Discussion and ConclusionPrevious s

Discussion and Conclusion
Previous studies have convincingly shown the explanatory value of either autonomous motivation or academic self-concept regarding academic achievement. In this study, a person-oriented research perspective was used taking into account both autonomous motivation and academic self-concept, to provide first evidence of the presence of various motivational profiles among STEM students, their distribution across gender and specific student groups and to explore associations with early academic achievement.
In contrast with former research, explorative correlation analysis showed no significant association between academic self-concept and academic motivation for female students in our sample. Both motivational variables were measured during the first week of the academic year, in full transition from secondary school to the new environment of university. Since in secondary schools female students express a lower interest in STEM compared to male students [47], we can expect that the minority of females that eventually choose to study STEM in university are highly motivated. But in contrast to secondary school, where the gender composition of most classes is more or less balanced, it is possible that during the first weeks of the academic year and the first confrontations with large and predominantly male classes, their minority status becomes really apparent and affects their academic self-concept. Jackson et al. [34] reported that during transition from secondary school to university, self-concept of female students declines more than self-concept of male students and that female students are more susceptible to the Big-Fish-Little-Pond effect (BFLPE) [48]. This transition effect might become aggravated by the minority status of female students in STEM programs, and as a result, it might influence the association between motivation and self-concept.
In order to gain a more comprehensive picture of the possible synergy of both motivational variables in university STEM programs, we used a person-centered analysis approach.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อภิปรายและสรุปศึกษาก่อนหน้านี้เชื่อถือได้แสดงค่าอธิบายตนเองแรงจูงใจหรือ self-concept ทางวิชาการเกี่ยวกับความสำเร็จด้านการศึกษา ในการศึกษานี้ มุมมองบุคคลที่มุ่งเน้นการวิจัยที่ใช้คำนึงถึงแรงจูงใจตนเองและศึกษา self-concept มอบหลักฐานแรกของการปรากฏตัวของโพรไฟล์ต่าง ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจในหมู่นักเรียนลำต้น การแจกจ่ายทั่วทั้งเพศและกลุ่มเฉพาะ และ การสำรวจความสัมพันธ์ของกับความสำเร็จทางวิชาการช่วงสีวิจัย สมาคมไม่สำคัญระหว่าง self-concept ศึกษาและแรงจูงใจด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนหญิงแสดงให้เห็นการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ explorative ในตัวอย่างของเรา ตัวแปรทั้งสองสร้างแรงบันดาลใจที่วัดในช่วงสัปดาห์แรกของปีการศึกษา ในสภาพแวดล้อมใหม่ของมหาวิทยาลัยเต็มเปลี่ยนจากโรงเรียนมัธยมศึกษา ตั้งแต่ในโรงเรียนมัธยม นักเรียนหญิงด่วนดอกเบี้ยต่ำกว่าในลำต้นเมื่อเทียบกับนักศึกษาชาย [47], เราสามารถคาดหวังว่า ส่วนน้อยของหญิงที่เลือกศึกษาต้นกำเนิดมหาวิทยาลัยในที่สุดเป็นแรงจูงใจสูง แต่ตรงข้ามกับโรงเรียนมัธยม การที่องค์ประกอบเพศของชั้นเรียนส่วนใหญ่มีน้อยความสมดุล มันเป็นไปได้ว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของปีการศึกษาและการเผชิญหน้าครั้งแรก มีขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่เป็นเพศชาย สถานะของชนกลุ่มน้อยจริง ๆ เห็นได้ชัดเจน และมีผลต่อ self-concept ทางวิชาการของพวกเขา Jackson et al. [34] รายงานว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากโรงเรียนมัธยมไปมหาวิทยาลัย self-concept นักเรียนหญิงปฏิเสธมากกว่า self-concept ของนักศึกษาชาย และให้ นักเรียนหญิงมีผลขนาดใหญ่--น้อยบ่อปลา (BFLPE) [48] ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงนี้อาจกลายเป็นเลวลงสถานะส่วนน้อยของนักเรียนหญิงในโปรแกรมก้าน และเป็นผล มันอาจมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจและ self-conceptเพื่อให้ได้ภาพครอบคลุมมากขึ้นของพลังเป็นไปได้ของตัวแปรทั้งสองสร้างแรงบันดาลใจในมหาวิทยาลัยลำต้นโปรแกรม เราใช้วิธีการวิเคราะห์ที่คนเป็นศูนย์กลาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การอภิปรายและสรุป
การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นตะล่อมมูลค่าอธิบายทั้งแรงจูงใจตนเองวิชาการหรือแนวคิดตัวเองเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในการศึกษานี้มุมมองของการวิจัยคนที่มุ่งเน้นการถูกนำมาใช้โดยคำนึงถึงทั้งแรงจูงใจในกำกับของรัฐและสถาบันการศึกษาแนวความคิดตัวเองเพื่อให้มีหลักฐานแรกของการปรากฏตัวของโปรไฟล์สร้างแรงบันดาลใจต่างๆในหมู่นักเรียน STEM การกระจายของพวกเขาข้ามเพศและนักศึกษาเฉพาะกลุ่มและการสำรวจ สมาคมที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในช่วงต้น.
ในทางตรงกันข้ามกับการวิจัยในอดีตการวิเคราะห์ความสัมพันธ์สำรวจตรวจพบว่าไม่มีการเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างนักวิชาการแนวคิดตนเองและแรงจูงใจทางวิชาการสำหรับนักเรียนหญิงในตัวอย่างของเรา ทั้งสองตัวแปรที่สร้างแรงบันดาลใจถูกวัดในช่วงสัปดาห์แรกของปีการศึกษาในการเปลี่ยนแปลงเต็มรูปแบบจากโรงเรียนมัธยมกับสภาพแวดล้อมใหม่ของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ในโรงเรียนมัธยมศึกษานักเรียนหญิงแสดงดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าใน STEM เมื่อเทียบกับนักเรียนชาย [47] เราสามารถคาดหวังว่าชนกลุ่มน้อยของหญิงที่ในที่สุดก็เลือกที่จะศึกษา STEM ในมหาวิทยาลัยมีแรงจูงใจสูง แต่ในทางตรงกันข้ามกับโรงเรียนมัธยมที่องค์ประกอบเพศของชั้นเรียนมากที่สุดคือมากกว่าหรือสมดุลน้อยก็เป็นไปได้ว่าในช่วงสัปดาห์แรกของปีการศึกษาและการเผชิญหน้าครั้งแรกกับชั้นเรียนขนาดใหญ่และส่วนใหญ่เป็นเพศชายสถานะของชนกลุ่มน้อยของพวกเขากลายเป็นที่ชัดเจนจริงๆและ ส่งผลกระทบต่อแนวความคิดตัวเองของนักวิชาการ แจ็คสัน, et al [34] รายงานว่าในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากโรงเรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัยแนวคิดตนเองของนักเรียนหญิงลดลงมากกว่าตนเองแนวคิดของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงจะอ่อนแอมากขึ้นบิ๊กปลาเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อผล (BFLPE) [48 ] ผลการเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะกลายเป็น aggravated โดยสถานะของชนกลุ่มน้อยของนักเรียนหญิงในโปรแกรม STEM และผลที่ตามมาก็อาจมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจและแนวคิดตนเอง.
เพื่อที่จะได้ภาพที่ครอบคลุมมากขึ้นของการทำงานร่วมกันเป็นไปได้ของตัวแปรทั้งสร้างแรงบันดาลใจ ในโปรแกรม STEM มหาวิทยาลัยเราใช้คนเป็นศูนย์กลางวิธีการวิเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปรายและสรุปผล
การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นคุณค่าของความอธิบายในทางวิชาการเกี่ยวกับแรงจูงใจหรืออัตมโนทัศน์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในการศึกษานี้ เป็นคนที่มุมมองที่มุ่งเน้นการวิจัยที่ใช้ถ่ายลงในบัญชีทั้งในด้านวิชาการและอัตมโนทัศน์แรงจูงใจ เพื่อให้หลักฐานแรกของการแสดงตนของโปรไฟล์แรงจูงใจต่างๆของนักเรียน ลำต้นของพวกเขากระจายข้ามเพศและกลุ่มนักเรียนที่เฉพาะเจาะจงและเพื่อสำรวจความสัมพันธ์กับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน
ในทางตรงกันข้ามกับงานวิจัยในอดีต การวิเคราะห์สหสัมพันธ์สำรวจไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างอัตมโนทัศน์แรงจูงใจทางด้านวิชาการ และนักเรียนหญิง ในตัวอย่างของเรา ทั้งแรงจูงใจคือวัดในช่วงสัปดาห์แรกของปีการศึกษา ในการเปลี่ยนแปลงเต็มรูปแบบจากโรงเรียนมัธยมกับสภาพแวดล้อมใหม่ของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ในโรงเรียนมัธยมนักเรียนหญิงแสดงความสนใจในลำต้นที่ต่ำเมื่อเทียบกับนักศึกษาชาย [ 47 ] เราสามารถคาดหวังว่าส่วนน้อยของผู้หญิงที่ในที่สุดก็เลือกที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยมีต้นสูง แต่ในทางตรงกันข้ามกับโรงเรียนมัธยมที่เรียนส่วนใหญ่เป็นเพศผสม หรือสมดุลน้อย เป็นไปได้ว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของปีการศึกษา และการเผชิญหน้าครั้งแรกที่มีขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่ผู้เรียน สถานภาพชนกลุ่มน้อยของพวกเขากลายเป็นที่ชัดเจนจริงๆ และมีผลต่ออัตมโนทัศน์วิชาการของ แจ็คสัน et al . [ 34 ] รายงานว่า ในระหว่างการเปลี่ยนจากโรงเรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัย อัตมโนทัศน์ของนักเรียนหญิงลดลงกว่าอัตมโนทัศน์ของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงจะอ่อนไหวกับปลาใหญ่น้อยบ่อผล ( bflpe ) [ 48 ] นี้ผลอาจเป็น aggravated โดยการเปลี่ยนสถานะของชนกลุ่มน้อยในกลุ่มนักเรียนหญิง ในโปรแกรม ลำต้น และผล มันอาจจะมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจและอัตมโนทัศน์ .
เพื่อให้ได้ภาพที่ครอบคลุมมากขึ้นของผลที่เป็นไปได้ของตัวแปรทั้งสองโปรแกรมแรงจูงใจในก้านมหาวิทยาลัย เราใช้คนเป็นศูนย์กลางแนวทางการวิเคราะห์