Pandora was a family owned company

Pandora was a family owned company started by Per & Winnie Enevoldsen in 1982 in Denmark. They manufacture affordable, fine jewelry and are currently the world’s third largest jewelry brand. Their products include jewelry (necklaces, bracelets, earrings, pendants) and watches. It wasn’t until 2003 that their business started booming. Their sales have significantly risen since then. In 2008 Axcel (an equity firm) acquired 60% of Pandora which also contributed to their growth. Currently they are one of the largest, if not the largest, manufacturers of fine jewelry. Their goal is to become a world class jewelry manufacturer in lean manufacturing & utilizing the pull system (making products based on market demand as opposed to push system - making products in large quantities). Their products can be compared to Swarovski (price up to 3,000 euros). Pandora has 5,300 employees world-wide, of which 3,600 are in Thailand. There are 4 designers based in Copenhagen and 7 in Thailand. About 6-70% of their clientele are women and over 40% are men.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แพนดอร่าเป็นครอบครัวเป็นเจ้าของ บริษัท ที่ตั้งขึ้นโดยต่อ& Winnie enevoldsen ในปี 1982 ในประเทศเดนมาร์ก พวกเขามีราคาไม่แพงผลิตเครื่องประดับที่ดีและมีอยู่ในปัจจุบันแบรนด์เครื่องประดับของโลกที่สามที่ใหญ่ที่สุด ผลิตภัณฑ์ของพวกเขารวมถึงเครื่องประดับ (สร้อยคอ, กำไล, ต่างหู, จี้) และนาฬิกา มันไม่ได้จนกว่า 2003 ที่ธุรกิจของพวกเขาเริ่มเฟื่องฟู ขายของพวกเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่นั้นมาในปี 2008 axcel (หุ้น บริษัท ) ได้รับ 60% ของแพนดอร่าซึ่งก็มีส่วนทำให้การเจริญเติบโตของพวกเขา ขณะนี้พวกเขาเป็นหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดถ้าไม่ผลิตรายใหญ่ที่สุดของเครื่องประดับดีเป้าหมายของพวกเขาจะกลายเป็นระดับโลกผู้ผลิตเครื่องประดับในการผลิตแบบลี&ใช้ระบบดึง (ทำให้ผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาดเมื่อเทียบกับที่จะผลักดันระบบ - การทำผลิตภัณฑ์ในปริมาณมาก) ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสามารถนำมาเปรียบเทียบกับ Swarovski (ราคาถึง 3,000 ยูโร) แพนดอร่ามี 5,300 พนักงานทั่วโลกซึ่งเป็น 3600 ในประเทศไทยมี 4 นักออกแบบในโคเปนเฮเกนและ 7 ในประเทศไทย เกี่ยวกับ 6-70% ของลูกค้าของพวกเขาเป็นผู้หญิงและกว่า 40% เป็นผู้ชาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แพนโดร่าถูกครอบครัวเจ้าของบริษัทเริ่มโดยต่อ&วินนี่ Enevoldsen ในปี 1982 ในประเทศเดนมาร์ก ผู้ผลิตเครื่องประดับราคาไม่แพง ดี และอยู่ในขณะนี้แบรนด์เครื่องประดับที่สามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตภัณฑ์รวมถึงนาฬิกาและเครื่องประดับ (สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู จี้) มันไม่ได้จนกว่า 2003 ที่ธุรกิจเริ่มเฟื่องฟู ขายของได้อย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้นตั้งแต่นั้น ในปี 2008 Axcel (บริษัทมีหุ้น) มา 60% ของแพนโดราที่เจริญเติบโตของส่วน ขณะนี้พวกเขาได้ที่ ถ้าไม่ในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุด ของประดับ เป้าหมายของพวกเขาคือการ เป็น ผู้ผลิตเครื่องประดับระดับโลกในการผลิตแบบ lean &ใช้ระบบดึง (ทำผลิตภัณฑ์ตามความต้องการตลาดจำกัดผลักดันระบบ - ทำให้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณมาก) ผลิตภัณฑ์ของตนสามารถเปรียบเทียบได้กับต่างหู (ราคาถึง 3000 ยูโร) แพนโดร่ามีมูลค่า 5300 พนักงานทั่วโลก ของ 3600 ซึ่งอยู่ในประเทศไทย มี 4 นักอยู่ที่โคเปนเฮเกนและ 7 ในประเทศไทย ประมาณ 6-70% ของลูกค้าของพวกเขาเป็นผู้หญิง และกว่า 40% เป็นผู้ชาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นางแพ็นโด - ระเป็นบริษัทเป็นเจ้าของโดยครอบครัวที่เริ่มต้นโดยต่อ& enevoldsen Winnie the Pooh ซึ่งในปี 1982 ในประเทศเดนมาร์ก พวกเขาได้ผลิตขึ้นและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติชั้นดีในราคาที่ไม่แพงและในขณะนี้มีแบรนด์เครื่องประดับที่สามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ผลิตภัณฑ์ ของตนรวมถึงอัญมณีและเครื่องประดับ(สร้อยคอสร้อยข้อมือแหวนตุ้มหู pendants )และนาฬิกา สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยจนปี 2003 ซึ่งทางธุรกิจของตนเริ่มเจริญรุ่งเรือง การขายของตนได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในปี 2008 axcel (บริษัทหุ้น)ได้รับ 60% ของนางแพ็นโด - ระซึ่งนอกจากนั้นยังมีส่วนร่วมในการขยายตัวของพวกเขา ในปัจจุบันเขาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดหากไม่ทำให้ผู้ผลิตของอัญมณีชั้นดีเป้าหมายของพวกเขาคือการเป็นผู้ผลิตและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติระดับโลกในการผลิตเอน&โดยใช้ระบบดึง(ทำให้สินค้าตามความต้องการของตลาดไม่เหมือนในการส่งสินค้า - ระบบทำให้ในปริมาณขนาดใหญ่) ผลิตภัณฑ์ ของตนสามารถนำไปเปรียบเทียบกับ Swarovski (ราคาสูงถึง 3 , 000 ยูโร) นางแพ็นโด - ระมี 5,300 พนักงานระดับ World - ความหลากหลายของซึ่ง 3,600 อยู่ในประเทศไทยมี 4 นักออกแบบของใช้ในโคเปนเฮเกนและ 7 ในประเทศไทย เกี่ยวกับ 6-70% ของลูกค้าทั้งหมดของเขาเป็นผู้หญิงและกว่า 40% เป็นคน