Despite the fact that observational

Despite the fact that observational research is time consuming, labor intensive, and therefore has a high financial cost, direct observation of children with ADHD in their daily environment is recommended for a number of reasons (Antrop, Buysse, Roeyers, & Van Oost, 2005): (a) laboratory findings are seldom representative for the home and school contexts (Antrop, Roeyers, Van Oost, & Buysse, 2000; Danforth, Barkley, & Stokes, 1991; Tryon, 1993; Zentall & Zentall, 1976), (b) behavior is more variable when observed during children's daily activities (Tryon, Pinto, & Morrison, 1991), and (c) ADHD behavior is particularly expressed within a familiar environment rather than in situations that provoke novelty or fear (Teicher, Ito, Glod, & Barber, 1996; Zentall, 1975). Measuring and quantifying behavior can allow us to reliably estimate and compare across children and settings and to determine the extent to which other factors influence it (Kofler et al., 2008). However, the generalizability of systematic direct observations across time and setting has been thoroughly discussed. For example, Hintze and Matthews (2004) concluded in their study that adequate reliability could not be achieved with respect to on-task/off-task behavior after observing students twice a day (15 min using 60-s interval) over a course of two weeks. These authors make the following suggestions: (a) fewer observations of longer duration should produce more reliable estimations of behavior; (b) observing in more settings might capture a more accurate representation of behavior; and (c) on-task/off-task behavior might be a more complex construct
requiring definitions and coding intervals that can capture the nature of behavior in all its complexity. For this study, we therefore chose to (a) observe behavior during longer time periods (four time blocks covering a whole school day) across two consecutive days; (b) consider a wide variety of task-related conditions within the classroom; and (c) assess on-task/off-task behavior continuously, which allows analyses on a more microscopic level (i.e., the duration of each on-task interval). These observation methods are more thoroughly discussed below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทั้ง ๆ ที่วิจัยเชิงสังเกตการณ์เป็นเวลานาน แรงมาก และดังนั้นจึง มีต้นทุนทางการเงินสูง แนะนำการสังเกตโดยตรงของเด็กที่มีภาระผูกพันในสิ่งแวดล้อมประจำวันของพวกเขาสำหรับจำนวนของเหตุผล (Antrop, Buysse, Roeyers &อิดโอสท์แวน 2005): (a) ผลการวิจัยปฏิบัติเป็นบทบาทผู้แทนบ้านและบริบทของโรงเรียน (Antrop, Roeyers รถตู้อิดโอสท์ & Buysse 2000 Danforth, Barkley & สโตกส์ 1991 Tryon, 1993 Zentall & Zentall, 1976), (b) เป็นตัวแปรเพิ่มเติมเมื่อสังเกตในระหว่างกิจกรรมประจำวันของเด็ก (Tryon & Pinto มอร์ริสัน 1991), และแสดงลักษณะการทำงาน (ค) ภาระผูกพันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย มากกว่า ในสถานการณ์ที่กระตุ้นนวัตกรรมหรือความกลัว (Teicher อิโตะ Glod &ร้าน 1996 Zentall, 1975) วัด และ quantifying ลักษณะการทำงานสามารถช่วยให้เราได้ประเมิน และเปรียบเทียบระหว่างเด็กและการตั้งค่า และ การกำหนดขอบเขตซึ่งปัจจัยอื่น ๆ มีผลต่อมัน (Kofler et al., 2008) อย่างไรก็ตาม generalizability สังเกตระบบตรงข้ามเวลาและการตั้งค่าได้รับทำสนทนา ตัวอย่าง Hintze และแมธธิวส์ (2004) สรุปในการศึกษาว่า ความน่าเชื่อถือเพียงพออาจไม่ได้เกี่ยวกับลักษณะการทำงานบนงาน/ปิดงานหลังจากการสังเกตนักเรียนสองวัน (15 นาทีโดยใช้ช่วงเวลา 60 s) ผ่านหลักสูตร 2 สัปดาห์ ผู้เขียนเหล่านี้ทำให้คำแนะนำต่อไปนี้: (ก) สังเกตน้อยระยะเวลานานควรผลิตประเมินน่าเชื่อถือมากขึ้นของลักษณะการทำงาน (ข) การสังเกตในการตั้งค่าเพิ่มเติมอาจจับตัวแทนถูกต้องมากขึ้นของลักษณะการทำงาน และ (c) บนงาน/ปิดงานลักษณะการทำงานอาจเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อน
ต้องนิยาม และกำหนดช่วงเวลาที่สามารถจับลักษณะของพฤติกรรมในความซับซ้อนของ การ การศึกษา เราจึงเลือกที่จะ (ก) สังเกตพฤติกรรมในระหว่างรอบระยะเวลานาน (4 ช่วงเวลาครอบคลุมโรงเรียนทั้งวัน) ทั้งสองวันติดกัน (ข) พิจารณาความหลากหลายของเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับงานภายในห้องเรียน และ (c) ประเมินบนงาน/ปิดงานลักษณะการทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้วิเคราะห์ในระดับกล้องจุลทรรศน์มากขึ้น (เช่น ระยะเวลาของแต่ละช่วงในงาน) วิธีการเก็บข้อมูลเหล่านี้จะยิ่งอธิบายไว้ด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่า การวิจัยโดยการสังเกตนาน เวลา แรงงาน และดังนั้นจึง มีต้นทุนทางการเงินสูง การสังเกตโดยตรงของเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นในสภาพแวดล้อมของพวกเขาทุกวันแนะนำสำหรับจำนวนของเหตุผล ( antrop buysse roeyers & , , , รถตู้ oost , 2005 ) : ( ) ผลการวิจัยในห้องปฏิบัติการ มักเป็นตัวแทนของบ้านและ โรงเรียนบริบท ( antrop roeyers , รถตู้ , oost & buysse , ,2000 ; แดน Barkley , &สโต , 1991 ; ไทรยอน , 1993 ; zentall & zentall , 1976 ) , ( B ) คือ ตัวแปร ยิ่งเมื่อสังเกตพฤติกรรมในระหว่างกิจกรรมประจำวันของเด็ก ( ไทรอันโต & , มอร์ริสัน , 1991 ) และ ( c ) พฤติกรรม สมาธิสั้น เป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แสดงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย มากกว่า ใน สถานการณ์ ที่ยั่วแปลกหรือความกลัว ( teicher อิโตะ , โกลด์ , & , ร้านตัดผม , 1996 ; zentall , 1975 )การวัดค่าพฤติกรรมที่สามารถให้เราได้ประเมินและเปรียบเทียบในเด็กและการตั้งค่าและการกำหนดขอบเขต ซึ่งปัจจัยอื่นที่มีอิทธิพลต่อมัน ( kofler et al . , 2008 ) อย่างไรก็ตาม การสรุปอ้างอิงอย่างเป็นระบบโดยตรงสังเกตในเวลาและการตั้งค่าได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นและ hintze แมทธิวส์ ( 2004 ) ได้ข้อสรุปในการศึกษาที่น่าเชื่อถือเพียงพอ ไม่สามารถทำได้ด้วยการเคารพในงาน / ปิดพฤติกรรมงานหลังจากนักเรียนสังเกตสองวัน ( 15 นาทีโดยใช้ 60-s ช่วง ) มากกว่าหลักสูตรของสัปดาห์ที่สอง ผู้เขียนเหล่านี้ให้คำแนะนำต่อไปนี้ : ( 1 ) การสังเกตน้อยกว่าระยะเวลาควรผลิตที่เชื่อถือได้มากกว่าประมาณการของพฤติกรรม( ข ) การสังเกตในการตั้งค่าเพิ่มเติมอาจจับการเป็นตัวแทนที่ถูกต้องมากขึ้นของพฤติกรรม และ ( c ) ในงาน / ปิดพฤติกรรมงานอาจจะซับซ้อนมากขึ้นสร้าง
ต้องนิยามและการเข้ารหัสสามารถจับภาพช่วงเวลาที่ธรรมชาติของพฤติกรรมในความซับซ้อนของมัน ในการศึกษานี้ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะ ( ก ) สังเกตพฤติกรรมในระหว่างรอบระยะเวลาที่ยาวขึ้น ( สี่บล็อกเวลาที่ครอบคลุมทั่วทั้งโรงเรียนวันสองวันติดต่อกัน ) ( ข ) พิจารณาความหลากหลายของงานที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขภายในห้องเรียน และ ( ค ) ประเมินงาน / ปิดพฤติกรรมงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์ในระดับกล้องจุลทรรศน์เพิ่มเติม ( เช่น ในช่วงระยะเวลาของแต่ละงาน )วิธีการสังเกตเหล่านี้เพิ่มเติมอย่างละเอียดที่กล่าวถึงด้านล่าง