ขณะที่บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานับเดือนหก แต่ทางล้านนาและบางท้องถิ่นที่อยู่ตอนบนของภูมิภาคจนถึงทางใต้ของจีน นับเป็นเดือนแปด จึงนับเร็วกว่ากันราว ๒ เดือน ตามลักษณะแตกต่างทางภูมิศาสตร์ประเพณีชาว บ้านช่วงเวลานี้ สืบเนื่องจากเดือนก่อน (คือ เดือนห้า) เป็นช่วงเวลาหลังฤดูการเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร แล้วเริ่มเข้าฤดูการผลิตใหม่ เพราะฝนเริ่มตกแล้ว ถึงเวลาต้องเตรียมเครื่องมือทำไร่ไถนา ที่สำคัญก็คือต้องทำพิธีแรกนา หรือ นาแรก ทางอีสานเรียก นาตาแฮก ในทวาทศมาส (โคลงดั้น) เอกสารยุคต้นกรุงศรีอยุธยา พรรณนาฤดูเดือนหก (ไพศาขย) เริ่มมีฝนตกแล้วว่า “ฤดูไพศาลขยสร้อง ฝนสวรรค์” ต่อจากนี้ไปจะมีพิธีแรกนาขวัญทั่วไปในชนบทหมู่บ้าน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวนาชาวไร่มีโคลงดั้นบอกว่า “แขไขบ่าวไถนาถถั่น มานา”
พิธีแรกนาขวัญที่ท้องสนามหลวง เมื่อ พ.ศ. 2547แรกนาขวัญในชนบทหมู่บ้านทุกแห่งจะมีธงปักและผูกคันไถปลิวไปตามลมทุกหนทุกแห่ง ทวาทศมาส (โคลงดั้น) พรรณนาดังนี้
จนถึงปลายกรุงศรีอยธยาก็ยังมีพรรณนาแรกนาขวัญไว้ในนิราศธารโศกของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ (กุ้ง) พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัล ณ ท้องสนามหลวง มองผ่านพระศรีรัตนเจดีย์และพระมณฑปภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดเสนาสนารามราชวรวิหาร จ. พระนครศรีอยุธยา เขียนในสมัยรัชกาลที่ 5)