Detroit Bankrupt:In 1960, the riche

Detroit Bankrupt:

In 1960, the richest per capita city in America, according to the U.S. Census Bureau, was Detroit.

Today Detroit has filed for bankruptcy, the largest American city to do so. This tragedy is a stark reminder of the unintended consequences of recent financial crisis.

Before we examine what truly caused the decimation of one the world’s richest cities, let us review just how rapidly the conditions in Detroit have declined.

Sixty percent (60%) of all of Detroit’s children are living in poverty. Fifty percent of the population has been reported to be functionally illiterate. Eighteen percent (18%) of the population is unemployed.

A major reason for Detroit’s economic woes is often cited from a review of U.S. 2010 Census data, which notes Michigan lost 48% of all its manufacturing jobs from 2000-2010. The obvious follow-up question is, why?

A major portion of the answer can be found in national reporting concerning the actual effects of NAFTA. When the North American Free Trade Agreement was first signed in 1994, supporters said it would eventually create jobs for the U.S. economy.

Today, however, a growing number of academic research reports contend NAFTA cost the U.S. millions of manufacturing jobs. According to a report by Economic Policy Institute economist, U.S.-Mexico trade and job displacement after NAFTA were heading south, an estimated 682,900 U.S. net jobs have been "lost or displaced" because of the agreement and the resulting trade deficit.

In Union Pacific’s 2012 report to stockholders it noted, “We anticipate by 2014 50% of all cars and light trucks sold in the U.S. will be shipped by train from assembly plants in Mexico.

Five decades of ongoing job losses saw white flight occur in Detroit as those with the resources to leave the city did so in search of new economic opportunities. Today Detroit is a city with the worst of all scenarios: a poorly qualified workforce and few job opportunities available.

Detroit's bankruptcy has now come. The city's history should stand as a clear reminder of the unintended consequences of the financial crisis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดีทรอยต์ละลาย:ใน 1960 เมืองต่อหัวรวยที่สุดในอเมริกา ตามสำนักสำมะโนสหรัฐอเมริกา ถูกดีทรอยต์วันนี้ดีทรอยต์ได้ยื่นสำหรับล้มละลาย อเมริกันที่พักดังกล่าว โศกนาฏกรรมนี้จะเตือนสิ้นเชิงของผลกระทบที่ไม่ตั้งใจของวิกฤตทางการเงินก่อนที่เราตรวจสอบว่าแท้จริงสาเหตุกำจัดจำนวนมากแบบหนึ่งเมืองที่รวยที่สุดในโลก ให้เราทบทวนอย่างรวดเร็วเพียงไรมีปฏิเสธเงื่อนไขในดีทรอยต์หกเปอร์เซ็นต์ (60%) ของเด็กของดีทรอยต์อาศัยอยู่ในความยากจน ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรที่ได้รับรายงานว่า บริเวณ illiterate จำนวนเปอร์เซ็นต์ (18%) ของประชากรเป็นคนตกงานมักมีอ้างเหตุผลสำคัญสำหรับของดีทรอยต์เศรษฐกิจความทุกข์โศกจากการตรวจทานข้อมูลสำมะโนสหรัฐ 2010 เหตุที่มิชิแกนหายไป 48% ของงานผลิตทั้งหมดจาก 2000-2010 คำถามการติดตามผลที่ชัดเจนคือ ทำไมส่วนใหญ่คำตอบสามารถพบได้ในรายงานแห่งชาติเกี่ยวกับผลกระทบของ NAFTA จริง เมื่อก่อนเซ็นข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือในปี 1994 ผู้สนับสนุนกล่าวว่า เป็นการสร้างงานสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในที่สุดวันนี้ ไร จำนวนที่เพิ่มขึ้นของรายงานการศึกษาวิจัยแข่งต้นทุน NAFTA สหรัฐฯ ล้านของการผลิตงาน รายงานโดยนักเศรษฐศาสตร์ สถาบันนโยบายเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกาเม็กซิโกค้าและงานแทนหลังจาก NAFTA มีหัวใต้ การประเมิน 682,900 สหรัฐสุทธิงานได้ "สูญหาย หรือพลัดถิ่น" ข้อตกลงและการขาดดุลการค้าได้ในยูเนียนแปซิฟิก 2012 รายงาน stockholders มันตั้งข้อสังเกต "เราคาดหวัง 2014 50% ของรถทุกคัน และบรรทุกขายในสหรัฐอเมริกาจะถูกจัดส่ง โดยรถจากโรงงานประกอบในประเทศเม็กซิโกห้าทศวรรษของงานอย่างต่อเนื่องขาดทุนเห็นบินสีขาวที่เกิดขึ้นในดีทรอยต์เป็นผู้ที่ มีทรัพยากรที่จะออกจากเมืองได้เพื่อค้นหาโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ วันนี้ดีทรอยต์เป็นเมืองที่ มีร้ายของสถานการณ์ทั้งหมด: คุณสมบัติการงานบุคลากรและโอกาสงานน้อยพร้อมใช้งานตอนนี้มาล้มละลายของดีทรอยต์ ประวัติของเมืองควรยืนเตือนผลตั้งใจของวิกฤตการเงินชัดเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Detroit ล้มละลาย :

ใน 1960 เมืองต่อหัวที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา ตามที่การสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา เป็นดีทรอยต์

วันนี้ดีทรอยท์ได้ยื่นสำหรับล้มละลาย , เมืองอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดที่จะทำ โศกนาฏกรรมนี้เป็นตัวเตือนสิ้นเชิงของผลที่ไม่ตั้งใจของวิกฤตการเงินล่าสุด

ก่อนที่เราจะตรวจสอบสิ่งที่แท้จริงที่เกิดจากทศนิยมของหนึ่งของโลกที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองขอให้เราทบทวนเพียงวิธีการอย่างรวดเร็วเงื่อนไขในดีทรอยต์ลดลง

ร้อยละหกสิบ ( 60 % ) ของเด็กดีทรอยต์อาศัยอยู่ในความยากจน ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรได้โดยการศึกษา 8% ( 18% ) ของประชากรตกงาน

เหตุผลหลักสำหรับ woes เศรษฐกิจของดีทรอยต์มักจะอ้างจากการทบทวนข้อมูล 2010 สำมะโนประชากรสหรัฐซึ่งบันทึกมิชิแกนหายไป 48% ของงานผลิตทั้งหมดจาก 2000-2010 . ส่วนคำถามที่ชัดเจนคือ ทำไม ?

ส่วนใหญ่ของคำตอบที่สามารถพบได้ในรายงานแห่งชาติเกี่ยวกับผลกระทบที่แท้จริงของนาฟตา . เมื่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกที่ลงนามในปี 1994 , ผู้สนับสนุนกล่าวว่าในที่สุดจะสร้างงานสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ

วันนี้ อย่างไรก็ตามตัวเลขการเติบโตของรายงานวิจัยวิชาการต่อสู้นาฟตาต้นทุนสหรัฐฯ ล้านของงานผลิต ตามรายงานของสถาบันนโยบายเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ , การค้าสหรัฐ - เม็กซิโกและการกระจัดงานหลังจากนาฟต้า มุ่งหน้าไปทางใต้ ประมาณ 682900 สหรัฐอเมริกาสุทธิงานได้ " สูญหายหรือพลัดถิ่น " เพราะข้อตกลงและส่งผลให้ขาดดุลการค้า .

ในรายงานของสหภาพแปซิฟิก 2012 ผู้ถือหุ้นมันกล่าว " เราคาดการณ์โดย 2014 50% ของรถยนต์และรถบรรทุกที่ขายในสหรัฐอเมริกาจะถูกส่งโดยรถไฟจากโรงงานประกอบในเม็กซิโก .

ห้าทศวรรษของงานขาดทุนอย่างต่อเนื่องเห็นเครื่องบินสีขาวเกิดขึ้นในดีทรอยต์เป็นผู้ที่มีทรัพยากรที่จะออกจากเมืองไม่ได้ดังนั้น ในการค้นหาโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ .วันนี้ดีทรอยต์เป็นเมืองที่เลวร้ายที่สุดของทั้งหมดสถานการณ์ได้บุคลากรที่มีคุณสมบัติ และโอกาสงานไม่กี่ใช้ได้

ดีทรอยต์ล้มละลายได้มาถึงแล้ว ประวัติศาสตร์ของเมืองควรยืนเป็นตัวเตือนที่ชัดเจนของผลที่ไม่ตั้งใจของวิกฤตการเงิน