‘If climate change and population g

‘If climate change and population growth progress at their current pace, in roughly 50 years farming as we know it will no longer exist,’ Professor Dickson D. Despommier said interestingly in the introduction to the article, A Farm On Every Floor, published in The New York Times in 2009. The most immediate problem that will arise from an increasing population concerns food, which is one of our basic needs. Currently, nearly 80% of the world’s land is used for agriculture, while the rapidly swelling population is left with the remaining 20%. This necessitates some form of agricultural revolution.

The question is how to revolutionise? A large number of researchers would certainly suggest the “vertical farming” method as a solution, in much the same way as the expansion of high-rise condominiums. Such an idea is far from novel, but what vertical farming offers is distinct and advantageous methods of growing plants like the hydroponic system, which does not use soil, and the developed enclosed system that is capable of creating and controlling optimal conditions for plant growth. These will also prevent pests and diseases, maintain standards of production, ensure 5 to a 30% increase in productivity, and help reduce CO2 emissions due to transportation.
Regarding the location of this project, the criteria for choosing the site are:

1.The site is to be located in the centre or capital of the country.
2.It has good accessibility.
3.Its construction area is maximised.
4.A good view point.

All these must meet the aims of the project. Our chosen location is in the area of the Sena Intersection, Ladprao District, with the total area of 8.30 acres and 1,110 sq metres.

According to the aim and rationale of the project, the project will consist of areas allocated to vertical farming or a plant factory, a plant market, a product storage area, and a park, with the approximate utility space of 180,000 sq metres. For zoning, the plant factory will be built on the tower and the sub-basement. The plant market will be located on low-level flooring where it is conveniently accessible to users, whilst the product storage area, as well as the service zone, will be built at the rear of the building, making it convenient for car service access. The public park and plaza will be situated at the front of the building thereby blending the building into its park like environment, and the sky plant factory will link the two towers together.

The concept behind this project sprang up from an attempt to search for keywords related to vertical farming, with the word ‘plant’ constantly coming up first. As a vital part of the project, plants have a particularly interestingly structure, being continuously geometric when inspected at the cellular level. Looking more closely, we will observe parenchyma, which are fundamental cells of plants. Parenchymal cells, whichever part they are cut, have a clear geometric appearance called truncated octahedron, which can be comparable to two square pyramids glued together at their bases and their sharpest points cut. The truncated octahedron consists of 14 faces (8 hexagonal and six square), with symmetric edge length. In the light of this, we have designed our modular using the truncated octahedron as a model by which 1 unit of plant factory tower is placed per 1 modular.

In one modular, there will be a hydroponic plot divided into 14 layers with each layer containing 57 pits. The productivity in each modular is expected to be 140 kg per crop. One tower will comprise 426 hydroponic units, whose productivity is anticipated to achieve 60 tons per crop. Below is a picture of the structure of the truncated-octahedral modular.

Where does the source of light for growing plants inside a building come from? Besides natural sunlight, light bulbs installed in every plot layer will be used to provide artificial light, giving out the appropriate wavelengths that plants require (mainly falling in red and blue spectrums). Often, running a plant factory in some countries does not involve using natural light at all and consequently relies totally on artificial light sources, which can prevent the rapid growth of plants under such light.

Lastly, how to control the temperature inside the building? Apart from using air conditioners to lower the temperature to optimal levels for plant growth, an evaporative cooling system will also be implemented to help reduce the temperature in a more energy-efficient manner than normal air conditioners.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

'ถ้าสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและประชากรเติบโตระหว่างที่ก้าวของตนปัจจุบัน ในประมาณ 50 ปีเกษตรเท่าที่เรารู้ว่ามันจะไม่มีอยู่ ศาสตราจารย์ดิกสัน D. Despommier กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าสนใจในการแนะนำบทความ A ฟาร์มในทุกชั้น ตีพิมพ์ใน The New York Times ในปี 2552 ปัญหามากที่จะเกิดขึ้นจากประชากรที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวข้องกับอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในความต้องการพื้นฐานของเรา ปัจจุบัน เกือบ 80% ของแผ่นดินโลกไว้เพื่อการเกษตร ในขณะที่ประชากรบวมอย่างรวดเร็วที่เหลือ มี 20% ที่เหลือ นี้ necessitates บางรูปแบบของการปฏิวัติเกษตรกรรม คำถามคือ วิธีการ revolutionise นักวิจัยเป็นจำนวนมากแน่นอนแนะนำวิธี "การทำฟาร์มแนวตั้ง" เป็นโซลูชัน มากเหมือนกับการขยายตัวของคอนโดมิเนียมสูง ความคิดเป็นจากนวนิยาย แต่มีอะไรทำฟาร์มแนวตั้งจะแตกต่าง และประโยชน์วิธีการปลูกพืชเช่นระบบสี ไม่ใช้ดิน และอยู่ที่การพัฒนาระบบที่สามารถสร้าง และควบคุมสภาวะการเจริญเติบโตของพืช เหล่านี้จะยังป้องกันศัตรูพืชและโรค รักษามาตรฐานการผลิต 5 การเพิ่ม 30% มั่นใจในผลผลิต และช่วยลดการปล่อย CO2 จากการขนส่งเรื่องสถานที่ตั้งของโครงการ เกณฑ์การเลือกเว็บไซต์: 1.เว็บไซต์ที่มีอยู่ในศูนย์กลางหรือเมืองหลวงของประเทศ2.มันมีความดี3.พื้นที่การก่อสร้างเป็น maximised4.A จุดดีทั้งหมดนี้ต้องตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการ เราเลือกสถานที่ตั้งอยู่ในบริเวณสี่แยกเสนา ย่านลาดพร้าว มีพื้นที่รวม 1,110 ตารางเมตรและพื้นที่ 8.30ตามจุดมุ่งหมายและเหตุผลของโครงการ โครงการจะประกอบด้วยพื้นที่จัดสรรให้ทำฟาร์มแนวตั้ง หรือโรงงานโรงงาน ตลาดโรงงาน พื้นที่เก็บสินค้า และ สวน พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 180000 ตารางเมตร โรงงานโรงงานจะสร้างทาวเวอร์และชั้นใต้ดินย่อยสำหรับโซน ตลาดโรงงานจะอยู่ตามพื้นล่างซึ่งมีบริการถึงผู้ใช้ ในขณะที่พื้นที่เก็บสินค้า ตลอดจนเขตพื้นที่บริการ จะถูกสร้างขึ้นที่ด้านหลังของอาคาร ทำให้สะดวกสำหรับการเข้าถึงบริการรถ สวนสาธารณะและพลาซ่าจะอยู่ด้านหน้าของอาคารจึงผสมผสานอาคารเป็นของสวนเช่นสิ่งแวดล้อม และโรงงานโรงงานฟ้าจะเชื่อมโยงสองอาคารด้วยกัน แนวคิดอยู่เบื้องหลังโครงการนี้ sprang ขึ้นจากความพยายามในการค้นหาคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทำฟาร์มแนวตั้ง กับคำ 'โรงงาน' อย่างต่อเนื่องมาถึงครั้งแรก เป็นส่วนสำคัญของโครงการ พืชได้เป็นเรื่องน่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้าง การเรขาคณิตอย่างต่อเนื่องเมื่อตรวจสอบในระดับเซล มองอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เราจะสังเกตพาเรงไคมา ซึ่งเป็นเซลล์พื้นฐานของพืช Parenchymal เซลล์ ส่วนใดจะถูกตัด มีลักษณะเรขาคณิตชัดเจนเรียกว่าตัดทรงแปดหน้า ซึ่งสามารถเทียบเท่ากับพีระมิดส์ตารางที่สองที่จมปลักกันที่ฐานของพวกเขาและพวกเขาจุดคมชัด ตัด ทรงแปดหน้าปลายตัดประกอบด้วย 14 ใบหน้า (8 หกเหลี่ยมและสี่เหลี่ยม 6), ความยาวขอบสมมาตร นี้ นี้เราได้ออกแบบมอดุลาร์เราใช้ทรงแปดหน้าปลายตัดเป็นรูปแบบที่ 1 หน่วยของทาวเวอร์โรงงานโรงงานอยู่ต่อ 1 โมดุล ในมอดุลาร์หนึ่ง จะมีแผนสีแบ่งออกเป็นชั้น 14 กับชั้นแต่ละที่ประกอบด้วยหลุม 57 คาดว่าผลผลิตในแต่ละมอดุลาร์เป็น 140 กิโลกรัมต่อพืช ทาวเวอร์หนึ่งจะประกอบด้วยหน่วยสี 426 ผลผลิตที่คาดการณ์ไว้ให้ 60 ตันต่อพืช ด้านล่างเป็นรูปของโครงสร้างของมอดุลาร์ตัด-octahedralซึ่งแหล่งของแสงสำหรับการปลูกต้นไม้ภายในอาคารไม่มาจาก นอกเหนือจากแสงธรรมชาติ จะใช้หลอดไฟที่ติดตั้งในทุกชั้นลงจุดเพื่อให้แสงประดิษฐ์ ให้ความยาวคลื่นที่เหมาะสมที่พืชต้องการ (ส่วนใหญ่อยู่ใน spectrums สีแดง และสีน้ำเงิน) มักจะ ทำงานโรงงานโรงงานในบางประเทศไม่เกี่ยวข้องกับการใช้แสงธรรมชาติเลย แล้วจึง อาศัยทั้งหมดประดิษฐ์แสงแหล่ง ซึ่งสามารถป้องกันการเติบโตอย่างรวดเร็วของพืชภายใต้แสงดังกล่าววิธีสุดท้าย การควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร นอกจากการใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อลดอุณหภูมิระดับเหมาะสมที่สุดสำหรับการเติบโตของพืช ระบบทำความเย็นการทำลมยังจะดำเนินการเพื่อช่วยลดอุณหภูมิในลักษณะขึ้นประหยัดพลังงานกว่าเครื่องปรับอากาศที่ปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถ้าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและความคืบหน้าการเติบโตของประชากรที่ก้าวปัจจุบันของพวกเขาในประมาณ 50 ปีการทำฟาร์มที่เรารู้ว่ามันจะไม่มีอีกต่อไป "ศาสตราจารย์ Dickson D. Despommier กล่าวว่าสิ่งที่น่าสนใจในการแนะนำจากบทความ, ฟาร์มในทุกชั้นที่ตีพิมพ์ใน นิวยอร์กไทม์สในปี 2009 ปัญหาทันทีที่สุดที่จะเกิดขึ้นจากประชากรที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวข้องกับอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในความต้องการขั้นพื้นฐานของเรา ปัจจุบันเกือบ 80% ของที่ดินของโลกที่ถูกนำมาใช้เพื่อการเกษตรในขณะที่ประชากรบวมอย่างรวดเร็วเหลืออยู่กับส่วนที่เหลืออีก 20% รูปแบบนี้มีความจำเป็นของการปฏิวัติทางการเกษตรบางส่วน. คำถามคือวิธีการที่จะปฏิวัติ? จำนวนมากของนักวิจัยอย่างแน่นอนขอแนะนำ "การทำเกษตรแนวตั้ง" วิธีการเป็นวิธีการแก้ปัญหาในลักษณะเดียวกับการขยายตัวของคอนโดมีเนียมสูง ความคิดดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากนวนิยายแนวตั้ง แต่สิ่งที่มีการเลี้ยงเป็นวิธีการที่แตกต่างและข้อได้เปรียบของการปลูกพืชเช่นระบบไฮโดรโปนิซึ่งไม่ได้ใช้ดินและพัฒนาระบบการปิดล้อมที่มีความสามารถในการสร้างและการควบคุมสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช . เหล่านี้จะป้องกันไม่ให้ศัตรูพืชและโรครักษามาตรฐานของการผลิตให้แน่ใจ 5 จะเพิ่มขึ้น 30% ในการผลิตและช่วยลดการปล่อย CO2 เนื่องจากการขนส่งเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของโครงการนี้เกณฑ์สำหรับการเลือกเว็บไซต์ที่มี: 1. สถานที่ที่จะตั้งอยู่ในใจกลางหรือเมืองหลวงของประเทศ. 2.It มีการเข้าถึงที่ดี. พื้นที่ก่อสร้าง 3.Its เป็น maximized. 4.A จุดชมวิวที่ดี. ทั้งหมดเหล่านี้ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ สถานที่ที่เลือกของเราอยู่ในพื้นที่สี่แยกเสนาลาดพร้าวอำเภอที่มีพื้นที่รวม 8.30 ไร่และ 1,110 ตารางเมตร. ตามจุดมุ่งหมายและเหตุผลของโครงการโครงการจะประกอบด้วยพื้นที่จัดสรรให้กับการทำการเกษตรหรือพืชแนวตั้ง โรงงานตลาดพืช, พื้นที่จัดเก็บสินค้าและสวนสาธารณะที่มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 180,000 ตารางเมตร สำหรับการแบ่งเขตโรงงานโรงงานจะถูกสร้างขึ้นบนหอคอยและย่อยชั้นใต้ดิน ตลาดโรงงานจะตั้งอยู่บนพื้นในระดับต่ำที่จะสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในขณะที่พื้นที่จัดเก็บสินค้าเช่นเดียวกับโซนบริการจะได้รับการสร้างขึ้นที่ด้านหลังของอาคารทำให้สะดวกสำหรับการเข้าถึงบริการ สวนสาธารณะและพลาซ่าจะตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของอาคารจึงผสมอาคารเข้าไปในสวนสาธารณะเช่นสภาพแวดล้อมและโรงงานโรงงานท้องฟ้าจะเชื่อมโยงทั้งสองอาคารร่วมกัน. แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ผุดขึ้นมาจากความพยายามที่จะค้นหาคำหลัก ที่เกี่ยวข้องกับการทำการเกษตรตามแนวตั้งที่มีคำว่า 'โรงงาน' อย่างต่อเนื่องขึ้นมาเป็นครั้งแรก ในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญของโครงการพืชมีโครงสร้างที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการตรวจสอบในระดับเซลล์ มองอย่างใกล้ชิดเราจะสังเกตเนื้อเยื่อซึ่งเป็นพื้นฐานของเซลล์พืช เซลล์ parenchymal แล้วแต่จำนวนใดส่วนหนึ่งที่พวกเขาถูกตัดมีลักษณะรูปทรงเรขาคณิตที่ชัดเจนเรียกว่าแปดด้านที่ถูกตัดทอนซึ่งสามารถเทียบเคียงได้กับสองปิรามิดตาราง glued ร่วมกันที่ฐานของพวกเขาและจุดตัดที่คมชัด แปดด้านที่ถูกตัดทอนประกอบด้วย 14 หน้า (8 หกเหลี่ยมและหกตาราง) ที่มีความยาวขอบสมมาตร ในแง่ของการนี้เราได้รับการออกแบบโมดูลาร์ของเราโดยใช้แปดด้านที่ถูกตัดทอนเป็นรูปแบบที่ 1 หน่วยของอาคารโรงงานโรงงานถูกวางไว้ต่อ 1 modular. หนึ่งในแบบแยกส่วนจะมีพล็อต hydroponic แบ่งออกเป็น 14 ชั้นมีชั้นที่มีในแต่ละ 57 หลุม การผลิตในแต่ละแบบแยกส่วนคาดว่าจะเป็น 140 กิโลกรัมต่อการเพาะปลูก หอหนึ่งจะประกอบด้วย 426 หน่วยไฮโดรโปนิซึ่งมีการผลิตคาดว่าจะประสบความสำเร็จ 60 ตันต่อพืช ด้านล่างเป็นภาพของโครงสร้างของที่ถูกตัดทอน-แปดด้าน modular. ที่ไหนแหล่งที่มาของแสงสำหรับการปลูกพืชภายในอาคารมาจากไหน? นอกจากแสงแดดธรรมชาติ, หลอดไฟที่ติดตั้งในชั้นพล็อตทุกคนจะถูกนำมาใช้เพื่อให้แสงเทียมให้ออกความยาวคลื่นที่เหมาะสมที่ต้องใช้พืช (ส่วนใหญ่ตกอยู่ในสเปกตรัมสีแดงและสีฟ้า) บ่อยครั้งที่การทำงานโรงงานโรงงานในบางประเทศไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้แสงธรรมชาติที่ทุกคนจึงต้องอาศัยทั้งหมดในแหล่งกำเนิดแสงเทียมซึ่งสามารถป้องกันการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของพืชภายใต้แสงไฟดังกล่าว. สุดท้ายวิธีการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารหรือไม่ นอกเหนือจากการใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อลดอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช, ระบบทำความเย็นแบบระเหยก็จะถูกนำมาใช้เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในลักษณะที่ประหยัดพลังงานมากกว่าเครื่องปรับอากาศปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถ้าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความคืบหน้าการเติบโตของประชากรที่ก้าวปัจจุบันของพวกเขาในประมาณ 50 ปี ฟาร์มที่เรารู้ว่ามันจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว " ศาสตราจารย์ Dickson D . despommier บอกว่าน่าสนใจในเบื้องต้นเกี่ยวกับบทความ ฟาร์ม ทุกชั้น , ตีพิมพ์ใน New York Times ในปี 2009 ทันทีมากที่สุดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของประชากรเกี่ยวกับอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในความต้องการขั้นพื้นฐานของเรา ปัจจุบัน เกือบ 80% ของโลกของที่ดินที่ใช้เพื่อเกษตรกรรม ในขณะที่ประชากรบวมอย่างรวดเร็วเหลืออีก 20% นี้ necessitates บางรูปแบบของการปฏิวัติเกษตรกรรม

คำถามคือวิธีการปฏิวัติ ? เป็นจำนวนมากของนักวิจัยจะแนะนำ " วิธีการ " แนวตั้งเป็นโซลูชั่นในลักษณะเดียวกับการขยายตัวของคอนโดมิเนียมสูงระฟ้า ความคิดเช่นนี้ เป็น ไกล จาก นวนิยาย แต่สิ่งที่แตกต่างและได้เปรียบฟาร์มแนวตั้งมีวิธีการปลูกพืช เช่น ระบบไฮโดรโพนิกส์ ที่ไม่ใช้ดิน และพัฒนาอยู่ ระบบที่สามารถสร้างและควบคุมสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช เหล่านี้จะยังป้องกันศัตรูพืชและโรครักษามาตรฐานของการผลิต มั่นใจ 5 เพิ่มเป็น 30% ในผลผลิต และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่ง
เกี่ยวกับที่ตั้งของโครงการนี้ เกณฑ์สำหรับการเลือกเว็บไซต์ :

ความเว็บไซต์ตั้งอยู่ในศูนย์หรือเมืองหลวงของประเทศ มีพื้นที่ดี
2.it เข้าถึง การก่อสร้าง
3.its เป็น maximised .
4

มุมมองที่ดีทั้งหมดเหล่านี้จะต้องตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการ การเลือกที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกเสนา ลาดพร้าว เขต มีพื้นที่รวม 8.30 เอเคอร์และ 110 ตารางเมตร

ตามจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการ โครงการจะประกอบด้วยพื้นที่จัดสรรให้กับฟาร์มแนวตั้ง หรือ โรงงาน โรงงาน ขายโรงงาน พื้นที่การจัดเก็บสินค้า สวนสาธารณะกับสาธารณูปโภคพื้นที่ประมาณ 180 , 000 ตารางเมตร การ โรงงาน โรงงานจะถูกสร้างบนหอ และ Sub ครับ ตลาดต้นไม้จะอยู่ในระดับพื้นที่ สามารถเข้าถึงได้สะดวกกับผู้ใช้ ขณะที่พื้นที่จัดเก็บสินค้า รวมทั้งโซนบริการ จะถูกสร้างขึ้นที่ด้านหลังของอาคาร ทำให้มันสะดวกสำหรับการเข้าถึงบริการรถอุทยานสาธารณะและศูนย์การค้าจะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารจึงผสมสร้างเป็นอุทยานสิ่งแวดล้อม เช่น โรงงานอุตสาหกรรม และท้องฟ้าจะเชื่อมโยงสองอาคารเข้าด้วยกัน

แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ผุดขึ้นจากความพยายามในการค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับฟาร์มแนวตั้ง กับคำว่า ' ' ต้น ' ตลอดเวลาขึ้นมาก่อน เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของโครงการพืชมีโครงสร้างที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรขาคณิตอย่างต่อเนื่องเมื่อตรวจสอบในระดับเซลล์ มองอย่างใกล้ชิด เราจะสังเกตพาเรงคิมา ซึ่งเป็นเซลล์พื้นฐานของพืช parenchymal เซลล์ส่วนใดก็ตามที่พวกเขาถูกตัดมีลักษณะที่เรียกว่าทรงแปดหน้าปลายตัดชัดเจนทางเรขาคณิต ,ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้กับสองสี่เหลี่ยมพีระมิดติดกาวเข้าด้วยกันที่ฐานของพวกเขาและคมชัดจุดตัด ซึ่งวันเอดส์โลกประกอบด้วย 14 หน้า ( 8 เหลี่ยม หกเหลี่ยม และ 6 ) ที่มีความยาวขอบสมมาตร . ในตอนนี้ เรามีของเราออกแบบ modular ใช้ทรงแปดหน้าปลายตัดเป็นแบบที่ 1 หน่วยของอาคารโรงงานอยู่ ต่อ 1 แบบแยกส่วน

ในหนึ่งโมดูลาร์ ,จะมี hydroponic แปลงแบ่งออกเป็น 14 ชั้น แต่ละชั้นมี 9 หลุม ผลผลิตในแต่ละโมดูล คาดว่า จะอยู่ที่ 140 กิโลกรัมต่อเฮกตาร์ หอหนึ่งจะประกอบด้วย 426 หน่วย hydroponic ที่มีผลผลิตคาดว่าจะบรรลุ 60 ตันต่อปี ด้านล่างนี้เป็นรูปของโครงสร้างของโมดูล

ตัดแปดด้าน .ที่ไม่แหล่งที่มาของแสงสำหรับการปลูกพืชภายในอาคารมาจากไหน นอกจากแสงแดดธรรมชาติ หลอดไฟที่ติดตั้งในทุกแผนชั้นจะใช้ให้แสงประดิษฐ์แจกความยาวคลื่นที่เหมาะสมที่พืชต้องการ ( ส่วนใหญ่อยู่ในสีแดงและน้ำเงินสเปกตรัม ) มักจะเปิดโรงงานผลิตในบางประเทศไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้แสงธรรมชาติทั้งหมด และจากนั้น อาศัยทั้งหมดในแหล่งแสงเทียม ซึ่งสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของพืชภายใต้ไฟเช่น .

ท้ายนี้ วิธีการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร นอกจากการใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อลดอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับการเจริญเติบโตของพืชระบบทำความเย็นแบบระเหยจะถูกดำเนินการเพื่อช่วยลดอุณหภูมิในลักษณะที่ประหยัดพลังงานมากกว่าอากาศปกติ