The holidays are finally over and y

The holidays are finally over and your waistline is as overstretched as your credit card. It's time to take action! What should you do?

A) Hit the gym.

B) Make a solemn pledge to never ingest another sweet for as long as you live.

C) Hit the gym and make a solemn pledge to never ingest another sweet for as long as you live, or ...

D) Sit around on the couch eating chocolate bonbons while genuinely believing that you are getting a lot of rigorous exercise.

The answer to this multiple-choice quiz might not be as straightforward as you think. In fact, a recent study by Harvard psychologist Ellen Langer seems to challenge our basic assumptions about the relationship between the physical body and the mind — and perhaps even our assumptions about the nature of objective reality itself. It certainly challenges our assumptions about the limits of the placebo effect.

Langer is a researcher who has published several important and provocative studies. In this study, she decided to look at whether our perception of how much exercise we are getting has any effect on how our bodies actually look. To do this, she studied hotel maids.

As any casual observer of the hospitality industry knows, hotel maids spend the majority of their days lugging heavy equipment around endless hallways. Basically, almost every moment of their working lives is spent engaged in some kind of physical activity.

But Langer found that most of these women don't see themselves as physically active. She did a survey and found that 67 percent reported they didn't exercise. More than one-third of those reported they didn't get any exercise at all.

"Given that they are exercising all day long," Langer says, "that seemed to be bizarre."

Perceptions Matter

What was even more bizarre, she says, was that, despite the fact all of the women in her study far exceeded the U.S. surgeon general's recommendation for daily exercise, the bodies of the women did not seem to benefit from their activity.

Langer and her team measured the maids' body fat, waist-to-hip ratio, blood pressure, weight and body mass index. They found that all of these indicators matched the maids' perceived amount of exercise, rather than their actual amount of exercise.

So Langer set about changing perceptions.

She divided 84 maids into two groups. With one group, researchers carefully went through each of the tasks they did each day, explaining how many calories those tasks burned. They were informed that the activity already met the surgeon general's definition of an active lifestyle.

The other group was given no information at all.

One month later, Langer and her team returned to take physical measurements of the women and were surprised by what they found. In the group that had been educated, there was a decrease in their systolic blood pressure, weight, and waist-to-hip ratio — and a 10 percent drop in blood pressure.

One possible explanation is that the process of learning about the amount of exercise they were already getting somehow changed the maids' behavior. But Langer says that her team surveyed both the women and their managers and found no indication that the maids had altered their routines in any way. She believes that the change can be explained only by the change in the women's mindset.

Essentially, what Langer is talking about is a placebo effect. She says that if you believe you are exercising, your body may respond as if it is. It's the same as if you believe you are getting medication when you are actually getting a sugar pill — your body can sometimes respond as if a placebo is actually working.

The implication is that the "objective reality" of the physical body is not as immovable as we might have assumed. Hence, the theoretical possibility that, if done with genuine conviction, one might be able to sit around eating chocolate and still lose weight.

Placebo Effect Limited?

But Martin Binks, director of behavioral health at the Duke Diet and Fitness Center in North Carolina, is skeptical of Langer's conclusion, even though he is impressed with the physical changes in the maids.

"There's a very high likelihood that [the maids] behaved differently after they received that information," he says, "and they were being more active and eating more healthfully. And that resulted in their improvements in health."

But Binks has a more substantive criticism. He does not believe that placebos are capable of producing the kind of objective change in the physical body that Langer is claiming.

"Generally what placebos work on is subjective types of findings," he says.

In other words, a placebo can help change something like your perception of pain or perhaps your sense of whether you feel depressed, but it can't do something objective like shrink a tumor or cut three pounds off your waistline.

Or can it?

Howard Brody has spent years looking at this issue. He says that a number of relatively new studies challenge the old assumption that the placebo effect alters only subjective perception. He is the director of the Institute for the Medical Humanities at the University of Texas Medical Branch and the author of the book, The Placebo Response.

For example, Brody notes one study where researchers gave asthmatic patients a drug that actually makes asthma worse. When they gave the drug to the patients, they told them that it relieves asthma.

"A significant number of those patients said that my asthma got better when you gave me the drug," Brody says, "and they measured better when you measured the lung findings.

"So the idea that the placebo effect applies only to subjective things is really one that we have to dismiss."

So maybe it really might be possible to sit on the couch eating chocolates and lose weight. I, for one, am certainly willing to sacrifice and give it the old college try.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีวันหยุดจนกว่าและเอวของคุณเป็น overstretched เป็นบัตรเครดิต เป็นเวลาที่จะดำเนินการ อะไรควรจะทำ?

A) ตี gym.

B) ทำให้ปรัชญาบุดการ ingest หวานอื่นสำหรับตราบเท่าที่คุณอาศัยอยู่ไม่

C) ตียิมและปรัชญาบุดการ ingest หวานอีกนานเท่าที่คุณไม่เคยสด หรือ...

D) นั่งรอบ ๆ บนโซฟากินช็อกโกแลต bonbons ขณะจริงใจเชื่อว่า คุณจะได้รับมากของการออกกำลังกายอย่างเข้มงวดได้

คำตอบแบบทดสอบ multiple-choice นี้อาจไม่ตรง ตามที่คุณคิด อันที่จริง การศึกษาล่าสุด โดยฮาร์วาร์ดจิตวิทยา Langer เอลเลนดูเหมือนจะ ท้าทายสมมติฐานพื้นฐานของเราเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายทางกายภาพและจิตใจ – และบางทีก็ของสมมติฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของความเป็นจริงวัตถุประสงค์เอง แน่นอนท้าทายสมมติฐานของเราเกี่ยวกับขีดจำกัดของผลยาหลอก

Langer เป็นนักวิจัยที่ได้เผยแพร่หลายสำคัญ และกระตุ้นการศึกษา ในการศึกษานี้ เธอตัดสินใจดูว่าเรารู้ของจำนวนแบบฝึกหัดที่เราได้รับมีผลใด ๆ ในร่างกายของเรามอง การทำเช่นนี้ เธอศึกษาแม่บ้านโรงแรม.

เท่าที่รู้มีนักการสบาย ๆ ของอุตสาหกรรม แม่บ้านโรงแรมใช้เวลาส่วนใหญ่ของ lugging สมมุติสถาน hallways สิ้นสุดวันของพวกเขา พื้น เกือบทุกช่วงเวลาของชีวิตการทำงานที่ใช้ในบางชนิดของกิจกรรมทางกายภาพ

Langer แต่พบว่า ส่วนใหญ่ของผู้หญิงเหล่านี้มองไม่เห็นตัวเองเป็นจริงใช้งาน เธอได้สำรวจ และพบว่า ร้อยละ 67 รายงานไม่ได้ออกกำลังกาย กว่าหนึ่งในสามของผู้รายงานจะไม่ได้รับการออกกำลังกายใด ๆ เลย

"รับว่า พวกเขาจะออกกำลังกายตลอดทั้งวัน Langer กล่าวว่า "ที่ดูเหมือนจะแปลกประหลาด "

เรื่องเข้าใจ

มีอะไรแปลกประหลาดมาก เธอบอก เป็นที่ แม้ทั้งหมดของสตรีในการศึกษาของเธอไกลเกินของทั่วไปแพทย์สหรัฐอเมริกาแนะนำการออกกำลังกายประจำวัน ร่างกายของผู้หญิงไม่ได้ดูเหมือนว่าไม่ได้ประโยชน์จากกิจกรรมของพวกเขา

Langer และทีมงานวัดไขมันในร่างกายของแม่บ้าน อัตราส่วนเอวต่อสะโพก ดัชนีมวลร่างกาย น้ำหนัก และความดันโลหิต พวกเขาพบว่า ตัวบ่งชี้เหล่านี้ทั้งหมดตรงกับยอดเงินที่รับรู้ของแม่บ้านออกกำลังกาย แทนของจำนวนจริงของการออกกำลังกาย

Langer เพื่อตั้งค่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์คอร์รัปชัน

เธอแบ่งแม่บ้าน 84 กลุ่มหนึ่ง นักวิจัยอย่างรอบคอบได้งานที่พวกเขาได้แต่ละวัน อธิบายว่า กี่แคลอรี่งานเหล่านั้นเขียน พวกเขาได้ทราบว่า กิจกรรมตามคำจำกัดความของศัลยแพทย์ทั่วไปของการใช้ชีวิตแล้ว

กลุ่มอื่น ๆ ได้รับข้อมูลที่ทั้งหมด

เดือนหนึ่งต่อมา Langer และทีมของเธอกลับไปใช้การวัดทางกายภาพของผู้หญิง และประหลาดใจ โดยสิ่งที่พวกเขาพบ ในกลุ่มที่มีการศึกษา มีการลดลงในความดันโลหิต systolic น้ำหนัก และอัตราส่วนเอวต่อสะโพก — และ 10 เปอร์เซ็นต์ลดลงความดันโลหิต

หนึ่งสามารถอธิบายได้ว่า กระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับจำนวนของการออกกำลังกายจะได้รับอย่างใดเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแม่บ้าน แต่ Langer บอกว่า ทีมของเธอสำรวจทั้งผู้หญิงและผู้จัดการของพวกเขา และพบข้อบ่งชี้ไม่ว่า แม่บ้านที่ได้เปลี่ยนแปลงคำสั่งของพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง เธอเชื่อว่า สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลง โดยการเปลี่ยน mindset ของผู้หญิงเท่านั้น

อะไร Langer พูดถึงอะไรเป็นหลัก ผลยาหลอก เธอกล่าวว่า ถ้าคุณเชื่อว่า คุณจะออกกำลังกาย ร่างกายของคุณอาจตอบว่า เป็น มันจะเหมือนกับว่าคุณเชื่อว่า คุณจะได้รับยาเมื่อคุณได้รับยาน้ำตาลจริง — ร่างกายบางครั้งสามารถตอบว่า ยาหลอกการทำงานจริงได้

เนื่องจากเป็น "วัตถุประสงค์"ความจริงตัวจริงไม่ใช่เป็นทั่วไปที่เราอาจสันนิษฐาน ดังนั้น เป็นไปได้ทางทฤษฎีว่า ถ้าทำ ด้วยใจแท้ หนึ่งอาจสามารถนั่งรอบกินช็อคโกแลต และยังสูญเสียน้ำหนัก

ยาหลอกผล จำกัด?

แต่มาร์ติน Binks กรรมการสุขภาพพฤติกรรมที่ดยุอาหารและออกกำลังกายในนอร์ทแคโรไลนา เป็นแคลงใจของบทสรุปของ Langer แม้ว่าเขาจะประทับใจกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในแม่บ้านการ

"มีความเป็นไปได้สูงมากว่า [แม่บ้าน] ทำงานแตกต่างกันหลังจากได้รับข้อมูล, " เขากล่าวว่า "และพวกเขาได้ถูกใช้งานมากขึ้น และรับประทานอาหารมากขึ้น healthfully และที่ทำให้เกิดการปรับปรุงสุขภาพ"

แต่ Binks วิจารณ์มากขึ้นแน่นขึ้น เขาไม่เชื่อว่า placebos มีความสามารถในการผลิตชนิดของวัตถุประสงค์การเปลี่ยนแปลงในร่างกายทางกายภาพที่ว่า Langer ได้

"โดยทั่วไปว่า placebos ทำงานเป็นชนิดตามอัตวิสัยของการค้นพบ เขากล่าวว่า ได้

ในคำอื่น ๆ ยาหลอกสามารถช่วยการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างเช่นการรับรู้ความเจ็บปวด หรือบางทีความรู้สึกของคุณว่าคุณรู้สึกหดหู่เศร้า แต่ไม่สามารถทำสิ่งที่ประสงค์เช่นหดเป็นเนื้องอก หรือตัดสามปอนด์ออกจากเอวของคุณ

หรือสามารถ?

โบรดี Howard ได้ใช้ปีที่มองปัญหานี้ เขาบอกว่า จำนวนของการศึกษาที่ค่อนข้างใหม่ท้าทายสมมติฐานเดิมว่า ผลประการเปลี่ยนแปลงรับรู้ตามอัตวิสัยเท่านั้น เขาเป็นผู้อำนวยการสถาบันมนุษยศาสตร์แพทย์ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสสาขาทางการแพทย์และผู้เขียนของหนังสือ ประการตอบสนอง

ตัวอย่าง โบรดีบันทึกศึกษาหนึ่งที่นักวิจัยให้ผู้ป่วยหอบหืดเป็นยาที่จะ ทำให้โรคหอบหืดแย่ลง เมื่อพวกเขาให้ยาผู้ป่วย พวกเขาบอกว่า ให้ รักษาอาการหอบหืด

โบรดีกล่าวว่า "จำนวนผู้ป่วยที่สำคัญกล่าวว่า ฉันโรคหอบหืดได้ดีขึ้นเมื่อคุณให้ฉันยา , " มาที่วัดดีกว่าเมื่อคุณประเมินพบปอด

"จึงคิดว่า ผลของยาหลอกใช้สิ่งเฉพาะไปตามอัตวิสัยจริง ๆ ที่เราต้องการยกเลิก"

ดังนั้นบางทีจริง ๆ อาจจะนั่งบนโซฟากินช็อคโกแลต และลดน้ำหนักได้ ฉัน หนึ่ง ฉันเต็มใจเสียสละ และให้ลองวิทยาลัยเก่าแน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันหยุดสุดท้ายและรอบเอวของคุณเป็น overstretched และบัตรเครดิตของคุณ มันถึงเวลาที่จะดำเนินการ ! สิ่งที่คุณควรทำ

) ตีที่โรงยิม

b ) ทำขึงขังว่าจะไม่กินอีก หวานสำหรับตราบเท่าที่คุณอาศัยอยู่

c ) ตีที่โรงยิม และให้สัญญาขึงขังไม่กินหวานอีกตราบเท่าที่คุณอาศัยอยู่ หรือ . . . . . . .

d ) นั่งบนโซฟาที่กินช็อกโกแลต bonbons ในขณะที่อย่างแท้จริงเชื่อว่าคุณจะได้รับมากมายของการออกกำลังกายอย่างเข้มงวด

คำตอบของคำถามนี้ตอบอาจจะไม่ซับซ้อนอย่างที่คุณคิด ในความเป็นจริงผลการศึกษาล่าสุดจากนักจิตวิทยาเอลเลนแลงเกอร์ดูจะท้าทายสมมติฐานพื้นฐานของเราเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ -- และบางทีแม้แต่สมมติฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของวัตถุประสงค์จริงนั่นเอง แน่นอนความท้าทายสมมติฐานเกี่ยวกับขอบเขตของยาหลอก

แลงเกอร์ เป็นนักวิจัยที่เผยแพร่การศึกษาที่สำคัญและเร้าใจหลาย ในการศึกษานี้ เธอตัดสินใจที่จะดูว่า การรับรู้ของเราเท่าใดออกกำลังกายเราได้รับผลกระทบใด ๆเกี่ยวกับวิธีการที่ร่างกายของเราจริง ๆ ดู ทำแบบนี้ เธอศึกษาโรงแรมแม่บ้าน

เป็นผู้สังเกตการณ์สบาย ๆของอุตสาหกรรมการบริการ รู้โรงแรมแม่บ้านใช้จ่ายส่วนใหญ่ของวันของพวกเขาแบกอุปกรณ์หนักๆที่สิ้นสุดทางเดิน โดยทั่วไป เกือบทุกช่วงเวลาของชีวิตการทำงานของตนเองใช้ธุระในบางชนิดของกิจกรรมทางกาย ด้วย

แต่พบว่าส่วนใหญ่ของผู้หญิงเหล่านี้ไม่เห็นตัวเองทางร่างกายที่ใช้งานอยู่ เธอได้ทำการสำรวจและพบว่าร้อยละ 67 รายงานว่าพวกเขา ไม่ได้ออกกำลังกายมากกว่าหนึ่งในสามของผู้ที่รายงานว่าพวกเขาไม่ได้ใช้เลย

" ระบุว่าพวกเขาจะออกกำลังกายทั้งวัน " แลงเกอร์กล่าวว่า " ที่ดูเหมือนจะแปลกประหลาด "



สิ่งที่เคยรับรู้เรื่องที่แปลกประหลาด เธอกล่าวว่า แม้จะมีข้อเท็จจริงทั้งหมดของผู้หญิง ในการศึกษาของเธอเกินควรออกกำลังกายทุกวัน ศัลยแพทย์ทั่วไปของสหรัฐอเมริกา ,ร่างของผู้หญิงที่ไม่ได้ดูเหมือนจะได้รับประโยชน์จากกิจกรรมของพวกเขา .

แลงเกอร์ทีมของเธอวัดแม่บ้านร่างอ้วน เอวต่อสะโพก , ความดันโลหิต , น้ำหนักและดัชนีมวลกาย พวกเขาพบว่า ทุกตัวชี้วัดเหล่านี้จับคู่แม่บ้านรับรู้ปริมาณของการออกกำลังกาย มากกว่าจำนวนเงินที่แท้จริงของพวกเขาในการออกกำลังกาย ด้วย

ดังนั้นชุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการรับรู้

เธอแบ่ง 84 คนแบ่งเป็นสองกลุ่ม กับหนึ่งในกลุ่มนักวิจัยอย่างระมัดระวังผ่านแต่ละของงานที่พวกเขาทำในแต่ละวัน , อธิบายวิธีการหลายแคลอรี่ที่งานเผา พวกเขาทราบว่ากิจกรรมที่ได้พบกับศัลยแพทย์ทั่วไปนิยามของชีวิตที่ใช้งานอยู่

อีกกลุ่มได้รับไม่มีข้อมูลเลย

อีกหนึ่งเดือนต่อมาแลงเกอร์และทีมงานของเธอกลับไปใช้ขนาดทางกายภาพของผู้หญิงและต้องประหลาดใจโดยสิ่งที่พวกเขาพบ ในกลุ่มที่ได้รับการศึกษา มีการลดลงของความดันโลหิต , น้ำหนัก , และเอว - สะโพกอัตราส่วนและร้อยละ 10 ลดลงในความดันโลหิต .

คำอธิบายหนึ่งที่เป็นไปได้คือ กระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับปริมาณของการออกกำลังกายพวกเขาได้รับอย่างใด เปลี่ยนพฤติกรรมของแม่บ้าน แต่ แลงเกอร์กล่าวว่า ทีมสำรวจ ทั้งผู้หญิง และผู้จัดการของพวกเขาและพบว่าไม่มีเครื่องบ่งชี้ว่าแม่บ้านมีการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรของพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง เธอเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงสามารถอธิบายได้โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในความคิดของผู้หญิง

เป็นหลัก , สิ่งที่แลงเกอร์พูดถึงคือผลของยาหลอก . เธอกล่าวว่าถ้าคุณเชื่อว่าคุณกำลังออกกำลังกาย ร่างกายของคุณจะตอบสนองเช่นถ้ามันเป็น มันก็เหมือนกับถ้าคุณเชื่อว่าคุณจะได้รับยาเมื่อคุณเป็นจริงได้รับน้ำตาลเม็ด - ร่างกายของคุณบางครั้งสามารถตอบสนองว่ายาหลอกจะทำงานจริงๆ

ความหมายคือ " มีจริง " ของร่างกายไม่เสถียร เช่น เราอาจจะคิดไปเอง ดังนั้น ทฤษฎี เป็นไปได้ว่า ถ้าทำของแท้ ลงโทษ หนึ่งอาจจะนั่งกินช็อกโกแลตและยังคงลดน้ำหนัก

ยาหลอกผลจำกัด

แต่มาร์ติน บิงส์ ผู้อำนวยการของพฤติกรรมสุขภาพที่ดยุคแห่งอาหารและฟิตเนสในนอร์ทแคโรไลนาเป็นที่กังขาของแลงเกอร์เป็นข้อสรุป แม้ว่าเขาจะประทับใจกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในแม่บ้าน

" มีความเป็นไปได้สูงมากที่ [ สาว ] ทำตัวแตกต่างหลังจากที่พวกเขาได้รับข้อมูลว่า " เขากล่าว " และพวกเขาถูกใช้งานมากขึ้นและกิน มากขึ้น healthfully . และผลในการปรับปรุงสุขภาพของพวกเขาใน "

แต่บิงส์ได้เพิ่มเติมเนื้อหาสาระการวิจารณ์เขาไม่เชื่อว่า placebos สามารถผลิตชนิดของการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่เรียกร้องด้วย

" โดยทั่วไปแล้ว placebos ทำงานเป็นประเภทอัตนัยของผล , " เขากล่าว .

ในคำอื่น ๆที่เป็นยาหลอกสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงบางอย่างเช่นการรับรู้ความเจ็บปวด หรือบางที ความรู้สึกของ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกหดหู่แต่มันไม่สามารถทำอะไรวัตถุประสงค์เหมือนหดเนื้องอกหรือตัดสามปอนด์ปิดรอบเอวของคุณ .

หรือสามารถมัน

โฮเวิร์ดโบรดี้ได้ใช้เวลาหลายปีมองปัญหานี้ เขากล่าวว่าจำนวนของความท้าทายที่ค่อนข้างใหม่ศึกษาเก่าอัสสัมชัญที่ได้รับยาหลอกจะเปลี่ยนแปลงเพียงอัตวิสัย การรับรู้เขาเป็นผู้อำนวยการของสถาบันมนุษยศาสตร์การแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสสาขาแพทย์และผู้เขียนหนังสือ ซึ่งการตอบสนอง

เช่น โบรดี้บันทึกการศึกษาหนึ่งที่นักวิจัยให้ผู้ป่วยโรคหอบหืด ยานั่นทำให้หืดแย่ลง เมื่อพวกเขาให้ยาแก่ผู้ป่วย พวกเขาบอกพวกเขาว่ามันบรรเทาโรคหอบหืด .

" จํานวนผู้ป่วยบอกว่าหอบดีขึ้นเมื่อคุณให้ยา " โบรดี้กล่าวว่า " และพวกเขาวัดดีกว่าเมื่อคุณวัดปอดพบ

" ดังนั้นความคิดที่ได้รับยาหลอกที่ใช้เฉพาะกลุ่ม เป็นเรื่องหนึ่งที่เราต้องยกเลิก "

ดังนั้น บางทีมันอาจเป็นไปได้ที่จะนั่งบนที่นอนที่กินช็อคโกแลตและสูญเสียน้ำหนัก ฉัน , หนึ่ง ,ฉันก็เต็มใจที่จะเสียสละและให้มันลอง โรงเรียนเก่า