9เคล็ดวิชาของ ตัน โออิชิ จากประสบการณ์
1. เลือกธุรกิจ อนาคต
คำถามที่เขามักถามตัวเองก่อนริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ว่า “นี่มันเป็นธุรกิจแฟชั่นหรือธุรกิจอนาคต?”
ตันชอบทำธุรกิจอนาคต เขาไม่ชอบธุรกิจที่วูบวาบตามกระแสแฟชั่น แต่สำหรับคำตอบ ใช่ว่าจะนั่งคิดนั่งตอบเอาเอง ตันใช้วิธีการหาข้อมูลจากความเป็นจริงทุกครั้ง ตันคิดใหญ่ เขาจึงเลือกธุรกิจอนาคตและนักธุรกิจที่ดีจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมองธุรกิจของตัวเองให้ทะลุ
แม้ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านการทำธุรกิจหลากหลายชนิด ตันไม่ได้เขียนแผนธุรกิจตามแบบฉบับที่หลักสูตรบริหารธุรกิจเรียนกัน
แต่เขามีความคิด มีแผนในหัวที่ต้องมองให้ทะลุ ทั้งการเลือกทำเล การผลิต การตลาด โดยไม่ได้เขียนออกมาอย่างคนที่เรียนมาหรอก
จากประสบการณ์ของตัน เขาเคยเห็นบางคนมัวแต่วางแผน แล้วทุกอย่างก็อยู่ในกระดาษ แต่ไม่ได้ทำจริงสักที
2. ทำเลที่ดีเหมือนมีชีวิต
ประสบการณ์เมื่อตอนที่ตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานขายสินค้าไปเช่าที่หน้าตึกแถวในสถานีขนส่งของจังหวัดชลบุรี เพื่อไปเปิดแผงขายหนังสือและนิตยสาร ทำเลแบบนั้นคือ “ทำเลเป็น” รถโดยสารจะเข้ามารับและส่งผู้โดยสารตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ามืดต่อเนื่องจนถึงหลังเที่ยงคืน บริเวณใกล้เคียงยังมีห้องอาหารและสถนบริการอาบอบนวด จึงมีผู้คนหมุนเวียนมิได้ขาด ผิดกับสภาพทำเลแบบร้านที่อยู่ใต้ตึกห้องเช่าซึ่งมีคนพักอาศัยจำนวนเท่าเดิมตายตัว ซึ่งก็คือ “ทำเลตาย” จากการมองเห็นทำเลทอง และเข้าไปติดต่อของเช่าในราคาเพียงเดือนละพันบาท ผลก็คือ แค่ 6 เดือน จากเคยเป็นผู้เช่า ตันก็ยกระดับซื้อตึกที่เช่าอยู่ได้ทั้งตึก
3. ใฝ่รู้ ทุ่มเท อดทน
ตันย้ำเสมอว่าเขาโชคดีที่ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย นั่นจึงทำให้เขามีในสิ่งที่คนรวยไม่สามารถมีเท่าเขาได้ คือความอดทนต่อการทำงานหนัก แต่อดทนอย่างเดียวไม่พอ ตันเชื่อว่าต้องอดทนอย่างใฝ่รู้ด้วย และการหาความรู้ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่รู้จักถามผู้รู้
เพราะทุกครั้งที่เราถาม เราจะได้กำไร ฉะนั้น หากใครมีโอกาสพบคนอย่างตันก็จงถาม เพราะ ณ วันนี้ ตันคงมีเรื่องราวให้เรียนรู้มากมายและเมื่อถามถึงปรัชญาที่ตันใช้ในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คืออะไร?
" เขาตอบว่า คิดดี ลงมือทำ ทำแล้วทำต่อเนื่อง เจออุปสรรคไม่ทิ้ง ได้ดีแล้วอย่าลืม ตัว "
4. สร้างความประทับใจลูกค้า
ตันรู้จักการทำ CRM ตั้งแต่ยังไม่เคยได้ยินคำนี้ด้วยซ้ำ แม้จะไม่ได้เรียนถึงขึ้น MBA แต่ตันก็ตระหนักดีว่าสิ่งนี้ คือสิ่งที่จะนำพาเขาไปสู่ความสำเร็จ การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ Customer Relationship Management คือหัวใจในการทำธุรกิจประการหนึ่ง
นับตั้งแต่การลงหลักปักฐาน ธุรกิจแรกในชีวิตด้วยการเช่าที่ทำแผงหนังสือ ตันก็ชนะใจลูกค้าของเขา ประสบการณ์จากการเป็นเซลล์ทำให้เขาเรียนรู้ว่าต้องจำคนให้เก่งและที่สำคัญคือต้องจำให้ได้ว่าลูกค้ามีพฤติกรรมการซื้ออย่างไร? ทั้งๆที่แผงหนังสือของเขาไม่ใช่แผงเดียวในย่านนั้น ทว่ายอดขายของร้านเขากลับชนะแผงคู่แข่งอย่างถล่มทลาย เพราะแค่ลูกล้าเดินมายังไม่ถึงร้านของเขา เขาก็เตรียมหนังสือที่ลูกค้าต้องการใส่ถุงเตรียมเงินทอนไว้เรียบร้อย
เขาจำได้ดีว่าใครชอบอ่านหนังสือเล่มไหน นอกจากนั้นเขามักจะเป็นคนที่หอบหนังสือพิมพ์ขึ้นไปขายบนรถทัวร์ โดยสังเกตตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วว่าใครยังไม่ได้ซื้อหนังสือ นี่ถือเป็นหลักการเชิงรุกที่แม้ลูกค้าไม่เดินมาหา เขาก็จะเดินขึ้นไปหาลูกค้าเอง
5. ใช้ประสบการณ์ให้เป็นประโยชน์
ย้อนกลับไปมองการทำธุรกิจของตันเมื่อหลายปีก่อน แทบจะทุกธุรกิจเขาไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรกบนเส้นทางความ สำเร็จเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่พอผ่านมันไปได้ ก็ไม่กลัวปัญหาแล้ว ปัญหากลายเป็นเพื่อนสนิทเสียอีก
ให้เพื่อนสนิทเป็นผู้แนะนำไปสู่ทางแห่งความสำเร็จ
" บทเรียนจากความล้มเหลวสำคัญมาก แต่ก็ไม่ได้อยากให้คุณล้มเหลวทุกครั้ง ผมล้มเหลวมาหลายครั้ง แต่ไม่ใช่เพราะความล้มเหลวอย่างเดียวที่ทำให้ผมสำเร็จ แต่ผมรู้จักเรียนรู้และพูดคุยจากคนอื่นเพิ่มขึ้นต่างหาก "
6. ตอนเล็กๆ ต้องคิดใหญ่ ตอนใหญ่ๆ ต้องคิดเล็ก
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น! เพราะตอนที่เรายังมีทุนน้อย ถึงเราจะคิดใหญ่ มันก็ไม่ใหญ่เท่าไรหรอก แถมยังไม่มีใครให้กู้เงินได้มากมาย หากจะคิดใหญ่ก็ยังสามารถทำได้ เพราะความเสียหายมันมีข้อจำกัด ในเมื่อมีทุนอยู่เพียงเท่านี้จะต้องไปกลัวอะไร
" แต่สมมติวันที่โออิชิมี 6-7 พันล้าน ถ้าผมไปคิดเป็นหมื่นๆล้านแล้วพลาดมันจะเป็นยังไงรู้ไหม? " ตันย้ำ
ดังนั้นเขาเชื่อว่า เมื่อองค์กรเติมใหญ่กลับต้องคิดเล็ก คิดว่าจะทำอย่างไรให้ปลอดภัยมั่นคงแล้วเราจะเอาประสบการณ์ที่เราเคยประสบในครั้งที่เราล้มเหลวในตอนเล็กๆมาใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือ ณ วันนี้มีเงินในมือ 300 กว่าล้านบาท ตันบอกว่า " ถ้าผมโลภมาก อยากหาเงินเป็นหมื่นล้านมาขยายธูรกิจก็ไม่ยากเลย เพราะตอนนี้ทั้งเครดิต ชื่อเสียง จะขอเงินกู้จากธนาคารก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สมควรไหม
เขาจึงเลือกยุทธศาสตร์ที่จะเข้าร่วมกับค่ายธุรกิจยักษ์ใหญ่ อย่างกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี เพื่อความมั่นคงและยังได้เครือข่ายทั้งการตลาดและโรงงานผลิตที่จะช่วยลดต้นทุนได้ดี
7. การสร้างแบรนด์
ต้องมีการสื่อสารการตลาดและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาด เพราะเมื่อแบรนด์เป็นที่นิยมยอมรับจะเป็นสินทรัพย์อันมีค่าที่สามารถออกผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่าต่อเนื่องไม่รู้จบ
8. ใช้แบรนด์สร้างเงิน
ในระยะแรกของการทำธุรกิจ ตันบอกว่าคนเราจะต้องเอาเหงื่อไปแลกเงิน จากนั้นเมื่อมีเงินแล้วก็สามารถเอาเงินไปและเงินที่มากขึ้นได้ ทว่าในวันนี้ของตัน เขาอยู่ในห้วงเวลาที่สามารถเอาแบรนด์ไปสร้างเงินได้
9. ไม่ยึดติดในกรอบความคิดเก่าๆ
นับเป็นแนวคิดที่นักการตลาดพยายามกระตุ้น เพื่อให้เกิดนวัตกรรมโดยใช้คำว่า " การคิดนอกกรอบ " ตันบอกว่าการคิดนอกกรอบที่มีการพูดถึงหลายวงการ " ดูเหมือนยาก แต่ก็ง่าย ดูเหมือนง่าย แต่ก็ยาก " ความสำคัญอยู่ที่ต้องเข้าใจตลาด เข้าใจผู้บริโภค และด้วยจุดยืนในการทำธุรกิจของตันที่ต้องการทำเงิน ขณะที่ต้องการทำสิ่งท้าทายด้วย
ดังนั้นเขาจึงใฝ่ใจศึกษาหาสิ่งใหม่ๆและก็กล้าเริ่มสร้างสรรค์ " ผมเป็นคนไม่เชื่อว่าชาเขียวต้องใช้กล่องสีเขียว "