In the present study, the impact of

In the present study, the impact of conventional or ohmic heat processing on the
amino acid profile was investigated in vegetable baby foods. Results revealed that
neither of the two processes affected the total protein content however, differences were
observed in the amino acids profile after treatment. Retorted baby foods contained
around 20% less total amino acids than in unsterilized samples (35% essential amino
acids and 9% non-essential amino acids). On the contrary, ohmic heating did not
decrease total amino acids in the baby puree, maintaining the same content of essential and non-essential amino acids as in unsterilized samples. These findings were likewise
observed in the protein quality of the different samples. In conclusion, ohmic heating
promotes less nutrient loss than the conventional method in vegetable baby purees
maintaining the amino acids profile and therefore the protein quality of the sample
before sterilization. Therefore, ohmic treatment may be successfully used as an
alternative method to ensure microbiological and nutritional quality of infant foods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาปัจจุบัน ผลกระทบของความร้อนธรรมดา หรือแบบความต้านทานในการประมวลผลการ กรดอะมิโนถูกสอบสวนในอาหารผักของเด็ก เปิดเผยผลที่ ของกระบวนการสองผลกระทบโปรตีนรวมเนื้อหาอย่างไรก็ตาม ความแตกต่างได้ สังเกตในค่ากรดอะมิโนหลังการรักษา อาหารที่โต้ว่าทารกอยู่ ประมาณ 20% ไม่รวมกรดอะมิโนกว่าในอีกต่อตัวอย่าง (จำ 35% กรดอะมิโน กรดและ 9% ไม่จำเป็นกรดอะมิโน) การ์ตูน เครื่องทำความร้อนแบบความต้านทานไม่ได้ ลดกรดอะมิโนทั้งหมดในการลูกบดเข้มข้น รักษากรดอะมิโนจำเป็น และไม่จำเป็นเช่นในตัวอย่างอีกต่อเนื้อหาเดียวกัน ผลการวิจัยเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน ตรวจสอบคุณภาพโปรตีนของตัวอย่างแตกต่างกัน ในการสรุป เครื่องทำความร้อนแบบความต้านทาน ส่งเสริมการสูญเสียธาตุอาหารน้อยกว่าวิธีทั่วไปในผักเด็กจาก รักษาโพรไฟล์กรดอะมิโน และคุณภาพโปรตีนของตัวอย่าง ก่อนการทำหมัน ดังนั้น แบบความต้านทานการรักษาอาจนำมาใช้เป็นการ วิธีการสำรองคุณภาพทางจุลชีววิทยา และทางโภชนาการของอาหารทารก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการศึกษาผลกระทบของการประมวลผลความร้อนธรรมดาหรือโอห์มมิกในการที่
รายละเอียดกรดอะมิโนที่ถูกสอบสวนในอาหารทารกผัก ผลการศึกษาพบว่า
ทั้งสองกระบวนการได้รับผลกระทบปริมาณโปรตีนรวมอย่างไรก็ตามความแตกต่าง
ที่สังเกตในรายละเอียดกรดอะมิโนหลังการรักษา โต้อาหารทารกที่มีอยู่
ประมาณ 20% น้อยกว่ากรดอะมิโนรวมกว่าในตัวอย่าง unsterilized (อะมิโนจำเป็น 35%
กรดและกรดอะมิโน 9% ไม่จำเป็น) ในทางตรงกันข้ามความร้อน ohmic ไม่
ลดกรดอะมิโนรวมในน้ำซุปข้นทารกรักษาเนื้อหาเดียวกันของกรดอะมิโนที่จำเป็นและไม่จำเป็นในขณะที่ตัวอย่าง unsterilized การค้นพบนี้ได้รับเช่นเดียวกัน
พบในโปรตีนที่มีคุณภาพของกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกัน ในการสรุปความร้อน ohmic
ส่งเสริมการสูญเสียสารอาหารน้อยกว่าวิธีการทั่วไปในผัก purees ทารก
ที่ยังคงรักษาโปรไฟล์กรดอะมิโนและดังนั้นจึงมีคุณภาพโปรตีนของกลุ่มตัวอย่าง
ก่อนที่จะฆ่าเชื้อ ดังนั้นการรักษา ohmic อาจจะใช้ประสบความสำเร็จในฐานะที่เป็น
วิธีทางเลือกเพื่อให้มีคุณภาพทางจุลชีววิทยาและทางโภชนาการของอาหารทารก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการศึกษาผลกระทบของค่าปกติหรือการประมวลผลความร้อนบนรายละเอียดของกรดอะมิโนพบว่าในเด็กผักอาหาร ผลการศึกษาพบว่าทั้งสองกระบวนการที่มีผลต่อปริมาณโปรตีนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างคือกรดอะมิโนที่พบในไฟล์หลังจากการรักษา โต้อาหารทารก ประกอบด้วยประมาณ 20 % รวมน้อยกว่ากรดอะมิโนกว่าในตัวอย่างโดยไม่ได้ฆ่าเชื้อ ( 35% กรดอะมิโนที่จำเป็นกรดและ 9 % ไม่มีกรดอะมิโน ) ในทางตรงกันข้ามค่าความร้อนไม่ได้ลดรวมกรดอะมิโนในซุปข้นทารก , การรักษาเนื้อหาเดิมของที่จำเป็นและกรดอะมิโน ที่จำเป็น เช่น ในตัวอย่างไม่โดยไม่ได้ฆ่าเชื้อ . การค้นพบนี้ได้เช่นเดียวกันพบในโปรตีนคุณภาพของตัวอย่างที่แตกต่างกัน สรุป ค่าความร้อนส่งเสริมการสูญเสียธาตุอาหารน้อยกว่าวิธีปกติในทารก purees ผักการรักษากรดอะมิโนและโปรตีนคุณภาพโปรไฟล์ของกลุ่มตัวอย่างก่อนการฆ่าเชื้อ ดังนั้น ค่ารักษาอาจใช้ประสบความสำเร็จเป็นวิธีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพทางโภชนาการของอาหารทารก