The royal palace lies in the center

The royal palace lies in the center of the town and covers an area of 160,000 square meters. This area is surrounded by a moat and contains two main compounds; the royal building and the sanctuary in the palace. In the royal compound exists the ruins of the royal building called Noen Phrasat.
Here, the famous stone inscription of King Ramkhamhaeng was found by King Mongkut (Rama IV) in the 19th century together with a piece of the stone throne called "Manangkhasila Asana" King Ramhamhaeng set up the throne in the midst of a sugar palm grove where, at his request, a monk preached on Buddhist Sabbath days and the King conducted the affairs of state on other days This throne was later installed in Bangkok's Temple of the Emerald Buddha. A sanctuary lying to the west behind the Royal Palace compound is Wat Mahathat. It is Sukhothai's largest temple with a customary main Chedi in lotus-bud shape and a ruined viharn. At the base of the Chedi stands Buddhist disciples in adoration, and on the pedestal are seated Buddha images. In front of this reliquary is a large viham formerly containing a remarkable seated bronze Buddha image of the Sukhothai style, which was cast and installed by King Lithai of Sukhothai in 1362. At the end of the 18th century, the image was removed to the Viham Luang of Wat Suthat in Bangkok by the order of King Rama I and has since been named Phra Si Sakaya Muni. In front of the large viharn is another smaller viham which was probably built during the Ayutthaya period. Its main Buddha image (8 meters high) was installed inside a separate building. In front of the southern image, a piece of sculpture called, "Khom Dam Din" (a Khmer who come by way of walking underground) was found, and is now kept in the Mae Ya Shrine near the Sukhothai City Hall. On the South stands a pedestal of a large Chedi built up in steps, the lowest platform is adorned with beautiful stucco figures of demons, elephants and lions with angles riding on their backs. Mural painting adorn this Chedi

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พระราชวังตั้งอยู่ในศูนย์กลางของเมือง และครอบคลุมพื้นที่ 160,000 ตารางเมตร พื้นที่นี้ล้อมรอบ ด้วยคูเมือง และประกอบด้วยสารประกอบหลักสอง อาคารรอยัลและแซงในวัง ตำหนักมีโบราณสถานเรียกว่าเนินปราสาทที่นี่ ท่องเที่ยวชื่อดังศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงถูกค้นพบ โดยสมเด็จพระจอมเกล้า (ราม) ในศตวรรษที่ 19 พร้อมกับชิ้นส่วนของบัลลังก์หินที่เรียกว่า "Manangkhasila Asana" คิงคศิลาตั้งบัลลังก์ชูการ์ปาล์มโกรฟที่ ขอพระองค์ พระประกาศในวันสะบาโตของพระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ดำเนินการกิจการของรัฐในวันอื่น ๆ บัลลังก์นี้ถูกติดตั้งในกรุงเทพฯ วัดพระแก้ว วัดมหาธาตุเป็นสถานที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกบริเวณพระราชวังหลังได้ เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของสุโขทัยกับจารีตประเพณีเป็นเจดีย์รูปทรงดอกบัวตูมองค์เจ๊ง ในการยืนเจดีย์ พุทธสาวก ในการนมัสการ และเชิงมีพระพุทธรูปนั่ง หน้าหีบวัตถุมงคลนี้เป็น viham ขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยความโดดเด่นที่นั่งเดิม ทองแดงพระพุทธรูปแบบสุโขทัย การหล่อ และติดตั้ง โดย Lithai พระมหากษัตริย์ของสุโขทัยใน 1362 เมื่อสิ้นสุดศตวรรษ 18 รูปถูกเอาออกหลวง Viham ของวัดสุในกรุงเทพลำดับพระรามผม และตั้งแต่ถูกตั้งชื่อพระศรีการ์เดนวิวหลัก หน้าองค์ใหญ่เป็นเล็ก viham อื่นซึ่งคงสร้างอยุธยา รูปภาพพระหลัก (8 เมตรสูงติดตั้งภายในอาคารที่แยกต่างหาก หน้าภาพใต้ ชิ้นส่วนประติมากรรมเรียกว่า "ขอมดำดิน" (เขมรที่ใช้เดินใต้ดิน) พบ และตอนนี้ได้เก็บไว้ในศาลเจ้ายาแม่ใกล้สุโขทัยศาลา บนยืนใต้เชิงของเจดีย์ใหญ่สร้างขึ้นในขั้นตอนต่อไป แพลตฟอร์มต่ำถูกจัดประดับ ด้วยภาพปูนปั้นที่สวยงามของปีศาจ ช้าง และสิงโตกับมุมที่ขี่บนหลังของพวกเขา วาดภาพจิตรกรรมฝาผนังประดับเจดีย์นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระราชวังตั้งอยู่ในใจกลางของเมืองและครอบคลุมพื้นที่ 160,000 ตารางเมตร บริเวณนี้เป็นที่ล้อมรอบด้วยคูน้ำและมีสารสองหลัก อาคารสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และพระราชในพระราชวัง ในบริเวณพระราชอยู่ในซากปรักหักพังของอาคารราชเรียกว่าเนิน Phrasat ได้.
นี่ศิลาจารึกที่มีชื่อเสียงของพ่อขุนรามคำแหงถูกพบโดยพระจอมเกล้า (พระราม) ในศตวรรษที่ 19 พร้อมกับชิ้นส่วนของบัลลังก์หินที่เรียกว่า "นังคศิลาอาสนะ" คิง Ramhamhaeng ตั้งค่าบัลลังก์ในท่ามกลางดงปาล์มน้ำตาลที่ตามคำร้องขอของเขาพระเทศน์ในวันสะบาโตที่นับถือศาสนาพุทธและพระมหากษัตริย์ดำเนินการกิจการของรัฐในวันอื่น ๆ บัลลังก์นี้ได้รับการติดตั้งในภายหลังในวัดของกรุงเทพฯพระศรีรัตนศาสดาราม . สถานที่ศักดิ์สิทธิ์โกหกไปทางทิศตะวันตกอยู่เบื้องหลังบริเวณพระบรมมหาราชวังเป็นวัดมหาธาตุ มันเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของสุโขทัยที่มีเจดีย์หลักจารีตประเพณีในรูปทรงดอกบัวตูมและวิหารเจ๊ง ที่ฐานของเจดีย์ยืนสาวกพุทธบูชาและแท่นนั่งพระพุทธรูป ในด้านหน้าของสถูปนี้เป็น viham ขนาดใหญ่เดิมมีสีบรอนซ์นั่งพระพุทธรูปที่โดดเด่นของสไตล์สุโขทัยซึ่งถูกโยนและติดตั้งโดยกษัตริย์ลิไทสุโขทัยใน 1362. ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18 ภาพจะถูกลบออกไป Viham หลวงวัดสุทัศน์ในกรุงเทพฯตามคำสั่งของรัชกาลที่ฉันและได้รับการตั้งชื่อพระศรี Sakaya มุนี ในด้านหน้าของวิหารขนาดใหญ่ที่มีขนาดเล็กอีก viham ซึ่งอาจถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ภาพหลักพระพุทธรูป (8 เมตรสูง) ได้รับการติดตั้งอยู่ภายในอาคารที่แยกต่างหาก ด้านหน้าของภาพใต้ชิ้นส่วนของประติมากรรมที่เรียกว่า "ขอมเขื่อนดิน" (เป็นภาษาเขมรที่เข้ามาโดยวิธีการเดินใต้ดิน) ถูกค้นพบและถูกเก็บไว้ในขณะนี้ในแม่ยะศาลเจ้าใกล้ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย บนแท่นยืนใต้ของเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในขั้นตอนแพลตฟอร์มต่ำสุดที่ประดับด้วยตัวเลขปูนปั้นที่สวยงามของปีศาจช้างและสิงโตที่มีมุมขี่บนหลังของพวกเขา จิตรกรรมฝาผนังประดับเจดีย์นี้