Eyewitness testimony is often relie

Eyewitness testimony is often relied upon in the judicial system. However, the accuracy of eyewitness memories is sometimes questioned because there are many factors that can act during encoding and retrieval of the witnessed event which may adversely affect the creation and maintenance of the memory for the event. Experts have found evidence to suggest that eyewitness memory is volatile.[1] It has long been speculated that mistaken eyewitness identification plays a major role in the wrongful conviction of innocent individuals. A growing body of research now supports this speculation, indicating that mistaken eyewitness identification is responsible for more convictions of the innocent than all other factors combined.[2][3][4] The Innocence Project determined that 75% of the 239 DNA exoneration cases had occurred due to inaccurate eyewitness testimony. It is important to inform the public about the flawed nature of eyewitness memory and the difficulties relating to its use in the criminal justice system so that eyewitness accounts are not viewed as the absolute truth

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พยานผู้เห็นเหตุการณ์มักจะพึ่งพาในระบบการพิจารณาคดี แต่ความถูกต้องของความทรงจำของพยานถามเพราะบางครั้งมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถทำหน้าที่ในระหว่างการเข้ารหัสและการดึงของเหตุการณ์เป็นพยานซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการสร้างและการบำรุงรักษาของหน่วยความจำสำหรับเหตุการณ์ ผู้เชี่ยวชาญได้พบหลักฐานที่บ่งพยานหน่วยความจำที่เป็นสารระเหย[1] มันได้รับการสันนิษฐานว่าการระบุพยานเข้าใจผิดว่ามีบทบาทสำคัญในความเชื่อมั่นโดยมิชอบของบุคคลผู้บริสุทธิ์ ร่างกายเจริญเติบโตของการวิจัยนี้สนับสนุนความคิดนี้แสดงให้เห็นว่าการระบุพยานเข้าใจผิดว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริสุทธิ์มากขึ้นกว่าปัจจัยอื่น ๆ ทั้งหมดรวมกัน[2] [3] [4] โครงการความไร้เดียงสาระบุว่า 75% ของ 239 กรณี dna นิรโทษกรรมที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากคำเบิกความพยานไม่ถูกต้อง มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแจ้งให้ประชาชนเกี่ยวกับธรรมชาติที่สมบูรณ์ของหน่วยความจำสักขีพยานและความยากลำบากที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในระบบยุติธรรมทางอาญาเพื่อให้บัญชีพยานจะไม่ได้มองว่าเป็นความจริงแน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พยานผู้เห็นเหตุการณ์มักจะอาศัยตามในระบบยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ความถูกต้องของผู้เห็นเหตุการณ์ความทรงจำถูกสอบสวนบางครั้งเนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถทำหน้าที่เข้ารหัสและเรียกเหตุการณ์ witnessed ซึ่งอาจกระทบต่อผลการสร้างและบำรุงรักษาหน่วยความจำสำหรับเหตุการณ์ ผู้เชี่ยวชาญได้พบหลักฐานแนะนำว่าผู้เห็นเหตุการณ์จำระเหย[1] มันมีนานแล้วคาดว่า รหัสผู้เห็นเหตุการณ์เข้าใจผิดว่ามีบทบาทสำคัญในคดีคดีบุคคลผู้บริสุทธิ์ ร่างกายเจริญเติบโตของงานวิจัยนี้สนับสนุนนี้เก็งกำไร บ่งชี้ว่า รหัสผู้เห็นเหตุการณ์ผิดรับผิดชอบการเรียนของผู้บริสุทธิ์กว่าปัจจัยอื่น ๆ รวม[2][3][4] โครงการบริสุทธิ์ระบุว่า 75% ของกรณี exoneration DNA 239 ได้เกิดพยานผู้เห็นเหตุการณ์ไม่ถูกต้อง จะต้องแจ้งต่อสาธารณชนเกี่ยวกับธรรมชาติ flawed จำผู้เห็นเหตุการณ์และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ในระบบยุติธรรมทางอาญาเพื่อให้บัญชีผู้เห็นเหตุการณ์ที่ดูไม่เป็นความจริงที่สมบูรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การให้ปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ามีความไว้วางไว้วางใจในระบบยุติธรรมที่บ่อยครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามความถูกต้องของความทรงจำได้ว่าตั้งคำถามเนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่สามารถกระทำในระหว่างการกู้คืนและการเข้ารหัสของเหตุการณ์เป็นประจักษ์พยานซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการบำรุงรักษาและการสร้างของหน่วยความจำที่สำหรับกรณีที่บางครั้ง ผู้เชี่ยวชาญได้พบหลักฐานการขอแนะนำให้หน่วยความจำว่าเป็นความผันผวน[ 1 ]ได้รับส่วนใหญ่คาดว่าการระบุตัวตนเข้าใจผิดคิดว่าพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ามีบทบาทสำคัญในความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายโดยมิชอบความผิดมานาน การขยายตัวของการวิจัยนี้สนับสนุนการเก็งกำไรนี้ซึ่งระบุว่าการระบุตัวตนว่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับความคิดความเชื่อมากกว่าที่ไร้ความผิดมากกว่าปัจจัยอื่นๆทั้งหมดรวมกัน[ 2 ]:[ 3 ],[ 4 ]ไม่มีความผิดโครงการที่กำหนดไว้ที่ 75% ของคดีงดเว้นกระทำอันดีเอ็นเอ 239 ได้เกิดขึ้นเนื่องจากการให้การเป็นพยานว่าไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแจ้งให้ประชาชนที่เกี่ยวกับธรรมชาติช่องโหว่ของหน่วยความจำประจักษ์พยานและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่ทำให้บัญชีพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าไม่ได้มองว่าเป็นความจริงที่ไม่ว่าในกรณีใดๆ