Thailand has built up a globally co

Thailand has built up a globally competitive electronics industry. Proactive government policies have played a pivotal role in creating an enabling environment for the development of that industry. The industry has acquired most of its technology through foreign direct investment (FDI) and trade.
Thailand adapted its policies to align with the rapidly changing trends in the global economy. Realizing that its domestic market is small with regard to supporting industrialization, Thailand shifted from an "import-substitution" to an "export-oriented" development strategy. This required liberalization of the economy to promote trade and investments.
The Board of Investment (BOI) of Thailand has provided incentives to, and developed support systems for, foreign investors. Some of the incentives provided include low tariffs for imports needed to produce electronic export units, loosening of controls on foreign ownership of firms and provision of essential infrastructure. Liberal economic policies, coupled with the availability of a skilled but low-cost labour force, made Thailand an important location for export-oriented production activities of transnational corporations (TNCs).
Having been established as an important destination for FDI, Thailand attempted to steer the FDI inflows into areas of national priority. The Government designed incentive schemes to channel investments into rural areas and into sectors of importance, such as agriculture and electronics.
In value terms, about $4.5 billion was invested in the electronics industry between 1986 and 2001. FDI continues to play an important role in technology transfer, financing and marketing of electronic products. Trade has also played an important role in the growth of the electronics industry. The industry currently accounts for more than 30 per cent of Thailand's total exports and employs about 300,000 workers. The main export items include hard disk drives (HDD) and parts, and integrated circuits (IC), which account for about 21 per cent and 20 per cent of total electronic exports, respectively. Thailand is the world's second major HDD producer (after Singapore).
Despite these successes in attracting FDI and the growth of exports of electronic products, the industry's activities are largely limited to assembly operations. There are indications of growing manufacturing capabilities, but the design and product development skills remain low. For this reason, the current policies of the Government focus on upgrading foreign technologies and promoting novel product development. This could increase Thailand's level of productivity to that of other competing nations.
The Government created several initiatives to promote technology transfer, diffusion and innovation. The National Science and Technology Development Agency (NSTDA) established the Industrial Consultancy Services in 1992 to promote the use of local and foreign technical consultants and facilitate the formation of alliances. In 1997, NSTDA set up the Software Park Thailand (SPT) to promote innovation and facilitate development of start- up firms. Furthermore, the Board of Investment also developed the Unit for Industrial
Linkage Development (BUILD) programme to encourage the development of support industries, strengthen linkages and help small and medium-sized contract manufacturers improve their productivity and facilitate cooperation between foreign and domestic firms. It is estimated that about $148 million worth of transactions took place in BUILD in 2001.
These policies have played a vital role in making Thailand a major manufacturer of electronic products and facilitated the acquisition of the skills needed to operate and manage production facilities to assemble intermediate and final electronic products. They have also played an important role in encouraging the development of local contract manufacturers and the transfer and development of technologies. The success stories of domestic companies such as Saim United Hi-Tech Limited, which successfully transformed itself from being a plastic toy manufacturer to being a global supplier of electronic keyboards after licensing technologies from a TNC and innovating further, and the Hana Microelectronics Group, which emerged as a global contract manufacturer of electronics, show the potential of Thai domestic firms in integrating themselves into the global economy.
Thailand is now redirecting its efforts to build the capacity needed to operate increasingly sophisticated assembly plants and generate novel processes and products. The initiatives currently being undertaken, such as the development of the Thailand IC Design Incubator and the hard disk drive cluster development project, signal commitment to promoting innovation and technology development in the industry. These initiatives could further ensure that Thailand does not remain a contract manufacturer but gradually moves up the value chain.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศไทยได้สร้างขึ้นอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกแข่งขัน นโยบายเชิงรุกของรัฐบาลได้เล่น pivotal role ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดใช้งานสำหรับการพัฒนาของอุตสาหกรรมนั้น อุตสาหกรรมได้มาส่วนใหญ่เทคโนโลยีการค้าและการลงทุนโดยตรงต่างประเทศ (FDI)ไทยปรับนโยบายให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตระหนักถึงว่าเป็นประเทศขนาดเล็กในแง่สนับสนุนทวีความรุนแรงมาก ไทยจากจากการ "นำเข้าแทน" กลยุทธ์การพัฒนา "มุ่งเน้นส่งออก" นี้จำเป็นต้องเปิดเสรีของเศรษฐกิจการส่งเสริมการค้าและการลงทุนคณะของการลงทุน (BOI) ของไทยได้ให้แรงจูงใจ และสนับสนุนการพัฒนาระบบสำหรับ นักลงทุนต่างประเทศ แรงจูงใจให้มีภาษีศุลกากรที่ต่ำสำหรับการส่งออกนำเข้าที่จำเป็นสำหรับการผลิตอิเล็กทรอนิกส์หน่วย คลายการควบคุมต่างประเทศเป็นเจ้าของบริษัทและการจัดโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น นโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยม ควบคู่กับความเป็นโลว์คอสต์ แต่ฝีมือแรงงาน กลายเป็นสถานสำคัญสำหรับกิจกรรมการผลิตที่มุ่งเน้นการส่งออกของบริษัทข้ามชาติ (TNCs) ประเทศไทยมีการก่อตั้งเป็นปลายทางที่สำคัญสำหรับ FDI ไทยพยายามคัดท้ายกระแสเข้า FDI เป็นพื้นที่สำคัญระดับชาติ รัฐบาลได้ออกแบบแผนงานสิทธิประโยชน์การลงทุนช่องทาง ในชนบท และ เป็นภาคสำคัญ เกษตรและอิเล็กทรอนิกส์ในแง่ของค่า ประมาณ 4.5 พันล้านเหรียญได้ลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่าง 1986 และ 2001 FDI ยังมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเทคโนโลยี การเงิน และการตลาดของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ค้าได้เล่นมีบทบาทสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมขณะนี้บัญชีสำหรับมากกว่าร้อยละ 30 ของการส่งออกรวมของไทย และใช้แรงงานประมาณ 300000 สินค้าส่งออกหลักได้แก่ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) และชิ้นส่วน และรวมวงจร (IC), ซึ่งมีอยู่ประมาณ 21 และร้อยละจำนวนร้อยละ 20 ของการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ตามลำดับ ประเทศไทยเป็นโลกที่สอง HDD โปรดิวเซอร์หลัก (หลังจากสิงคโปร์)แม้เหล่านี้ความสำเร็จในการดึงดูด FDI และการเติบโตของการส่งออกผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กิจกรรมของอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่จำกัดการดำเนินการแอสเซมบลี มีการบ่งชี้ของการเจริญเติบโตความสามารถในการผลิต แต่ทักษะพัฒนาออกแบบและผลิตภัณฑ์ยังคงต่ำ ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นในการอัพเกรดเทคโนโลยีต่างประเทศ และการส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์นวนิยาย นี้สามารถเพิ่มระดับของประเทศไทยทำกับประเทศอื่น ๆ แข่งขันรัฐบาลสร้างโครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี แพร่ และนวัตกรรม วิทยาศาสตร์แห่งชาติและสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยี (สวทช) สร้างงานบริการให้คำปรึกษาในปี 1992 ใช้ของในประเทศ และต่างประเทศที่ปรึกษาด้านเทคนิคการส่งเสริม และอำนวยความสะดวกในการก่อตัวของพันธมิตร ในปี 1997 สวทชตั้งค่าไทยการจอดซอฟต์แวร์ (SPT) ส่งเสริมนวัตกรรม และช่วยในการพัฒนาของบริษัทเริ่มต้นขึ้น นอกจากนี้ คณะพัฒนาหน่วยสำหรับอุตสาหกรรมโครงการพัฒนา (สร้าง) เชื่อมโยงการพัฒนาของอุตสาหกรรมสนับสนุน ส่งเสริมเสริมสร้างความเชื่อมโยง และช่วยผู้ผลิตสัญญาขนาดเล็ก และ ขนาดกลางเพิ่มผลผลิตของพวกเขา และสิ่งอำนวยความสะดวกความร่วมมือระหว่างบริษัทภายในประเทศ และต่างประเทศ มีประเมินว่า เกี่ยวกับ $148 ล้านคุ้มค่าของธุรกรรมที่เกิดขึ้นสร้างในปีค.ศ. 2001นโยบายเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตหลักของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และอำนวยความสะดวกซื้อของทักษะจำเป็นในการทำงาน และจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกผลิตประกอบผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์กลาง และสุดท้าย นอกจากนี้พวกเขายังได้เล่นมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาของผู้ผลิตท้องถิ่นสัญญา และโอนย้าย และพัฒนาเทคโนโลยี เรื่องราวความสำเร็จของบริษัทในประเทศเช่นเราสห Hi-Tech จำกัด ซึ่งสำเร็จเปลี่ยนตัวเองจาก ผู้ผลิตของเล่นพลาสติกเป็น ผู้จำหน่ายทั่วโลกของคีย์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์หลังจากเทคโนโลยีจาก TNC innovating เพิ่มเติม และฮานาไมโครอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่ม ที่เกิดเป็นสัญญาสากลผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ แสดงศักยภาพของบริษัทในประเทศไทยในการรวมตัวเองเข้าสู่เศรษฐกิจโลกประเทศไทยขณะนี้ได้เปลี่ยนทิศทางความพยายามในการสร้างกำลังการผลิตที่จำเป็นต้องมีโรงงานประกอบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และสร้างกระบวนการนวนิยายและผลิตภัณฑ์ โครงการปัจจุบันกำลังดำเนินการ เช่นการพัฒนาบ่มเพาะวิสาหกิจการออกแบบ IC ไทยและโครงการพัฒนาฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์คลัสเตอร์ สัญญาณมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม โครงการเหล่านี้สามารถเพิ่มเติมให้แน่ใจว่า ไทยยังคง เป็นผู้ผลิตสัญญา แต่ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นห่วงโซ่คุณค่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยได้สร้างขึ้นทั่วโลกในการแข่งขันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นโยบายของรัฐบาลในเชิงรุกได้มีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้การพัฒนาของอุตสาหกรรมว่า อุตสาหกรรมที่ได้รับมากที่สุดของเทคโนโลยีผ่านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการค้า.
ประเทศไทยดัดแปลงนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเศรษฐกิจโลก ตระหนักว่าตลาดในประเทศที่มีขนาดเล็กในเรื่องเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยเปลี่ยนจาก "ทดแทนนำเข้า" จะ "เน้นการส่งออก" ยุทธศาสตร์การพัฒนา ซึ่งการเปิดเสรีที่จำเป็นของเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน.
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แห่งประเทศไทยได้จัดให้มีแรงจูงใจที่จะพัฒนาและระบบการสนับสนุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ บางส่วนของแรงจูงใจให้รวมถึงอัตราภาษีที่ต่ำสำหรับการนำเข้าจำเป็นในการผลิตหน่วยการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์คลายการควบคุมในการเป็นเจ้าของต่างประเทศของ บริษัท และการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น นโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยมควบคู่กับความพร้อมของที่มีฝีมือ แต่ต้นทุนต่ำกำลังแรงงานที่ทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สำคัญสำหรับกิจกรรมการผลิตเน้นการส่งออกของ บริษัท ข้ามชาติ (บรรษัทข้ามชาติ).
มีรับการจัดตั้งขึ้นเป็นปลายทางที่สำคัญสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศในไทยพยายามที่จะคัดท้าย ไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปในพื้นที่ที่มีความสำคัญระดับชาติ รัฐบาลรูปแบบการออกแบบแรงจูงใจที่จะหาช่องลงทุนเข้ามาในพื้นที่ชนบทและเป็นภาคที่มีความสำคัญเช่นการเกษตรและอิเล็กทรอนิกส์.
ในแง่มูลค่าประมาณ 4.5 $ พันล้านลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างปี 1986 และปี 2001 การลงทุนโดยตรงยังคงมีบทบาทสำคัญในด้านเทคโนโลยี การโอนเงินและการตลาดของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ การค้านอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมขณะนี้บัญชีสำหรับมากกว่าร้อยละ 30 ของการส่งออกทั้งหมดของไทยและมีพนักงานประมาณ 300,000 คนงาน รายการที่ส่งออกหลัก ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) และชิ้นส่วนและวงจรรวม (IC) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 21 และร้อยละ 20 ของการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์รวมตามลำดับ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่อันดับสองของโลก (หลังจากสิงคโปร์).
แม้จะมีความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการเจริญเติบโตของการส่งออกของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์กิจกรรมของอุตสาหกรรมที่จะถูก จำกัด การดำเนินงานส่วนใหญ่จะประกอบ มีข้อบ่งชี้ของการเจริญเติบโตสามารถในการผลิตที่มี แต่การออกแบบและทักษะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันนโยบายของรัฐบาลมุ่งเน้นไปที่การอัพเกรดเทคโนโลยีจากต่างประเทศและส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวนิยาย ซึ่งอาจเพิ่มระดับของไทยผลิตที่ประเทศคู่แข่งอื่น ๆ .
รัฐบาลที่สร้างขึ้นหลายโครงการเพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพร่กระจายและนวัตกรรม วิทยาศาสตร์แห่งชาติและสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยี (สวทช) เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมบริการให้คำปรึกษาในปี 1992 เพื่อส่งเสริมการใช้ที่ปรึกษาทางเทคนิคในและต่างประเทศและอำนวยความสะดวกการก่อตัวของพันธมิตร ในปี 1997 สวทชตั้งค่าซอฟต์แวร์พาร์คประเทศไทย (SPT) เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการอำนวยความสะดวกในการพัฒนาของ บริษัท ที่เริ่มต้นขึ้น นอกจากนี้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนยังได้พัฒนาหน่วยสำหรับอุตสาหกรรมพัฒนาการเชื่อมโยง (BUILD) โปรแกรมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุนเสริมสร้างความเชื่อมโยงและช่วยให้ผู้ผลิตสัญญาขนาดเล็กและขนาดกลางเพิ่มผลผลิตของพวกเขาและความร่วมมือระหว่าง บริษัท ประเทศและต่างประเทศ
มันเป็นที่คาดว่าประมาณ $ 148,000,000 มูลค่าของการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นใน BUILD ในปี 2001
นโยบายเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตที่สำคัญของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และการอำนวยความสะดวกการซื้อกิจการของทักษะที่จำเป็นในการดำเนินการและการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิตที่จะรวบรวมกลาง และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สุดท้าย พวกเขายังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาของผู้ผลิตสัญญาท้องถิ่นและการถ่ายโอนและการพัฒนาของเทคโนโลยี เรื่องราวความสำเร็จของ บริษัท ในประเทศเช่นสยามยูไนเต็ดไฮเทค จำกัด ซึ่งเปลี่ยนที่ประสบความสำเร็จของตัวเองจากการเป็นผู้ผลิตของเล่นพลาสติกที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกของแป้นพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หลังจากที่เทคโนโลยีการออกใบอนุญาตจาก TNC และสร้างสรรค์ต่อไปและฮานาไมโครอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มซึ่ง กลายเป็นผู้ผลิตระดับโลกของสัญญาอิเล็กทรอนิกส์แสดงศักยภาพของ บริษัท ในประเทศไทยในการบูรณาการตัวเองลงในเศรษฐกิจโลก.
ประเทศไทยตอนนี้เปลี่ยนเส้นทางความพยายามที่จะสร้างความสามารถที่จำเป็นในการดำเนินงานโรงงานประกอบความซับซ้อนมากขึ้นและสร้างกระบวนการใหม่และผลิตภัณฑ์ ความคิดริเริ่มในปัจจุบันกำลังดำเนินการเช่นการพัฒนาของประเทศไทยออกแบบ IC บ่มเพาะและฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์โครงการพัฒนาคลัสเตอร์สัญญาณมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม โครงการเหล่านี้ยังสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่ผู้ผลิตสัญญา แต่จะค่อยๆเคลื่อนขึ้นห่วงโซ่คุณค่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศไทยได้สร้างขึ้นในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในการแข่งขันทั่วโลก นโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมที่ อุตสาหกรรมที่ได้รับมากที่สุดของเทคโนโลยีผ่านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ( FDI ) และการค้า .
ประเทศไทยปรับนโยบายให้สอดคล้องกับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในระบบเศรษฐกิจโลกรู้ตัวว่า ตลาดในประเทศมีขนาดเล็ก เกี่ยวกับ สนับสนุน อุตสาหกรรม ประเทศไทย เปลี่ยนจาก " นำเข้าทดแทน " ไปเป็น " ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ " ตอนนี้ต้องเปิดเสรีเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( บีโอไอ ) ประเทศไทยได้ให้สิ่งจูงใจเพื่อสนับสนุนและพัฒนาระบบสำหรับนักลงทุนต่างชาติบางส่วนของแรงจูงใจให้มีอัตราภาษีต่ำเพื่อนำเข้าที่จำเป็นในการผลิตหน่วยส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ , คลายการควบคุมบนเจ้าของต่างประเทศจัดหาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น บริษัท และ นโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยม บวกกับความพร้อมของแรงงานมีฝีมือ แต่ต้นทุนต่ำทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สำคัญสำหรับกิจกรรมการผลิตที่มุ่งเน้นการส่งออกของ บริษัท ข้ามชาติ ( TNCs ) .
มีขึ้นเป็นปลายทางที่สำคัญสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ไทยพยายามที่จะคัดท้าย FDI ไหลเข้าพื้นที่สำคัญแห่งชาติ รัฐบาลได้รับแรงจูงใจโดยช่องทางการลงทุนในเขตชนบท และในภาคส่วนที่สำคัญเช่นการเกษตรและเครื่องใช้ไฟฟ้า
ในแง่มูลค่าประมาณ $ 4.5 พันล้านดอลลาร์ถูกลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างปี 1986 และปี 2001 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังคงมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเทคโนโลยี เงินทุน และการตลาดของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ การค้ายังได้มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรมขณะนี้บัญชีสำหรับมากกว่าร้อยละ 30 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย และมีพนักงานประมาณ 300000 คนงาน สินค้าที่ส่งออกหลัก ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ( HDD ) และชิ้นส่วน และวงจรรวม ( IC ) ซึ่งบัญชีประมาณ 21 และร้อยละ 20 ร้อยละของการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ตามลำดับ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลกที่สอง ( หลังจาก
สิงคโปร์ )แม้จะมีความสำเร็จนี้ดึงดูดการลงทุน และการเจริญเติบโตของการส่งออกของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กิจกรรมของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะ จำกัด การประกอบ มีข้อบ่งชี้ของการเติบโต ความสามารถในการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์และพัฒนาทักษะอยู่ในระดับต่ำ . ด้วยเหตุผลนี้