In terms of ontology, the Burnard (

In terms of ontology, the Burnard (2008) study (Sample Study 1.2) exemplifies the
constructivist paradigm in a number of ways. First, the researcher allowed the concepts
of importance in the study to emerge as they had been constructed by the participants.
Rather than studying the implementation of a defined curriculum or pedagogical
approach, she studied pedagogical practices used to engage disaffected youth not as she
conceptualized them but, rather, as they were constructed by the teachers in the study. She
asked the question, “How [do] music teachers working with disengaged students—whose
difficulties with learning in school are expressed through disruption, disengagement andwithdrawal—promote inclusiveness through the development of particular pedagogic
practices?...What is it that teachers think they do in developing inclusive pedagogies in
classroom contexts where young people are most at risk of exclusion?” (pp. 62–63).
The author’s ontological assumptions are also evidenced in her discussion of her
decision to use the constructivist approach. Burnard acknowledges that her report of the
three teachers’ experiences does not result in a definitive capture of a reality that can be
generalized to a larger population. Rather, she argues that these teachers’ accounts shed
light on teaching strategies that can be adapted by other teachers (whether of music or
other subjects) in order to reach disaffected learners.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในแง่ของภววิทยา exemplifies ศึกษา Burnard (2008) (ตัวอย่างการศึกษา 1.2)กระบวนทัศน์แบบสร้างสรรค์นิยมในหลายวิธี ครั้งแรก นักวิจัยสามารถใช้แนวคิดความสำคัญในการศึกษาออก ตามที่พวกเขาได้ถูกสร้างขึ้น โดยผู้เข้าร่วมแทนที่ศึกษาการดำเนินงาน ของหลักสูตรกำหนด หรือสอนวิธี เธอศึกษาวิธีสอนที่ใช้เพื่อดึงดูดเยาวชน disaffected ไม่เป็นเธอconceptualized นั้น แต่ ตามที่พวกเขาถูกสร้างขึ้น โดยครูผู้สอนในการศึกษา เธอถามคำถาม, "วิธี [] ทำงานกับครูเพลง disengaged นักเรียนซึ่งมีความยากลำบากกับการเรียนรู้ในโรงเรียนจะแสดงผ่านทรัพย disengagement andwithdrawal — ส่งเสริม inclusiveness ผ่านการพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง pedagogicปฏิบัติ? ... เรื่องที่ครูคิดว่า พวกเขาทำในการพัฒนา pedagogies รวมใน คืออะไรเรียนที่คนหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่ที่แยกได้อย่างไร" (นำ 62-63)ผู้โต้สมมติฐานจะยังเป็นหลักฐานในการสนทนาของเธอของเธอตัดสินใจใช้วิธีการแบบสร้างสรรค์นิยม Burnard ยอมรับว่า ที่เธอรายงานการประสบการณ์ครูสามไม่ทำจับภาพทั่วไปของความเป็นจริงที่สามารถตั้งค่าทั่วไปประชากรที่ใหญ่กว่า ค่อนข้าง เธอจนบัญชีครูเหล่านี้หลั่งไฟบนสอนกลยุทธ์ที่สามารถดัดแปลง โดยครูอื่น ๆ (ว่าเพลง หรือวัตถุอย่างอื่น) เพื่อเข้าถึงผู้เรียน disaffected

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในแง่ของอภิปรัชญา, Burnard (2008) การศึกษา (ตัวอย่างการศึกษา 1.2) เป็นตัวอย่าง
กระบวนทัศน์คอนสตรัคติในหลายวิธี ครั้งแรกที่นักวิจัยที่ได้รับอนุญาตแนวคิดที่
มีความสำคัญในการศึกษาจะโผล่ออกมาขณะที่พวกเขาได้รับการสร้างขึ้นโดยผู้เข้าร่วม.
แทนที่จะศึกษาการดำเนินงานของหลักสูตรที่กำหนดไว้หรือสอน
วิธีการปฏิบัติที่เธอเรียนการสอนที่ใช้ในการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนไม่พอใจที่เธอไม่ได้
แนวความคิดของพวกเขา แต่ค่อนข้างที่พวกเขาสร้างขึ้นโดยครูผู้สอนในการศึกษา เธอ
ถามคำถามว่า "[ไม่] ครูสอนดนตรี disengaged ทำงานกับนักเรียนที่มี
ปัญหากับการเรียนรู้ในโรงเรียนที่มีการแสดงออกผ่านการหยุดชะงักหลุดพ้น andwithdrawal ส่งเสริมความละม้ายคล้ายคลึงผ่านการพัฒนาสอนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การปฏิบัติ ... มันคืออะไรที่ครูคิดว่า ที่พวกเขาทำในการพัฒนาครุศาสตร์รวมใน
บริบทห้องเรียนที่คนหนุ่มสาวที่มีความเสี่ยงมากที่สุดของการยกเว้น? "(พี. 62-63).
สมมติฐาน ontological ของผู้เขียนนอกจากนี้ยังมีหลักฐานในการอภิปรายของเธอเธอ
ตัดสินใจที่จะใช้วิธีการคอนสตรัคติ Burnard ยอมรับว่ารายงานของเธอ
ประสบการณ์สามของครูไม่ได้ผลในการจับภาพที่ชัดเจนของความเป็นจริงที่สามารถ
ทั่วไปที่จะมีประชากรที่มีขนาดใหญ่ แต่เธอระบุว่าบัญชีเหล่านี้ครูหลั่งน้ำตา
แสงในกลยุทธ์การสอนที่สามารถนำไปปรับใช้โดยครูคนอื่น ๆ (ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือ
วิชาอื่น ๆ ) เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้เรียนไม่พอใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในแง่ของอภิปรัชญา , burnard ( 2551 ) ทำการศึกษาตัวอย่าง 1.2 ) เป็นตัวอย่าง
คอนสกระบวนทัศน์ในหลายวิธี ครั้งแรกที่นักวิจัยให้ความสำคัญในการศึกษาแนวคิด
จะเป็นพวกเขาถูกสร้างขึ้นโดยผู้เข้าร่วม .
แทนที่จะศึกษาการกำหนดหลักสูตรหรือวิธีการสอน
,เธอศึกษาการปฏิบัติการใช้ต่อสู้ พวกเด็กเหลือขอไม่เธอ
แนวคิดเหล่านั้น แต่ค่อนข้าง พวกเขาถูกสร้างขึ้นโดย อาจารย์ ในการศึกษา เธอ
ถามคำถามว่า " [ ทำ ] ครูดนตรีทำงานกับนักเรียนที่มีปัญหากับตั้ง
การเรียนรู้ในโรงเรียนที่แสดงผ่านการหยุดชะงัก ,ความเป็นอิสระ andwithdrawal ส่งเสริม inclusiveness ผ่านการพัฒนาการปฏิบัติอาจารย์
โดยเฉพาะ . . . . . . . อะไรที่ครูคิดว่าพวกเขาทำในการพัฒนารวมในบริบท pedagogies
ห้องเรียนที่คนหนุ่มสาวที่มีความเสี่ยงมากที่สุดของการยกเว้น ? " ( pp . 62 - 63 ) .
ของผู้เขียนเองยังเห็นภววิทยาในการสนทนาของเธอเธอ
การตัดสินใจที่จะใช้รูปแบบการสอนวิธีการ burnard รับทราบรายงานของ
3 ครูประสบการณ์ไม่ส่งผลในการจับภาพที่ชัดเจนของความเป็นจริงที่สามารถ
ทั่วไปของประชากรขนาดใหญ่ แต่เธอระบุว่าครูบัญชีหลั่ง
แสงที่สามารถปรับกลยุทธ์การสอนโดยครูอื่น ๆ ( ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือ
วิชาอื่น ๆ ) เพื่อให้เข้าถึงผู้เรียนเหินห่าง