Students were always and constantly

Students were always and constantly asked to
look at the tube to observe any detectable change in the
tubes. Typically, most students conclude that Benedict’s
reagent can be used to detect sugar, due to the fact that
the samples containing sugar (biscuit, normal but not light
soda, etc) have an orange precipitate. Regarding the sugar
(i.e. sucrose), the results varied probably depending on the
degree of contamination with glucose or fructose in the
samples used.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนอย่างต่อเนื่อง และเสมอขอให้ดูที่หลอดสังเกตการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้หลอด โดยทั่วไป นักเรียนส่วนใหญ่สรุปได้ว่าของเบเนดิกต์ใช้น้ำยาตรวจหาน้ำตาล เนื่องจากความจริงที่ว่าตัวอย่างที่ประกอบด้วยน้ำตาล (บิสกิต ปกติแต่แสงไม่ได้มีตะกอนสีส้มโซดา ฯลฯ) ได้ เกี่ยวกับน้ำตาล(เช่นซูโครส), ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอาจจะขึ้นอยู่กับการระดับการปนเปื้อนกับกลูโคสฟรักโทสในการตัวอย่างที่ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักศึกษาได้เสมออย่างต่อเนื่องและขอให้
มองไปที่หลอดจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ตรวจพบใด ๆ ใน
หลอด โดยปกตินักเรียนส่วนใหญ่สรุปได้ว่าเบเนดิกต์
น้ำยาสามารถนำมาใช้ในการตรวจสอบน้ำตาลเนื่องจากความจริงที่ว่า
กลุ่มตัวอย่างที่มีน้ำตาล (บิสกิตปกติ แต่ไม่แสง
โซดา ฯลฯ ) มีตะกอนสีส้ม เกี่ยวกับน้ำตาล
(เช่นซูโครส) ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอาจจะขึ้นอยู่กับ
ระดับของการปนเปื้อนของน้ำตาลกลูโคสหรือฟรุกโตสใน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเรียนได้เสมอและตลอดเวลาถามดูที่หลอดจะสังเกตได้ในการเปลี่ยนแปลงใด ๆหลอด โดยปกติ นักเรียนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เบเนดิกส์สารเคมีที่สามารถใช้ตรวจหาน้ำตาล เนื่องจากว่าตัวอย่างที่ประกอบด้วยน้ำตาล ( บิสกิต ปกติ แต่ไม่เบาโซดา ฯลฯ ) มีตะกอนสีส้ม เกี่ยวกับน้ำตาล( เช่นซูโครส ) ผลลัพธ์แตกต่างกัน อาจจะขึ้นอยู่กับระดับการปนเปื้อนของกลูโคสหรือฟรุคโตสในกลุ่มตัวอย่างที่ใช้