SURVEILLANCE, EPIDEMIOlogical,and l

SURVEILLANCE, EPIDEMIOlogical,and laboratory data are essential to the practice of public health, particularly at the state and local level.1 Public health practitioners within government agencies use data to identify new cases of disease and to make decisions about when to apply public health interventions. The exchange of information between health officials
in different jurisdictions has been demonstrated to be essential to managing outbreaks of well understood diseases, such as measles,and identifying and responding to new and emerging threats, such as severe acute respiratory syndrome and pandemic influenza A (H1N1). However, the very developments in information technology and health care policy that make it increasingly possible to rapidly transmit health information, such as electronic medical records and health information exchanges, continue to raise questions about the possible inappropriate use and lack of protection of personally identifiable health information.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเฝ้าระวัง, ระบาดวิทยาและข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติของสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รัฐและท้องถิ่น level.1 ผู้ปฏิบัติงานสาธารณสุขที่อยู่ในหน่วยงานภาครัฐใช้ข้อมูลเพื่อระบุรายใหม่ของโรคและการที่จะทำให้การตัดสินใจเกี่ยวกับเมื่อใช้การแทรกแซงสุขภาพของประชาชน . แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ในเขตอำนาจศาลที่แตกต่างกันได้แสดงให้เห็นว่าจะเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการการระบาดของโรคที่เข้าใจกันดีเช่นโรคหัดและการระบุและการตอบสนองต่อภัยคุกคามใหม่และที่เกิดขึ้นใหม่เช่นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันและโรคระบาดไข้หวัดใหญ่ (H1N1 ) อย่างไรก็ตามการพัฒนามากในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและนโยบายการดูแลสุขภาพที่ทำให้มันเป็นไปได้มากขึ้นอย่างรวดเร็วส่งข้อมูลสุขภาพเช่นเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์และการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้ที่ไม่เหมาะสมที่เป็นไปได้และการขาดการคุ้มครองสุขภาพระบุตัวบุคคลได้ ข้อมูล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา และข้อมูลทางห้องปฏิบัติการจะสรุปการปฏิบัติของสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับรัฐและท้องถิ่น . 1 สาธารณสุขผู้ปฏิบัติงานภายในหน่วยงานราชการใช้ข้อมูลเพื่อระบุรายใหม่ของโรคและการตัดสินใจเกี่ยวกับเมื่อที่จะใช้ด้านสุขภาพของประชาชน แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ในเขตอำนาจศาลที่แตกต่างกันได้แสดงเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการการระบาดของโรคเข้าใจได้ดี เช่น โรคหัด และระบุและตอบสนองต่อภัยคุกคามใหม่และตลาดเกิดใหม่ เช่น โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง และการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ( H1N1 ) อย่างไรก็ตามมากในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและนโยบายการดูแลสุขภาพที่ทำให้มันมากขึ้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วส่งข้อมูลสุขภาพ เช่นระเบียนการแพทย์อิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลด้านสุขภาพ การแลกเปลี่ยน ยังยกคำถามเกี่ยวกับเป็นไปได้ใช้อย่างไม่เหมาะสมและขาดการคุ้มครองข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล .