In routing layer, the forward proce

In routing layer, the forward process is divided into two phases: path building phase and forward phase. In path building phase, each node count expected transmit times (ETX) to other nodes and flood the ETX value in the network. Then each node has a global topology of in none-directional map with ETX value as weight. Based on this global topology, the source node named S can compute a shortest path such as S->A->B->E-> D. Then each forward node named X is extended to a forward set called CFS-X with several nodes. A node is added to the CFS-X set if it satisfies two conditions simultaneously: 1) it is closer to the destination than node x; 2) distance between it and any node of CFS-X set is smaller than a threshold. Each node of CFS-X is signed a priority according to distance to the destination. And a forward timer is created by the priority value. In the forward phase, node S broadcast a coded packet recording CFS-A, if a node receives the broadcasted packet and it belongs to CFS-A set it will start the forward timer. If it receives the same packet again it will cancel the timer else send the packet when the time expires.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในชั้นกระบวนการผลิต กระบวนการไปข้างหน้าแบ่งเป็นสองขั้นตอน: เส้นทางสร้างเฟสและเฟสไปข้างหน้า ในขั้นตอนการสร้างเส้นทาง นับแต่ละโหนดที่คาดว่าจะส่งสัญญาณเวลา (ETX) โหนอื่น ๆ และน้ำท่วมค่า ETX ในเครือข่าย แล้ว แต่ละโหนมีโครงสร้างส่วนกลางของในทิศทางไม่มีแผนที่ด้วยค่า ETX เป็นน้ำหนัก อิงจากนี้สากลโทโพโลยี โหนแหล่งชื่อ S สามารถคำนวณเส้นทางที่สั้นที่สุดเช่น S -> A -> B -> E -> d แล้ว แต่ละโหนไปข้างหน้าที่ชื่อว่า X จะขยายไปยังชุดไปข้างหน้าเรียกว่า CFS X กับหลายโหน มีเพิ่มโหนแบบ CFS-X ตั้งหากที่จะตอบสนองเงื่อนไขสองเงื่อนไขพร้อมกัน: 1) อยู่ใกล้ปลายทางกว่าโหน x 2) ระยะห่างระหว่างมันและโหนของ CFS X ชุดมีขนาดเล็กกว่าเกณฑ์ แต่ละโหนของ CFS X ได้รับการรับรองความสำคัญตามระยะทางไปยังปลายทาง และตัวจับเวลาเดินหน้าสร้าง โดยค่าระดับความสำคัญ ในระยะข้างหน้า โหน S ออกอากาศการบันทึกรหัส packet CFS-A ถ้าโหนได้รับแพคเก็ตการเผยแพร่ และเป็นสมาชิก CFS-ชุด มันจะเริ่มจับเวลาไปข้างหน้า ถ้าได้รับเดียวกันแพ็คเก็ตอีกครั้งมันจะยกเลิกการ จับเวลาอื่นส่งแพคเก็ตหมดเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในชั้นการกำหนดเส้นทางกระบวนการข้างหน้าแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนคือขั้นตอนการสร้างเส้นทางและเฟสไปข้างหน้า ในขั้นตอนการสร้างเส้นทางแต่ละโหนดนับคาดว่าการส่งครั้ง (ETX) ไปยังโหนดอื่น ๆ และน้ำท่วมมูลค่า ETX ในเครือข่าย จากนั้นแต่ละโหนดมีโครงสร้างระดับโลกของในแผนที่ไม่มีทิศทางที่มีมูลค่า ETX เป็นน้ำหนัก ขึ้นอยู่กับโครงสร้างระดับโลกครั้งนี้โหนดแหล่งที่มาของชื่อ S สามารถคำนวณเส้นทางที่สั้นที่สุดเช่น S-> a-> B-> E-> D. แล้วแต่ละโหนดข้างหน้าชื่อ X จะขยายไปยังชุดไปข้างหน้าเรียกว่า CFS-X กับหลาย โหนด โหนดจะถูกเพิ่มในชุด CFS-X ถ้ามันสอดคล้องกับเงื่อนไขที่สองพร้อมกัน: 1) เป็นผู้ใกล้ชิดไปยังปลายทางกว่าโหนด X นั้น 2) ระยะทางระหว่างมันและโหนของ CFS-X ชุดใด ๆ ที่มีขนาดเล็กกว่าเกณฑ์ โหนของ CFS-X แต่ละมีการลงนามความสำคัญตามระยะทางไปยังปลายทาง และจับเวลาไปข้างหน้าถูกสร้างขึ้นโดยค่าลำดับความสำคัญ ในระยะข้างหน้าโหนดออกอากาศรหัสบันทึกแพ็คเก็ต CFS-A ถ้าโหนดได้รับแพ็คเก็ตออกอากาศและมันเป็น CFS-ชุดก็จะเริ่มจับเวลาไปข้างหน้า หากได้รับแพ็คเก็ตเดียวกันอีกครั้งก็จะยกเลิกการจับเวลาอื่นส่งแพ็คเก็ตเมื่อหมดเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเส้นทางข้างหน้าชั้น กระบวนการแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนคือการสร้างเส้นทางและส่งต่อเฟส ในขั้นตอนการก่อสร้างเส้นทาง แต่ละโหนดนับคาดส่งครั้ง ( ETX ) กับโหนดอื่น ๆและน้ำท่วมมูลค่า ETX ในเครือข่าย จากนั้นแต่ละโหนดมีโลกแบบไม่มีทิศทางในแผนที่กับ ETX มูลค่ารวมน้ำหนัก ตามแบบสากลนี้ แหล่งที่มาชื่อของโหนดสามารถคำนวณเส้นทางที่สั้นที่สุด เช่น S - > A - > B - > E - > D แล้ว แต่ละโหนดที่ชื่อ x ขยายไปข้างหน้า ข้างหน้าตั้งเรียกว่า cfs-x หลายโหนด โหนดจะถูกเพิ่มใน cfs-x ตั้งค่าถ้ามันตอบสนองเงื่อนไขสองข้อพร้อมกัน : 1 ) มันใกล้ปลายทางกว่าโหนด x ; 2 ) ระยะทางระหว่างโหนดใด ๆ cfs-x ชุดและมีขนาดเล็กกว่าเป็นเกณฑ์ แต่ละโหนดของ cfs-x ลงนามเป็นอันดับแรกตามระยะทางไปยังปลายทาง และจับเวลาไปข้างหน้าจะถูกสร้างขึ้นโดยค่าที่สำคัญ ในระยะข้างหน้าของแพ็คเก็ตออกอากาศเข้ารหัสโหนดบันทึก cfs-a ถ้าโหนดได้รับแพ็คเก็ตออกอากาศ และมันเป็นของ cfs-a ชุดจะเริ่มจับเวลาเดินหน้า ถ้ามันได้รับแพ็กเก็ตเดียวกันอีก มันจะยกเลิกการตั้งเวลาอื่นส่งแพ็กเก็ตเมื่อเวลาหมดอายุ