักเสบ