Major Obstetric Hemorrhage & Improv

Major Obstetric Hemorrhage & Improving Hospital Systems:
Attention to improving the hospital systems necessary for the care of women at risk for major obstetric hemorrhage is important in the effort to decrease maternal mortality from hemorrhage. Nationwide, major obstetric hemorrhage and the need for cesarean hysterectomy have increased in recent years. In the setting of intractable obstetric hemorrhage, emergency peripartum hysterectomy is used as a life-saving procedure. Maternal death is a known complication of major obstetric hemorrhage. The creation of a patient safety team that works to improve the hospital systems for caring for women at risk for major obstetric hemorrhage can help to identify and manage these situations and save lives. Development of clinical pathways, guidelines and protocols designed to provide early diagnosis of patients at risk for major obstetric hemorrhage and for streamlined care in emergency situations are essential. A multidisciplinary patient safety team that includes individuals from the Division of Obstetric Anesthesiology, Maternal Fetal Medicine, Neonatology, and the Blood Bank as well as Departments of Nursing, Communication, and Administration and quarterly mock drills of rapid response team, helps to respond to these situations effectively (10).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตกเลือด Obstetric วิชา&ปรับปรุงโรงพยาบาลระบบ:
สนใจจะปรับปรุงโรงพยาบาลระบบจำเป็นสำหรับการดูแลผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการตกเลือดสูติศาสตร์หลักเป็นสำคัญในการพยายามที่จะลดการตายแม่จากการตกเลือด ทั่วประเทศ ตกเลือดสูติศาสตร์ที่สำคัญและจำเป็นต้อง cesarean มดลูกมีเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ในการตั้งค่าของการตกเลือดสูติศาสตร์ intractable มดลูก peripartum ฉุกเฉินถูกใช้เป็นขั้นตอนการช่วยชีวิต แม่ตายเป็นอาการแทรกซ้อนของการตกเลือดสูติศาสตร์สำคัญรู้จัก การสร้างทีมงานเพื่อความปลอดภัยผู้ป่วยที่ทำงานเพื่อปรับปรุงระบบโรงพยาบาลดูแลสตรีที่เสี่ยงต่อการตกเลือดสูติศาสตร์ที่สำคัญ สามารถช่วยในการระบุ และจัดการสถานการณ์เหล่านี้ และบันทึกชีวิต พัฒนาคลินิกมนต์ คำแนะนำและโปรโตคอลออกแบบมาเพื่อให้การวินิจฉัยช่วงของผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงตกเลือดสูติศาสตร์ที่สำคัญ และสำหรับความคล่องตัวดูแลในกรณีฉุกเฉินจำเป็น ทีมความปลอดภัยผู้ป่วย multidisciplinary ที่ประกอบด้วยบุคคลจากฝ่ายสูติศาสตร์มหาวิทยาลัย แพทย์เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ Neonatology และธนาคารเลือดแผนกของพยาบาล สื่อ สาร และบริหาร และรายไตรมาสจำลองการฝึกซ้อมของทีมอย่างรวดเร็ว ช่วยเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (10) .

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่สำคัญสูติตกเลือดและการปรับปรุงระบบโรงพยาบาล
ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบโรงพยาบาลที่จำเป็นสำหรับการดูแลของผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการตกเลือดทางสูติกรรมที่สำคัญเป็นสิ่งที่สำคัญในความพยายามที่จะลดการตายของมารดาจากการตกเลือด ทั่วประเทศตกเลือดทางสูติกรรมที่สำคัญและความจำเป็นในการผ่าตัดคลอดมดลูกได้เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ในการตั้งค่าของการตกเลือดทางสูติกรรมยาก, Peripartum ฉุกเฉินมดลูกจะใช้เป็นขั้นตอนการช่วยชีวิต การตายของมารดาเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รู้จักกันดีของการตกเลือดทางสูติกรรมที่สำคัญ การสร้างทีมงานด้านความปลอดภัยของผู้ป่วยที่ทำงานเพื่อปรับปรุงระบบโรงพยาบาลเพื่อการดูแลสำหรับผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสำหรับการตกเลือดทางสูติกรรมที่สำคัญสามารถช่วยในการระบุและจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้และช่วยชีวิต การพัฒนาทางคลินิกทางเดินแนวทางและโปรโตคอลที่ออกแบบมาเพื่อให้การวินิจฉัยของผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการตกเลือดทางสูติกรรมที่สำคัญสำหรับการดูแลและคล่องตัวในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความจำเป็น สาขาวิชาทีมปลอดภัยของผู้ป่วยที่มีบุคคลจากกองสูติวิสัญญีวิทยามารดาของทารกในครรภ์แพทยศาสตร์ Neonatology และธนาคารเลือดเช่นเดียวกับหน่วยงานของพยาบาล, การสื่อสารและการบริหารจัดการและการฝึกซ้อมจำลองไตรมาสของทีมตอบสนองอย่างรวดเร็วจะช่วยให้การตอบสนองต่อเหล่านี้ สถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (10)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สาขาสูติตกเลือด&การปรับปรุงระบบโรงพยาบาล :
ให้ความสนใจกับการปรับปรุงระบบที่จำเป็นสำหรับการดูแลของโรงพยาบาลหญิงสาขาสูติศาสตร์ความเสี่ยงเลือดออกที่สำคัญในความพยายามที่จะลดการตายของมารดาจากการตกเลือด ทั่วประเทศ สาขาสูติศาสตร์ เลือดออกในสมองและต้องผ่าตัดคลอดมดลูกได้เพิ่มขึ้นในปีล่าสุดในการตั้งค่าของแก่นแก้วสูติตกเลือดมดลูก peripartum ฉุกเฉินใช้เป็นในขั้นตอน การตายของมารดา เป็นที่รู้จักของสาขาสูติศาสตร์ภาวะตกเลือด การสร้างความปลอดภัยของผู้ป่วยทีมที่ทำงานเพื่อปรับปรุงระบบโรงพยาบาลเพื่อดูแลผู้หญิงที่เสี่ยงต่อสาขาสูติตกเลือดสามารถช่วยในการระบุและจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้และช่วยชีวิตการพัฒนาทางคลินิก แนวทางและโปรโตคอลที่ออกแบบมาเพื่อให้การวินิจฉัยของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อการตกเลือดและสาขาสูติศาสตร์การคล่องตัวในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น โดยความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นทีมที่ประกอบด้วยบุคคลจากแผนกวิสัญญีวิทยาการคลอดมารดาทารกในครรภ์แพทยศาสตร์ , ทารกแรกเกิดและธนาคารโลหิต ตลอดจนหน่วยงานของทางการสื่อสารและการบริหารและการฝึกซ้อมของทีมซึ่งจำลองการตอบสนองอย่างรวดเร็วช่วยในการตอบสนองต่อสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ( 10 ) .