Britain 1905-1918One government tha

Britain 1905-1918
One government that is often seen as an example of 'reforming' by introducing positive changes that really improve peoples' lives is the Liberal government in Britain of 1906-1914. Many historians label this period the beginning of the welfare state, but why did the Liberal government introduce its reforms?
Important Reforms - Summary
Some governments in history seem to have implemented changes that have particularly improved people's lives. For instance, Roosevelt's New Deal in America or the Labour government in Britain after the First World War. The dynamism and positive achievements of these governments make them look much better than the governments that came before or after them.
A study of poverty in 1901 by Seebohm Rowntree found that in a society where those who didn't work didn't eat, there were three times in people's lives when they were especially vulnerable:
 as a young child
 when they were old
 when they were sick or unemployed
After 1906, the Liberal government, with Lloyd George as Chancellor of the Exchequer, introduced reforms to help these three groups:
Children
 In 1906 local authorities were allowed to provide free school meals.

 The 1908 Children and Young Persons Act introduced a set of regulations that became known as the Children's Charter. This imposed severe punishments for neglecting or treating children cruelly. It was made illegal to sell cigarettes to children or send them out begging. Separate juvenile courts were set up, which sent children convicted of a crime to borstals, instead of prison.
Old Age
 In 1908 pensions were introduced for the over 70s, which gave them 5s a week, or 7s 6d to a married couple. Old people cried as they collected their pensions, and said: 'God bless Lord George'.
Workers
 In 1909 labour exchanges were set up to help unemployed people find work.
 The 1911 National Insurance Act was passed. Part 1 of the act gave people the right to free
medical treatment, and sick pay of 10s a week for 26 weeks in return for a payment of 4d a week. Part 2 of the Act gave people the right to unemployment pay (dole) of 7s 6d a week for 15 weeks in return for a payment of 21⁄2d a week.
Votes for Women
The First World War provided the first opportunity for women to take on traditional male jobs so it isn't surprising that in 1918 women over 30 were given the same political rights as men. But this change was not just a result of war - women had been campaigning for decades to be given the right to vote.
The campaign - the basics
‘Votes for women’ was part of a gradual improvement in women's rights that had been going on throughout the 19th century. The movement also campaigned for the right to divorce a husband, the right to education, and the right to have a job such as a doctor. Many women, however, saw the vote as the vital achievement that would give them a say in the laws affecting their lives.

The National Union of Women's Suffrage Societies - the Suffragists - was formed in 1897 and led by Millicent Fawcett. The group was made up of mainly middle-class women and campaigned peacefully. The organisation built up supporters in Parliament, but private members' bills to give women the vote all failed.
The Women's Social and Political Union - the Suffragettes - was formed in 1903 and led by Emmeline Pankhurst. Although this group was also middle class, it heckled politicians, held marches; members chained themselves to railings, attacked policemen, broke windows, slashed paintings, set fire to buildings, threw bombs and went on hunger strike when they were sent to prison. One suffragette, Emily Davison, ran out in front of the king's horse during the Derby of 1913 and was killed.
The East London Federation of Suffragettes - formed in 1914 by Sylvia Pankhurst - was made up of working- class women. This group concentrated on social reform, and rejected the violence of the WSPU.
A Suffragist rally
The NUWSS campaigned peacefully - here Mrs Fawcett is addressing a rally


ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ราชอาณาจักร 1905-1918รัฐบาลหนึ่งที่มักจะต้องเห็นเป็นตัวอย่างของ 'ปฏิรูป' โดยการแนะนำการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกที่ปรับปรุงชีวิตของคนจริงๆ เป็นรัฐบาลเสรีนิยมในสหราชอาณาจักร 1906-1914 นักประวัติศาสตร์หลายป้ายชื่อรอบระยะเวลานี้ต้นรัฐสวัสดิการ แต่ทำไมไม่ได้รัฐบาลเสรีแนะนำการปฏิรูปการปฏิรูปสำคัญ - สรุปบางรัฐบาลในประวัติศาสตร์ดูเหมือนจะ ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่มีชีวิตของผู้คนดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวอย่าง ของรูสเวลต์ใหม่สุดในอเมริกาหรือรัฐบาลแรงงานในสหราชอาณาจักรหลังจากสงครามโลกครั้งหนึ่ง สามัคคีและบวกความสำเร็จของรัฐบาลเหล่านี้ทำให้ดูดีกว่ารัฐบาลที่มาก่อน หรือหลัง จากนั้นการศึกษาความยากจนใน 1901 โดย Seebohm Rowntree พบว่า ในสังคมซึ่งผู้ที่ไม่ได้ทำงานไม่ได้กิน ได้สามครั้งในชีวิตของผู้คนเมื่อพวกเขาถูกโจมตีโดยเฉพาะ:คล้ายเป็นเด็กหนุ่มคล้ายเมื่อพวกเขาอายุคล้ายเมื่อพวกเขาเจ็บป่วย หรือคนตกงานหลัง 1906 รัฐบาลเสรีนิยม กับลอยด์จอร์จเป็นชานเซลเลอร์ของเดอะ Exchequer แนะนำการปฏิรูปเพื่อช่วยกลุ่มสามเหล่านี้:เด็กคล้ายใน 1906 หน่วยงานท้องถิ่นได้รับอนุญาตให้บริการเรียนฟรีคล้ายเด็ก 1908 และบัญญัติท่านยังแนะนำชุดของกฎระเบียบที่เป็นที่รู้จักกันเป็นกฎบัตรของเด็ก นี้บังคับลงโทษรุนแรงสำหรับ neglecting หรือรักษาเด็ก cruelly มันทำผิดกฎหมาย การขายบุหรี่ให้เด็กส่งออกขอทาน แยกศาลคดีเด็กและเยาวชนได้ตั้งค่าไว้ ซึ่งส่งเด็กประวัติอาชญากรรมเพื่อ borstals แทนการจำคุกวัยสูงอายุคล้ายในค.ศ. 1908 ชีพได้แนะนำสำหรับกว่า 70s ซึ่งให้พวกเขา 5s สัปดาห์ หรือ 7s 6 d คู่สมรส ร่วมร้องพวกเขารวบรวมชีพของพวกเขา และกล่าวว่า: "พระเจ้าอวยพรเจ้าจอร์จ'ผู้ปฏิบัติงานคล้ายในปี 1909 แลกเปลี่ยนแรงงานถูกตั้งค่าเพื่อช่วยให้ผู้คนตกงานหางานคล้ายพระราชบัญญัติการประกันภัยแห่งชาติ 1911 ถูกส่งผ่าน ส่วนที่ 1 พระราชบัญญัติให้คนดูฟรีรักษาพยาบาล และค่าจ้างป่วยของ 10s สัปดาห์ 26 สัปดาห์เพื่อแลกกับเงิน 4 วันต่อสัปดาห์ ส่วนที่ 2 พระราชบัญญัติให้คนดูการชำระเงินว่างงาน (ไร่) ของ 7s 6 d สัปดาห์ 15 สัปดาห์เพื่อแลกกับเงิน 21⁄2d สัปดาห์โหวตสำหรับผู้หญิงสงครามโลกครั้งหนึ่งให้โอกาสผู้หญิงใช้งานชายดั้งเดิมจึงไม่น่าแปลกใจที่ใน 1918 ผู้หญิง 30 กว่าได้รับสิทธิทางการเมืองเดียวกันเป็นคนแรก แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพียงผลของสงคราม - ผู้หญิงมีการ campaigning สำหรับทศวรรษที่ผ่านมาจะได้รับสิทธิในการลงคะแนนส่งเสริมการขาย - พื้นฐาน'โหวตสำหรับผู้หญิง' เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงสมดุลในสิทธิสตรีที่มีเกิดขึ้นตลอดศตวรรษที่ 19 การเคลื่อนไหวรณรงค์ยังถูกหย่าสามี สิทธิในการศึกษา และสิทธิในการได้งานเช่นแพทย์ ผู้หญิงหลายคน เห็นลงคะแนนเป็นความสำเร็จที่สำคัญที่จะให้พูดคำในกฎหมายที่มีผลต่อชีวิต อย่างไรก็ตามสังคม Suffrage ชาติสหภาพของผู้หญิง - Suffragists - ถูกก่อตั้งขึ้นใน 1897 และนำ โดย Millicent Fawcett กลุ่มที่ประกอบด้วยส่วนใหญ่ผู้หญิงชั้นกลาง และรณรงค์สงบ สร้างองค์กรสนับสนุนในรัฐสภา แต่สูตรส่วนตัวของสมาชิกให้ผู้หญิงลงคะแนนทั้งหมดล้มเหลวสตรีในสังคมและการเมืองสหภาพ - Suffragettes - ถูกก่อตั้งขึ้นใน 1903 และนำ โดยเรือนเบี้ย Emmeline แม้ว่ากลุ่มนี้ยังเป็นชั้นกลาง heckled นักการเมือง จัด marches สมาชิก chained เองกับรถลาก โจมตีทนายสมชาย ยากจน windows เฉือนภาพ ตั้งไฟอาคาร โยนระเบิด และไปหิว strike เมื่อพวกเขาถูกส่งไปจำคุก หนึ่ง suffragette, Emily Davison วิ่งออกหน้าม้าของพระราชาในดาร์บี้ของค.ศ. 1913 และถูกฆ่าสภา Suffragettes - ก่อตั้งขึ้นใน 1914 โดยซิลเวียเรือนเบี้ย - อีสต์ลอนดอนทำค่าของผู้หญิงทำงานเรียน กลุ่มนี้เข้มข้นในการปฏิรูปทางสังคม และปฏิเสธความรุนแรงของการ WSPUการชุมนุม SuffragistNUWSS การรณรงค์สงบ - นาง Fawcett กำลังแก้ปัญหาการชุมนุมที่นี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สหราชอาณาจักร 1905-1918
หนึ่งของรัฐบาลที่มักจะเห็นเป็นตัวอย่างของการ 'ปฏิรูป' โดยการแนะนำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกว่าจริงๆปรับปรุงชีวิตของประชาชนเป็นรัฐบาลเสรีนิยมในสหราชอาณาจักรของ 1906-1914 นักประวัติศาสตร์หลายคนติดป้ายเวลานี้จุดเริ่มต้นของรัฐสวัสดิการ แต่ทำไมรัฐบาลเสรีนิยมแนะนำการปฏิรูปของตนหรือไม่
การปฏิรูปที่สำคัญ - สรุป
รัฐบาลบางคนในประวัติศาสตร์ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการที่มีชีวิตของผู้คนที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งของ ยกตัวอย่างเช่นโรสเวลต์ใหม่ในอเมริกาหรือรัฐบาลในสหราชอาณาจักรหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ชีวิตชีวาและความสำเร็จในเชิงบวกของรัฐบาลเหล่านี้ทำให้พวกเขาดูดีกว่ารัฐบาลที่มาก่อนหรือหลังจากที่พวกเขา.
การศึกษาความยากจนในปี 1901 โดย Seebohm Rowntree พบว่าในสังคมที่ผู้ที่ไม่ได้ทำงานไม่ได้กินมี สามครั้งในชีวิตของผู้คนเมื่อพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยง:
เป็นเด็กหนุ่ม
เมื่อพวกเขาเก่า
เมื่อพวกเขาป่วยหรือผู้ว่างงาน
หลังจากปี 1906 ที่รัฐบาลเสรีนิยมกับลอยด์จอร์จเป็นเสนาบดีกระทรวงการคลัง, แนะนำการปฏิรูปที่จะช่วยให้เหล่านี้ สามกลุ่ม:
เด็ก
ใน 1906 เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้รับอนุญาตให้ให้อาหารโรงเรียนฟรี.

 1908 เด็กหนุ่มคนพระราชบัญญัติแนะนำชุดของกฎระเบียบที่กลายเป็นที่รู้จักกฎบัตรเด็ก ซึ่งกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับการละเลยหรือการรักษาเด็กอย่างโหดร้าย มันทำผิดกฎหมายที่จะขายบุหรี่ให้กับเด็กหรือส่งพวกเขาออกขอทาน แยกศาลเด็กและเยาวชนถูกตั้งขึ้นซึ่งส่งลูกการตัดสินของอาชญากรรมที่จะ borstals แทนการติดคุก.
อายุเก่า
ใน 1908 เงินบำนาญที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักในช่วงยุค 70 ซึ่งทำให้พวกเขา 5s สัปดาห์หรือ 7s 6d ที่จะเป็นคู่แต่งงาน คนเฒ่าคนแก่ร้องไห้ขณะที่พวกเขาเก็บรวบรวมเงินบำนาญของพวกเขาและกล่าวว่า. พระเจ้าอวยพรพระเจ้าจอร์จ '
แรงงาน
. 1909 ในการแลกเปลี่ยนแรงงานถูกตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยให้คนตกงานหางาน
พระราชบัญญัติประกันภัยแห่งชาติ 1911 ก็ผ่านไปได้ ส่วนที่ 1 ของการกระทำให้คนที่เหมาะสมที่จะเป็นอิสระ
ในการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายของการป่วย 10s ต่อสัปดาห์เป็นเวลา 26 สัปดาห์ในการตอบแทนสำหรับการชำระเงินของ 4d สัปดาห์ ส่วนที่ 2 ของพระราชบัญญัติให้คนที่เหมาะสมที่จะว่างงานจ่าย (กุศล) ของ 7s 6d สัปดาห์เป็นเวลา 15 สัปดาห์ในการตอบแทนสำหรับการชำระเงินของ 21/2d สัปดาห์.
โหวตสำหรับผู้หญิง
สงครามโลกครั้งที่ให้โอกาสแรกสำหรับผู้หญิงที่จะใช้ ในงานชายแบบดั้งเดิมดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ในปี 1918 ผู้หญิงกว่า 30 คนได้รับสิทธิทางการเมืองเช่นเดียวกับผู้ชาย แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลของสงคราม - ผู้หญิงที่ได้รับการรณรงค์มานานหลายทศวรรษที่จะได้รับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน.
แคมเปญ - พื้นฐาน
'โหวตสำหรับผู้หญิง' เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสิทธิของผู้หญิงที่ได้รับการเกิดขึ้นตลอด ศตวรรษที่ 19 การเคลื่อนไหวยังรณรงค์เพื่อสิทธิในการหย่าสามีสิทธิในการศึกษาและสิทธิในการมีงานทำเช่นแพทย์ ผู้หญิงหลายคน แต่เห็นการลงคะแนนเป็นความสำเร็จที่สำคัญที่จะให้พวกเขาพูดในกฎหมายที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา.

สหภาพแห่งชาติของสมาคมอธิษฐานผู้หญิง - suffragists - ถูกสร้างขึ้นในปี 1897 และนำโดย Millicent Fawcett กลุ่มที่ถูกสร้างขึ้นจากส่วนใหญ่ผู้หญิงชนชั้นกลางและรณรงค์อย่างสงบสุข องค์กรสร้างขึ้นสนับสนุนในรัฐสภา แต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของสมาชิกที่จะให้ผู้หญิงโหวตทั้งหมดล้มเหลว.
สตรีสังคมและสหภาพทางการเมือง - Suffragettes - ถูกสร้างขึ้นในปี 1903 และนำโดยเอมเมอลีเรือนเบี้ย แม้ว่ากลุ่มนี้ก็ยังเป็นคนชั้นกลางก็นักการเมือง heckled จัดขึ้นเดินขบวน; สมาชิกที่ถูกล่ามโซ่ตัวเองเพื่อรั้วโจมตีตำรวจยากจนหน้าต่างเฉือนภาพวาดจุดไฟเผาอาคารโยนระเบิดและไปตีหิวเมื่อพวกเขาถูกส่งตัวไปเรือนจำ หนึ่ง Suffragette เอมิลี่เดวิสันวิ่งออกไปข้างหน้าของม้าของกษัตริย์ในช่วงดาร์บี้ 1913 และถูกฆ่าตาย.
อีสต์ลอนดอนสภา Suffragettes - ที่เกิดขึ้นในปี 1914 โดยซิลเวียเรือนเบี้ย - ถูกสร้างขึ้นจากผู้หญิงชั้น working- กลุ่มนี้มีความเข้มข้นในการปฏิรูปสังคมและปฏิเสธการใช้ความรุนแรงของ WSPU.
ชุมนุม Suffragist
NUWSS รณรงค์อย่างสงบ - นาง Fawcett ที่นี่เป็นที่อยู่ชุมนุม


ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อังกฤษ 1905-1918
หนึ่งรัฐบาลที่มักจะเห็นเป็น ตัวอย่างของ ' ปฏิรูป ' โดยการแนะนำการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกว่าจริงๆปรับปรุงชีวิตประชาชนเป็นรัฐบาลเสรีนิยมในอังกฤษของ 1906-1914 . นักประวัติศาสตร์หลายคนฉลากระยะเวลาเริ่มต้นของรัฐสวัสดิการ แต่ทำไมรัฐบาลเสรีนิยมแนะนำการปฏิรูปของมัน

ที่สำคัญการปฏิรูป - สรุปบางรัฐบาลในประวัติศาสตร์ดูเหมือนจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงชีวิตของผู้คน ตัวอย่าง โรสเวลต์เป็นข้อเสนอใหม่ที่อเมริกา หรือ แรงงาน รัฐบาลอังกฤษหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 พลวัตและความสำเร็จในเชิงบวกของรัฐบาลเหล่านี้ทำให้พวกเขาดูดีกว่ารัฐบาลที่มาก่อน หรือ หลังจากพวกเขา
การศึกษาความยากจนใน 1901 โดย seebohm Rowntree พบว่า ในสังคมที่คนไม่ได้งาน ไม่ได้กิน มีครั้งที่สามในชีวิตของผู้คนเมื่อพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยง :

เป็นเด็กหนุ่มเมื่อพวกเขาได้รับเก่า
เมื่อเขาป่วยหรือว่างงาน
หลังจาก 1906 , รัฐบาล เสรีนิยม กับลอยด์จอร์จเป็น Chancellor ของกระทรวงการคลัง ,แนะนำการปฏิรูปเพื่อช่วยให้กลุ่มเด็ก :

ในปี 1906 ท้องถิ่นได้รับอนุญาตให้เรียนฟรีอาหาร .

 1908 เด็กและคนหนุ่มสาวทำ แนะนำชุดของกฎระเบียบที่กลายเป็นที่รู้จักในฐานะของเด็กต่อไป นี้กำหนดโทษรุนแรงสำหรับการละเลยหรือการรักษาเด็กที่โหดร้ายมันผิดกฎหมายที่จะขายบุหรี่ให้กับเด็กหรือส่งพวกเขาออกไปขอทาน แยกศาลเยาวชนได้จัดตั้งขึ้น ซึ่งส่งเด็กข้อหาอาชญากรรม สถานกักกันเยาวชน แทนที่จะเป็นคุก 

อายุเก่าใน 1908 บำนาญถูกแนะนำสำหรับกว่า 70 ซึ่งให้กิจกรรม 1 สัปดาห์ หรือ 7 6 กับคู่แต่งงาน คนแก่ร้องไห้ในขณะที่พวกเขาเก็บบำนาญของพวกเขาและกล่าวว่า ' พระเจ้าอวยพรพระเจ้าจอร์จ
'แรงงาน
ในปี 1909 แลกเปลี่ยนแรงงานได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยคนตกงานหางานทำ .
 1911 ประกันภัยพ.ร.บ. ที่ถูกส่งผ่าน ส่วนที่ 1 ของกฎหมายให้สิทธิรักษาพยาบาลฟรี
และจ่ายป่วยของ 10s เป็นเวลา 26 สัปดาห์ในการตอบแทนสำหรับการชำระเงินของ 4D เป็นสัปดาห์ส่วนที่ 2 ของพระราชบัญญัติให้คนที่เหมาะสมที่จะจ่ายการว่างงาน ( โดล ) เจ็ด 6 สัปดาห์สำหรับ 15 สัปดาห์ในการตอบแทนสำหรับการชำระเงินของ 21 ⁄ 2 สัปดาห์ สำหรับผู้หญิง

โหวตสงครามโลกครั้งที่หนึ่งให้โอกาสแรกสำหรับผู้หญิงที่จะใช้ในงานชายแบบดั้งเดิม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ในผู้หญิง 1918 กว่า 30 ได้รับเดียวกันสิทธิทางการเมืองเป็นผู้ชายแต่การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงผลของสงคราม - ผู้หญิงมีการรณรงค์มานานหลายทศวรรษที่จะได้รับสิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้ง หาเสียง - พื้นฐาน

'votes สำหรับผู้หญิง ' เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสิทธิของผู้หญิงที่ได้เกิดขึ้นตลอดศตวรรษที่ 19 การเคลื่อนไหวยังให้สิทธิที่จะหย่ากับสามี สิทธิในการศึกษาและสิทธิที่จะมีงานทำ เช่น แพทย์ ผู้หญิงหลายคน แต่เห็นคะแนนผลสัมฤทธิ์เป็นสำคัญที่จะให้พวกเขาพูดในกฎหมายที่มีผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา 

สหภาพแห่งชาติของสมาคมสิทธิผู้หญิงคือ suffragists - ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1897 และ LED โดยมิลลิเซนต์ ฟอว์เซตต์ . กลุ่มที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง และรณรงค์อย่างสงบองค์กรที่สร้างขึ้นสนับสนุนในรัฐสภา แต่สมาชิกส่วนตัวตั๋วให้ผู้หญิงโหวตทั้งหมดล้มเหลว
ผู้หญิง สังคม และการเมืองของสหภาพ - suffragettes - ก่อตั้งขึ้นในปี 1903 และนำโดยเอ็มเมอไลน์เรือนเบี้ย . แม้ว่ากลุ่มนี้ยังเป็นชนชั้นกลาง มัน heckled นักการเมือง จัดเดินขบวน ; สมาชิกล่ามโซ่ตัวเอง railings , ทำร้ายตำรวจ บุกเฉือน ภาพวาดหน้าต่างจุดไฟเผาอาคาร ขว้างระเบิด และไปประท้วงอดอาหาร เมื่อพวกเขาถูกส่งเข้าคุก หนึ่งซัฟฟราเจ็ต เอมิลี่ เดวิสัน วิ่งตัดหน้าม้าของกษัตริย์ในดาร์บีของ 1913 และถูกฆ่าตาย
ลอนดอนตะวันออกของสหพันธ์ suffragettes - ก่อตั้งขึ้นในปี 1914 โดยซิลเวียเรือนเบี้ย - ถูกสร้างขึ้นจากการทำงาน - ห้องผู้หญิง กลุ่มนี้เน้นการปฏิรูปสังคมและปฏิเสธความรุนแรงของฉัน WSPU .

ฉัน NUWSS เป็น suffragist แรลลี่รณรงค์อย่างสงบ - คุณนาย ฟอว์เซตต์ ที่อยู่ชุมนุม