Synchrotron radiation X-ray fluores

Synchrotron radiation X-ray fluorescence analysis technology (SRXRF) can effectively reduce the detection limit for the determination of heavy metal elements. The technique is especially suitable for in situ nondestructive analysis of biological samples with low contents. By corn seed germination test, and combining with SRXRF technique, the effects of Pb on corn seed germination and Pb micro-distribution in the corn seed were studied. X-ray absorption near edge structure (XANES) technique was also used to analyze the Pb chemical speciation in different parts of corn seed. The above experiments were carried out for understanding the absorption and transformation mechanism of Pb by corn seeds. The results showed that the germination rate, bud length and root length decreased with the increasing contents of Pb. The analysis of variance showed that P-value of the germination rate, bud length and root elongation of corn seeds which were exposed to different concentration of Pb were 2.0 × 10−3, 1.4 × 10−4 and 2.4 × 10−8 respectively, suggesting there were highly significant differences during this three indicators and the content of Pb. In addition, the inhibition effect on root growth was greater. The results of SRXRF analysis showed that Pb was mainly enriched in episperm and embryo, which would inhibit embryonic develop into bud and root. Moreover, the results showed that all samples including root, shoot and the different part of seed had the same Pb-LIII (13035 eV) XANES spectra and Pb speciation. The linear combination fitting results indicated that the lead phosphate chloride and lead stearate accounted for 74.3% and 24.2% respectively, suggesting that the main Pb speciation in corn was lead phosphate chloride which deposited inside of corn, and a few combined with carboxylic to form organic lead.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Synchrotron รังสีเอกซเรย์ fluorescence เทคโนโลยีวิเคราะห์ (SRXRF) สามารถลดตรวจหาขีดจำกัดสำหรับการกำหนดองค์ประกอบของโลหะหนักอย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ใน situ ทำลายตัวอย่างชีวภาพด้วยเนื้อหาต่ำ มีศึกษาผลของ Pb ในการงอกของเมล็ดข้าวโพดและไมโคร Pb-แจกในเมล็ดข้าวโพด โดยทดสอบการงอกของเมล็ดข้าวโพด และรวม ด้วยเทคนิค SRXRF ยังได้ใช้เอ็กซ์เรย์การดูดซึมใกล้ขอบโครงสร้าง (XANES) เทคนิควิเคราะห์ Pb เคมีเกิดสปีชีส์ใหม่ในส่วนต่าง ๆ ของเมล็ดข้าวโพด การทดลองข้างต้นได้ดำเนินการสำหรับการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการดูดซึมและการเปลี่ยนแปลงของ Pb โดยเมล็ดข้าวโพด ผลพบว่าอัตราการงอก ระยะดอกตูม และความยาวรากลดลงเนื้อหาเพิ่มของ Pb ผลต่างของการวิเคราะห์พบว่า ค่า P ของอัตราการงอก บัด elongation ยาวและรากของข้าวโพด seeds ซึ่งมีความเข้มข้นที่สัมผัสอื่นของ Pb ได้ 2.0 × 10−3, 1.4 × 10−4 และ 2.4 × 10−8 ตามลำดับ การแนะนำมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญสูงระหว่างตัวบ่งชี้นี้สามและเนื้อหาของ Pb นอกจากนี้ ผลยับยั้งการเจริญเติบโตของรากได้มากขึ้น ผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ SRXRF ที่แสดงให้เห็นว่า Pb เป็นอุดมไปส่วนใหญ่ใน episperm และเอ็มบริโอ ซึ่งจะยับยั้งตัวอ่อนพัฒนาเป็นดอกตูมและราก นอกจากนี้ ผลพบว่า ตัวอย่างทั้งหมดรวมทั้งราก ยิงและส่วนต่าง ๆ ของเมล็ดมีแรมสเป็คตรา XANES Pb-LIII (13035 eV) เดียวกันและเกิดสปีชีส์ใหม่ Pb การรวมเชิงเส้นที่เหมาะสมผลลัพธ์บ่งชี้ว่า คลอไรด์ฟอสเฟตลูกค้าเป้าหมายและลูกค้าเป้าหมายสคิด 74.3% และ 24.2% ตามลำดับ การแนะนำให้ เกิดสปีชีส์ใหม่ Pb หลักในข้าวโพดมีคลอไรด์ฟอสเฟตรอที่ฝากในข้าวโพด และกี่รวมกับ carboxylic ฟอร์มลูกค้าเป้าหมายอินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซินโครเทคโนโลยีการวิเคราะห์รังสี X-ray fluorescence (SRXRF) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดขีด จำกัด ของการตรวจสอบสำหรับการกำหนดองค์ประกอบของโลหะหนัก เทคนิคที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับในการวิเคราะห์แบบไม่ทำลายแหล่งกำเนิดของตัวอย่างทางชีวภาพที่มีเนื้อหาต่ำ โดยข้าวโพดทดสอบการงอกของเมล็ดและรวมกับเทคนิค SRXRF ผลของตะกั่วต่อการงอกของเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดและตะกั่วกระจายไมโครในเมล็ดข้าวโพดที่มีการศึกษา การดูดซึมเอ็กซ์เรย์ใกล้ขอบโครงสร้าง (XANES) เทคนิคนี้ยังถูกใช้ในการวิเคราะห์ทางเคมี speciation ตะกั่วในส่วนต่างๆของเมล็ดข้าวโพด การทดลองดังกล่าวข้างต้นได้ดำเนินการสำหรับการทำความเข้าใจกลไกการดูดซึมและการเปลี่ยนแปลงของตะกั่วโดยการเพาะเมล็ดข้าวโพด ผลการศึกษาพบว่าอัตราการงอกยาวตาและความยาวรากลดลงกับเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นของตะกั่ว การวิเคราะห์ความแปรปรวนพบว่า P-value ของอัตราการงอกยาวตาและความยาวของรากเมล็ดข้าวโพดที่ได้สัมผัสกับความเข้มข้นแตกต่างกันของตะกั่วเป็น 2.0 × 10-3, 10-4 × 1.4 และ 2.4 × 10-8 ตามลำดับ บอกมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญอย่างมากในช่วงนี้สามตัวชี้วัดและเนื้อหาของตะกั่ว นอกจากนี้ผลการยับยั้งการเจริญเติบโตของรากสูง ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า SRXRF Pb ผสานส่วนใหญ่ใน episperm และตัวอ่อนซึ่งจะยับยั้งการพัฒนาเป็นตัวอ่อนตาและราก นอกจากนี้ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างทั้งหมดรวมทั้งรากยิงและส่วนที่แตกต่างกันของเมล็ดมีเดียวกันตะกั่ว LIII (13,035 eV) XANES สเปกตรัมและ speciation Pb การรวมกันเชิงเส้นผลที่เหมาะสมชี้ให้เห็นว่าคลอไรด์ฟอสเฟตนำและ stearate ตะกั่วคิดเป็น 74.3% และ 24.2% ตามลำดับแสดงให้เห็นว่า speciation หลัก Pb ในข้าวโพดคลอไรด์ฟอสเฟตนำที่ฝากไว้ด้านในของข้าวโพดและไม่กี่รวมกับคาร์บอกซิในรูปแบบอินทรีย์ นำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซินโครตรอนรังสี X-ray fluorescence วิเคราะห์เทคโนโลยี ( srxrf ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดขีดจำกัดของการวิเคราะห์หาปริมาณธาตุโลหะหนัก เทคนิคที่เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิธีใหม่ในการวิเคราะห์ตัวอย่างทางชีวภาพสูงเนื้อหา โดยการทดสอบความงอกของเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด และรวมกับ srxrf เทคนิค ,ผลของตะกั่วต่อข้าวโพดเมล็ดและการกระจายไมโคร PB ในเมล็ดข้าวที่แตกต่างกัน การดูดกลืนรังสีเอ็กซ์ใกล้โครงสร้างขอบ ( xanes ) เทคนิคที่ใช้วิเคราะห์ทางเคมีชนิดตะกั่วในส่วนต่าง ๆ ของเมล็ดพันธ์ การทดลองข้างต้น พบว่า ความเข้าใจกลไกการดูดซึมและการเปลี่ยนแปลงของ PB โดยเมล็ด ข้าวโพดผลการศึกษาพบว่า อัตราการงอก บัดความยาวและความยาวรากลดลงเมื่อมีการเพิ่มปริมาณของตะกั่ว การวิเคราะห์ความแปรปรวน พบว่าร้อยละของอัตราการงอกและความยาวของรากข้าว ข้าวโพด เมล็ดแตกหน่อที่ได้รับความเข้มข้นแตกต่างกันของตะกั่วเท่ากับ 2.0 × 10 − 3 , 1.4 × 10 − 4 × 10 − 8 และ 2.4 ตามลำดับแนะนำให้มีความแตกต่างระหว่างสามตัวนี้สูงและปริมาณของตะกั่ว นอกจากนี้ การยับยั้งการเจริญเติบโตรากมากขึ้น ผลจากการวิเคราะห์พบว่า ตะกั่ว เป็น srxrf ส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์และใน episperm ตัวอ่อน ซึ่งจะยับยั้งตัวอ่อนพัฒนาเป็นหน่อและราก . นอกจากนี้ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ รากยิงและส่วนที่แตกต่างกันของเมล็ดมี liii PB เหมือนกัน ( 13035 EV ) xanes spectra และ PB การจำแนกชนิด การรวมกันเชิงเส้นผลที่เหมาะสมพบว่าตะกั่วฟอสเฟตตะกั่วสเตียเรตคลอไรด์ และร้อยละ 74.3 % และ 7.9% ตามลำดับ ชี้ให้เห็นว่าชนิดตะกั่วหลักในข้าวโพด นำฟอสเฟตคลอไรด์ซึ่งฝากไว้ในข้าวโพดและไม่กี่รวมกับไฮโดรเจนในรูปแบบอินทรีย์นำ