Geology, fauna and flora[edit]The G

Geology, fauna and flora[edit]
The Gap is formed from Sydney sandstone making it part of Sydney basin. The cliff was laid as sediment more than 200 million years ago in the Triassic period. During the Jurassic era, 40 million years later, a cataclysmic event resulted in an enormous crack forming within the strata. This fault allowed erosion from wave action to create the cliff line around Sydney. Tessellated basalt rock platforms lie at the base of the cliff because The Gap is bordered to the south and west by an older sequence of largely low-grade metamorphic and granitic rocks of the Lachlan Fold Belt. Northwards these rocks pass into the Hunter Region sequence that is transitional between the Sydney Basin and New England Fold Belt. The Gap itself forms a sequence that continues offshore to the edge of the Sahul Shelf. The total maximum thickness of rock formations within the Sydney Basin are in depth ranges of 5,000 metres (16,000 ft).

The rock is a very porous stone. It is composed of very pure silica grains and a small amount of the iron mineral siderite in varying proportions, bound with a clay matrix. The Gap's warm yellow-brown colour is due to oxidation of the stone.[8]

Skinks and eastern water dragons can often be seen moving among the rocks. Seabirds, such as the silver gull and the Pacific gull use the cliff for nesting sites.[9] The sandstone cliff has created nutrient-poor soils similar to those found around Sydney.[10] As nutrients are scarce, plants which survive on The Gap cannot afford to lose leaves to herbivores so they defend their foliage with toxins. Vegetation includes the eucalypts which produces such toxins.[8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธรณีวิทยา สัตว์ และพืช [แก้ไข]ช่องว่างจะเกิดขึ้นจากหินทรายซิดนีย์ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของอ่างซิดนีย์ หน้าผาถูกวางเป็นตะกอนมากกว่า 200 ล้านปีที่ผ่านมาในช่วงยุคไทรแอสซิก ในช่วงยุคจูราสสิ 40 ล้านปี เหตุการณ์ cataclysmic ผลในรอยแตกมีขนาดใหญ่ขึ้นภายในชั้น ข้อบกพร่องนี้ได้กัดเซาะจากคลื่นการดำเนินการเพื่อสร้างบรรทัดคลิฟทั่วซิดนีย์ Tessellated หินบะซอลต์หินแพลตฟอร์มอยู่ที่หน้าผาเนื่องจากช่องว่างล้อมรอบใต้และตะวันตกตามลำดับความเก่าหิน metamorphic และ granitic พละส่วนใหญ่ของ Lachlan พับดาว Northwards หินเหล่านี้ผ่านเข้ามาในลำดับภูมิภาคฮันเตอร์ที่เป็นอีกรายการระหว่างซิดนีย์อ่างและในแถบนิวอิงแลนด์พับ ช่องว่างของตัวเองแบบลำดับที่บริเวณชายฝั่งยังขอบของชั้นวางสินค้า Sahul มีความหนาสูงสุดรวมของหินภายในอ่างซิดนีย์ในช่วงความลึก 5000 เมตร (16000 ฟุต)หินมีหินมาก porous ประกอบด้วยธัญพืชเนื้อซิลิก้าและจำนวน siderite แร่เหล็กในสัดส่วนต่าง ๆ ผูกกับเมทริกซ์ดินเล็กน้อย สีเหลืองสีน้ำตาลอบอุ่นของช่องว่างเนื่องจากการเกิดออกซิเดชันของหินได้ [8]Skinks และมังกรน้ำตะวันออกมักจะสามารถดูได้ย้ายหมู่หิน Seabirds, gull เงินและ gull แปซิฟิกใช้หน้าผาสำหรับวิวสามารถไซต์ [9] หน้าผาหินทรายได้สร้างคนจนธาตุอาหารดินเนื้อปูนคล้ายกับที่พบรอบ ๆ ซิดนีย์ [10] เป็นสารอาหารที่ขาดแคลน พืชที่อยู่รอดในช่องว่างไม่สามารถจะสูญเสียออกไป herbivores เพื่อจะปกป้องของใบ ด้วยสารพิษ พืชประกอบด้วย eucalypts ซึ่งสร้างสารพิษดังกล่าว [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ธรณีวิทยาสัตว์และพืช [แก้ไข]
ช่องว่างที่เกิดขึ้นจากหินทรายซิดนีย์ทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของลุ่มน้ำซิดนีย์ หน้าผาถูกวางเป็นตะกอนมากกว่า 200 ล้านปีที่ผ่านมาในช่วงเวลา Triassic ช่วงยุคจูราสสิ, 40 ล้านปีต่อมาเหตุการณ์กลียุคผลในการสร้างมหาศาลแตกภายในชั้น ความผิดนี้การกัดเซาะได้รับอนุญาตจากการกระทำของคลื่นเพื่อสร้างบรรทัดหน้าผารอบซิดนีย์ หินบะซอล tessellated แพลตฟอร์มร็อคอยู่ที่ฐานของหน้าผาเพราะช่องว่างเป็นชายแดนทางทิศใต้และทิศตะวันตกโดยลำดับเก่าส่วนใหญ่หินแปรเกรดต่ำและหินแกรนิตของ Lachlan พับเข็มขัด เหนือหินเหล่านี้ผ่านเข้าไปในลำดับภาคฮันเตอร์ที่มีการเปลี่ยนผ่านระหว่างซิดนีย์ลุ่มน้ำและนิวอิงแลนด์พับเข็มขัด ช่องว่างของตัวเองในรูปแบบลำดับที่ยังคงในต่างประเทศไปที่ขอบของ Sahul ชั้นวางของ ความหนาสูงสุดรวมของหินที่อยู่ในซิดนีย์ลุ่มน้ำอยู่ในช่วงความลึก 5,000 เมตรของ (16,000 ฟุต). หินเป็นหินที่มีรูพรุนมาก มันประกอบด้วยธัญพืชซิลิกาบริสุทธิ์มากและเป็นจำนวนเงินที่เล็ก ๆ ของแร่ siderite เหล็กในสัดส่วนที่แตกต่างกันผูกพันกับเมทริกซ์ดิน สีเหลืองน้ำตาลอบอุ่นของช่องว่างเกิดจากการเกิดออกซิเดชันของหิน. [8] skinks และมังกรน้ำภาคตะวันออกมักจะสามารถมองเห็นการเคลื่อนย้ายในหมู่หิน นกทะเลเช่นนกนางนวลเงินและนางนวลแปซิฟิกใช้หน้าผาสำหรับรังเว็บไซต์. [9] หน้าผาหินทรายได้สร้างดินสารอาหารที่ไม่ดีคล้ายกับที่พบทั่วซิดนีย์. [10] ในฐานะที่เป็นสารอาหารที่ขาดแคลนพืชที่อยู่รอดบน ช่องว่างที่ไม่สามารถจะสูญเสียใบพืชเพื่อให้พวกเขาปกป้องใบของพวกเขาด้วยสารพิษ รวมถึงพันธุ์ไม้ต้นยูคาที่ผลิตสารพิษดังกล่าว. [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ธรณีวิทยา พืชและพืช [ แก้ไข ]
ช่องว่างที่เกิดขึ้นจากซิดนีย์หินทรายทำส่วนหนึ่งของซิดนีย์ ลุ่มน้ำ หน้าผาถูกฝังเป็นตะกอนมากกว่า 200 ล้านปีก่อนในช่วง Triassic . ช่วงยุคจูราสสิก 40 ล้านปีต่อมา เหตุการณ์กลียุคส่งผลมหาศาลทุบขึ้นรูปภายในชั้น ความผิดนี้ได้รับอนุญาตการกัดเซาะจากคลื่นการสร้างหน้าผาเส้นรอบซิดนีย์tessellated basalt หินแพลตฟอร์มโกหกที่ฐานของหน้าผา เพราะช่องว่างล้อมรอบทางทิศใต้ และทิศตะวันตก โดยมีลำดับเก่า และหินแกรนิต หินแปรส่วนใหญ่ของ Lachlan พับเข็มขัด ไปทางเหนือหินเหล่านี้ผ่านเข้าไปในเขตฮันเตอร์ลำดับที่เดียวระหว่างซิดนีย์ อ่าง และ เข็มขัดใหม่อังกฤษพับช่องว่างที่ตัวเองเป็นลำดับต่อไป ต่างประเทศเพื่อขอบของชั้น sahul . โดยความหนาสูงสุดของการก่อตัวของหินภายในแอ่งซิดนีย์ในช่วงความลึก 5 เมตร ( 16 ฟุต ) .

หินเป็นหินรูพรุนสูง มันประกอบด้วยซิลิกาบริสุทธิ์ธัญพืชและจำนวนเล็ก ๆของเหล็กแร่ซิเดอไรต์ที่ได้สัดส่วน ผูกพันกับดินเมทริกซ์ของแก๊ปอบอุ่นสีเหลืองสีน้ำตาลเนื่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของหิน [ 8 ]

จิ้งเหลนและตะวันออกน้ำมังกรมักจะสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของหิน นกทะเล เช่น โกงเงินและแปซิฟิกนกนางนวลใช้หน้าผารังเว็บไซต์ [ 9 ] หน้าผาหินทรายได้สร้างสารอาหารจนดินที่คล้ายคลึงกับที่พบได้ทั่วซิดนีย์ [ 10 ] รังเป็นบางพืชซึ่งอยู่ในช่องว่างที่ไม่สามารถจะสูญเสียใบพืชเพื่อให้พวกเขาปกป้องใบไม้ด้วยสารพิษ พืชประกอบด้วยอาหารที่ผลิตสารพิษดังกล่าว . [ 8 ]