Mark Zuckerberg (founder and CEO, F

Mark Zuckerberg (founder and CEO, Facebook): I was in my sophomore year at Harvard. It was 2003, which is the year that historians call The Dunce’s Millennium because the world was dark chaos. Everyone was running around with all of their secrets locked up in their brains. Nobody knew anybody’s favorite movies. Nobody knew what anybody else looked like in a bathing suit. I wanted to change that.
Eduardo Saverin (co-founder, Facebook): Mark and I were roommates at Harvard. He was a computer guy, and I was a money guy. I had 40 dollars.

Mark Zuckerberg: I knew that if I wanted to create the open and connected world of my dreams, I had to make a real impact, and the way to do that was to do what I did best: start a website that everyone wanted to look at and that would make people say, “Here’s the website.” This became my life’s goal. I had the computer skills, but I needed 40 dollars to make it happen. I called 911 and said, “This is Mark Zuckerberg. Who has 40 dollars?” and the police said, “Eduardo Saverin has 40 dollars.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาร์กซักเคอร์เบิร์ก (ผู้ก่อตั้ง และ CEO, Facebook): ผมในปี sophomore ของฉันที่ฮาร์วาร์ด มันเป็น 2003 ซึ่งเป็นปีที่นักประวัติศาสตร์เรียก Dunce เดอะมิลเลนเนียมเนื่องจากโลก มืด chaos ทุกคนทำงานรอบกับความลับของพวกเขาล็อคขึ้นในสมองของพวกเขา ไม่มีใครรู้ว่าภาพยนตร์ที่ชื่นชอบของใคร ไม่มีใครรู้ว่าใครอื่นเหมือนในชุดว่ายน้ำ อยากจะเปลี่ยนEduardo Saverin (ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook): ทำเครื่องหมายและฉันมีคนที่ฮาร์วาร์ด เขาคือผู้ชายคอมพิวเตอร์ และผมผู้ชายเงิน ผม 40 ดอลลาร์มาร์กซักเคอร์เบิร์ก: ผมรู้ถ้าอยากจะสร้างการเชื่อมต่อ และเปิดโลกของความฝันของฉัน ผมจะทำให้ผลกระทบที่แท้จริง และวิธีที่ถูกต้องสิ่งที่ฉันได้ส่วน: เริ่มเว็บไซต์ที่ทุกคนอยากดู และจะทำให้คนที่พูดว่า "ที่นี่คือเว็บไซต์" นี้กลายเป็นเป้าหมายของชีวิต มีทักษะด้านคอมพิวเตอร์ แต่ฉันต้องการ 40 ดอลลาร์ จะทำให้เกิด ฉันเรียก 911 และกล่าว ว่า "นี้คือมาร์กซักเคอร์เบิร์ก ใครมี 40 ดอลลาร์ "และตำรวจกล่าวว่า "Eduardo Saverin มี 40 ดอลลาร์"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Mark Zuckerberg (ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Facebook): ผมอยู่ในปีที่สองของฉันที่ฮาร์วาร์ มันเป็นปี 2003 ซึ่งเป็นปีที่นักประวัติศาสตร์เรียกมิลเลนเนียมคนโง่เพราะโลกเป็นความวุ่นวายที่มืด ทุกคนต่างก็วิ่งไปรอบ ๆ ที่มีทั้งหมดของลับของพวกเขาขังไว้ในสมองของพวกเขา ไม่มีใครรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องโปรดของใคร ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่คนอื่นมองเหมือนในชุดว่ายน้ำ ผมอยากที่จะเปลี่ยนที่.
Eduardo Saverin (ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook): มาร์คและฉันเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ Harvard เขาเป็นคนที่แต่งตัวประหลาดคอมพิวเตอร์และผมเป็นคนที่แต่งตัวประหลาดเงิน ผมมี 40 ดอลลาร์. Mark Zuckerberg: ผมรู้ว่าถ้าผมต้องการที่จะสร้างโลกที่เปิดกว้างและเชื่อมต่อของความฝันของฉันฉันมีที่จะทำให้ผลกระทบที่แท้จริงและวิธีการที่จะทำคือการทำในสิ่งที่ผมทำดีที่สุด: เริ่มต้นเว็บไซต์ ที่ทุกคนอยากที่จะมองและที่จะทำให้คนพูดว่า "นี่คือเว็บไซต์." นี้กลายเป็นเป้าหมายในชีวิตของฉัน ผมมีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ แต่ผมจำเป็นต้องมี 40 ดอลลาร์เพื่อทำให้มันเกิดขึ้น ผมเรียกว่า 911 และกล่าวว่า "นี่เป็น Mark Zuckerberg ที่มี 40 ดอลล่า? "และตำรวจกล่าวว่า" Eduardo Saverin 40 ดอลลาร์. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

( มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Facebook ) : ผมอยู่ปีนักเรียนปีที่สองของฉันที่ฮาร์วาร์ด มันคือปี 2003 ซึ่งเป็นปีที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่าเป็นคนโง่สหัสวรรษเพราะโลกมืดสับสน ทุกคนวิ่งรอบกับความลับทั้งหมดของพวกเขาถูกขังอยู่ในสมองของพวกเขา ใครรู้จักหนังที่ชื่นชอบของทุกคน ไม่มีใครรู้ว่าใครเหมือนในชุดว่ายน้ำผมต้องการจะเปลี่ยนที่ .
ดูอาร์โด เซเวอริน ( ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook ) : มาร์ค และ ฉันเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ฮาร์วาร์ด เขาเป็นคนคอมพิวเตอร์และผมเงินคนนั้น ฉันมี 40 เหรียญ

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก : ฉันรู้ว่าถ้าผมต้องการที่จะสร้างเปิดและเชื่อมต่อโลกแห่งความฝันของฉัน ฉันต้องทำให้ผลกระทบที่แท้จริง และวิธีการที่จะทำคือการทำสิ่งที่ฉันทำที่ดีที่สุด :เริ่มต้นเว็บไซต์ที่ทุกคนอยากดู และนั่นจะทำให้ผู้คนพูดว่า " นี่คือเว็บไซต์ . " นี้เป็นเป้าหมายของชีวิต ฉันมีทักษะคอมพิวเตอร์ แต่ผมต้องการ 40 ดอลลาร์ ที่จะทำให้มันเกิดขึ้น ฉันโทรเรียก 911 และพูดว่า " นี่คือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ใครมี 40 เหรียญ " ตำรวจกล่าวว่า " ดูอาร์โด เซเวอริน ได้ 40 ดอลลาร์ "