Brief synthesisThe determination of

Brief synthesis
The determination of the size and shape of the world was one of the most important problems of natural philosophy since at least the 4th century B.C. The development, in the 16th century, of a measurement system called “triangulation” improved the ability to determine the size and shape of the world. In this system, long chains of triangles were measured, creating arcs that stretched along hundreds and thousands of kilometres.
The Struve Geodetic Arc is a chain of survey triangulations stretching from Hammerfest in Norway to the Black Sea, through ten countries and over 2,820 km. These are points of a survey, carried out between 1816 and 1855 by several scientists (surveyors) under leadership of the astronomer Friedrich Georg Wilhelm Struve, which represented the first accurate measuring of a long segment of a meridian. This helped to establish the exact size and shape of our planet and marked an important step in the development of earth sciences and topographic mapping. It is an extraordinary example of the development of sciences and of collaboration among scientists from different countries, as well as monarchs, for a common scientific cause.
Prior to the Struve Geodetic Arc, an arc of about 2,400 km had been measured in India by Lambton and Everest (completed in 1845), and a shorter arc in Lithuania by Carl Tenner. Struve, who was working at the Dorpat University (currently University of Tartu in Estonia), decided that he would establish an arc following a line of longitude (meridian) passing through the observatory of the university. The new long arc, later to be known as the Struve Geodetic Arc, was eventually created by connecting earlier, shorter arcs to the southern one measured by Tenner, and their extension to the north and south. The arc thus covered a line connecting Fuglenæs, near Hammerfest at the Arctic Ocean, with Staro-Nekrassowka, near Ismail, on the Black Sea shores, along more than 2,800 km. The original arc consisted of 258 main triangles with 265 main station points. The inscribed property includes 34 of the original station points established by Struve and his colleagues between 1816 and 1851 – four points in Norway, four in Sweden, six in Finland, two in Russia, three in Estonia, two in Latvia, three in Lithuania, five in Belarus, one in Moldova and four in Ukraine. Other preserved sites of the Arc are protected nationally.
These marks take different forms: small holes drilled in rock surfaces, and sometimes filled with lead; cross-shaped engraved marks on rock surfaces; solid stone or brick with a marker inset; rock structures (cairns) with a central stone or brick marked by a drilled hole; individual bricks; as well as especially constructed 'monuments' to commemorate the point and the arc.
The Struve Geodetic Arc is an extraordinary example of the interchange of human values in the form of international scientific collaboration, as well as an outstanding example of a technological ensemble.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สังเคราะห์โดยย่อการกำหนดขนาดและรูปร่างของโลกเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่สุดของปรัชญาธรรมชาติตั้งแต่น้อยศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์กาล การพัฒนา ในศตวรรษที่ 16 ของระบบการวัดที่เรียกว่า "ระบบสาม" การปรับปรุงความสามารถในการกำหนดขนาดและรูปร่างของโลก ในระบบนี้ โซ่ยาวของรูปสามเหลี่ยมได้วัด การสร้างส่วนโค้งที่ทอดยาวหลายร้อยและหลายพันกิโลเมตร Struve พิกัดโค้งเป็นห่วงโซ่ของการสำรวจ triangulations ยืดจากแฮมเมอร์เฟสต์ในนอร์เวย์ทะเลดำ ผ่านสิบประเทศ และมากกว่า 2,820 กิโลเมตร ของการสำรวจ ดำเนินการได้ระหว่าง 1816 และ 1855 โดยนักวิทยาศาสตร์หลาย (รังวัด) ภายใต้การนำของนักดาราศาสตร์ Friedrich จอร์จ Wilhelm Struve ซึ่งแสดงถึงการวัดความถูกต้องแรกของส่วนยาวของเส้นเมริเดียนเหล่านี้ได้ นี้ช่วยสร้างขนาดและรูปร่างของโลกของเรา และขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาของวิทยาศาสตร์โลกและการทำแผนที่ภูมิประเทศการทำเครื่องหมาย ตัวอย่างพิเศษของการพัฒนา ของวิทยาศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์จากประเทศต่าง ๆ รวมทั้งพระมหากษัตริย์ สำหรับสาเหตุทางวิทยาศาสตร์ได้ก่อนที่ Arc Struve พิกัด มีการวัดในอินเดียโดย Lambton เอเวอเรสต์ (เสร็จสมบูรณ์ใน 1845), และส่วนโค้งสั้นลงในลิทัวเนีย arc ของประมาณ 2,400 กิโลเมตร โดย Carl Tenner Struve ที่ทำงานที่มหาวิทยาลัยเน้น (ปัจจุบันมหาวิทยาลัยของทาร์ทูเอสโตเนีย), ตัดสินใจว่า เขาจะสร้างต่อการ arc เส้นของลองจิจูด (meridian) ผ่านหอดูดาวของมหาวิทยาลัย โค้งยาวใหม่ ในภายหลังเพื่อเป็นที่รู้จักเป็นที่ Arc Struve พิกัด ในที่สุดที่สร้าง โดยการเชื่อมต่อก่อนหน้านี้ สั้นอาร์คภาคหนึ่งวัด โดย Tenner และนามสกุลของพวกเขาทางเหนือและใต้ Arc จึงครอบคลุมสายเชื่อมต่อ Fuglenæs ใกล้แฮมเมอร์เฟสต์ที่มหาสมุทรอาร์กติก Staro Nekrassowka ใกล้ Ismail บนชายฝั่งทะเลสีดำ พร้อมกว่า 2,800 กิโลเมตร ส่วนโค้งเดิมประกอบด้วยสามเหลี่ยมหลัก 258 คะแนน 265 สถานีหลัก จารึกไว้รวม 34 จุดสถานีเดิมที่ก่อตั้ง โดย Struve และเพื่อนร่วมงานระหว่าง 1816 และ 1851 – สี่จุดในนอร์เวย์ สี่ในสวีเดน หกในฟินแลนด์ สองในรัสเซีย สามในเอสโตเนีย ลัตเวียสอง สามในลิทัวเนีย ห้าในเบลารุส หนึ่งในมอลโดวา และสี่ในยูเครน เว็บไซต์อื่น ๆ รักษาอาร์คได้ทั่วประเทศเครื่องหมายเหล่านี้ใช้รูปแบบต่าง ๆ: รูเล็ก ๆ เจาะพื้นผิวหิน และบางครั้งเต็มไป ด้วยลูกค้าเป้าหมาย ข้ามรูปรอยแกะสลักบนหินพื้น ไม้หินหรืออิฐ ด้วยการแทรกเครื่องหมาย โครงสร้างหิน (cairns) กับกลางหินหรืออิฐที่ทำเครื่องหมาย โดยเจาะรู อิฐแต่ละ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้าง 'อนุสาวรีย์' เพื่อเป็นจุดและโค้งStruve พิกัด Arc เป็นตัวอย่างพิเศษของการแลกเปลี่ยนของค่ามนุษย์ในรูปแบบของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์นานาชาติ เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของวงการเทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสังเคราะห์สั้น ๆ
การกำหนดขนาดและรูปร่างของโลกเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดของปรัชญาธรรมชาติอย่างน้อยตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 การพัฒนาในศตวรรษที่ 16 ของระบบการวัดที่เรียกว่า "สามเหลี่ยม" การปรับปรุงความสามารถในการตรวจสอบ ขนาดและรูปร่างของโลก ในระบบนี้โซ่ยาวของ triangles วัดสร้างโค้งที่ทอดยาวไปหลายร้อยหลายพันกิโลเมตร.
สตูป Geodetic Arc เป็นห่วงโซ่ของ triangulations สำรวจยืดจากแฮมเมอร์ในนอร์เวย์กับทะเลสีดำผ่านสิบประเทศและกว่า 2,820 กม. เหล่านี้เป็นจุดของการสำรวจที่ดำเนินการระหว่างปี 1816 และ 1855 โดยนักวิทยาศาสตร์หลายคน (สำรวจ) ภายใต้การนำของนักดาราศาสตร์ฟรีดริชวิลเฮล์เฟรดริกสตูปซึ่งเป็นตัวแทนของวัดที่ถูกต้องแรกของส่วนยาวของเส้นแวง นี้จะช่วยในการสร้างขนาดที่แน่นอนและรูปร่างของโลกของเราและแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาวิทยาศาสตร์โลกและการทำแผนที่ภูมิประเทศ มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ธรรมดาของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และการทำงานร่วมกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์จากประเทศที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับพระมหากษัตริย์สำหรับสาเหตุทางวิทยาศาสตร์ทั่วไป.
ก่อนที่จะมีสตูป Geodetic Arc โค้งประมาณ 2,400 กม. ได้รับการวัดในประเทศอินเดียโดยแลมบ์ตัน และเอเวอร์เรส (เสร็จสมบูรณ์ในปี 1845) และโค้งสั้นในลิทัวเนียโดยคาร์ล Tenner สตูปที่กำลังทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัย Dorpat (ปัจจุบันมหาวิทยาลัย Tartu เอสโตเนีย) ตัดสินใจว่าเขาจะสร้างความโค้งตามแนวเส้นแวง (เที่ยงวัน) กผ่านหอดูดาวของมหาวิทยาลัย โค้งยาวใหม่หลังจากนั้นจะเป็นที่รู้จักในสตูป Geodetic Arc ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นโดยการเชื่อมต่อก่อนหน้าโค้งสั้นไปอีกทางหนึ่งทางตอนใต้ของวัดโดย Tenner และส่วนขยายของพวกเขาไปทางทิศเหนือและทิศใต้ โค้งจึงครอบคลุมเชื่อมต่อสายFuglenæsใกล้แฮมเมอร์ในมหาสมุทรอาร์กติกกับ Staro-Nekrassowka ใกล้อิสมาอิลบนชายฝั่งทะเลสีดำพร้อมมากกว่า 2,800 กม. โค้งเดิมประกอบด้วย 258 รูปสามเหลี่ยมหลักที่มี 265 จุดสถานีหลัก สถานที่ให้บริการที่ถูกจารึกไว้รวม 34 จุดสถานีเดิมที่จัดตั้งขึ้นโดยสตูปและเพื่อนร่วมงานของเขาระหว่าง 1816 และ 1851 - สี่จุดในนอร์เวย์สี่ในสวีเดนหกในฟินแลนด์สองในรัสเซียสามในเอสโตเนียสองในลัตเวีย, สามในลิทัวเนีย ห้าในเบลารุสซึ่งเป็นหนึ่งในมอลโดวาและสี่ในยูเครน เว็บไซต์ที่เก็บรักษาไว้อื่น ๆ ของอาร์คได้รับการคุ้มครองในระดับประเทศ.
เครื่องหมายเหล่านี้ใช้รูปแบบที่แตกต่างกัน: รูเล็ก ๆ เจาะพื้นผิวหินและบางครั้งเต็มไปด้วยตะกั่ว; รอยแกะสลักบนพื้นผิวหินรูปกากบาท; หินหรืออิฐกับสิ่งที่ใส่เข้าไปเครื่องหมาย; โครงสร้างหิน (Cairns) ด้วยหินกลางหรืออิฐทำเครื่องหมายโดยการเจาะหลุม; ก้อนอิฐ; เช่นเดียวกับการสร้างโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'อนุเสาวรีย์' เพื่อเป็นการระลึกถึงจุดและอาร์.
สตูป Geodetic Arc เป็นตัวอย่างที่ไม่ธรรมดาของการแลกเปลี่ยนคุณค่าของมนุษย์ในรูปแบบของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศเช่นเดียวกับตัวอย่างที่โดดเด่นของวงดนตรีเทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป สังเคราะห์การกำหนดขนาดและรูปร่างของโลกเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดของปรัชญาธรรมชาติอย่างน้อยตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล การพัฒนาในศตวรรษที่ 16 ของระบบการวัด เรียกว่า " สามเหลี่ยม " การปรับปรุงความสามารถในการกำหนดขนาดและรูปร่างของโลก ในระบบนี้ โซ่ยาวของสามเหลี่ยมจำนวนการสร้างส่วนโค้งที่ยืดไปหลายร้อยหลายพันกิโลเมตรการ struve Geodetic Arc ห่วงโซ่ของการสำรวจ triangulations ยืดจาก Molde นอร์เวย์ไปยังทะเลสีดำผ่านสิบประเทศและกว่า 1965 km เหล่านี้เป็นจุดของการสำรวจ ดำเนินการระหว่าง 1520 1855 โดยนักวิทยาศาสตร์และหลาย ( สำรวจ ) ภายใต้การนำของ เกออร์ก วิลเฮล์ม ฟรีดริช นักดาราศาสตร์ struve ซึ่งแสดงการวัดที่ถูกต้องของส่วนยาวของเที่ยงวัน นี้ได้ช่วยสร้างแน่นอนขนาดและรูปร่างของโลกเรา และนับเป็นก้าวที่สำคัญในการพัฒนาของวิทยาศาสตร์โลกและแผนที่ภูมิประเทศ . มันเป็นตัวอย่างที่พิเศษของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และความร่วมมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์จากประเทศต่างๆ รวมทั้งพระมหากษัตริย์ สำหรับทั่วไปทางวิทยาศาสตร์สาเหตุก่อนที่จะ struve Geodetic อาร์ค อาร์ค ประมาณ 2 , 400 กิโลเมตร มีวัดในอินเดีย และเอเวอเรสต์ แลมบ์ตัน ( เสร็จ 2388 ) และสั้น อาร์คในลิทัวเนีย โดยคาร์ล เทนเนอร์ . struve คนที่ทำงานอยู่ใน dorpat มหาวิทยาลัย ( ปัจจุบันมหาวิทยาลัย Tartu ในเอสโตเนีย ) ตัดสินใจว่า เขาจะสร้างส่วนโค้งต่อเส้นลองจิจูด ( เส้นแวง ) ผ่านหอดูดาวของมหาวิทยาลัย โค้งยาวใหม่ ต่อมาเป็นที่รู้จักกันเป็น struve Geodetic อาร์ค ในที่สุดสร้างขึ้นโดยการเชื่อมต่อก่อนหน้านี้ โค้งสั้นไปยังภาคใต้ หนึ่งวัด เทนเนอร์ และขยายไปทางทิศเหนือและใต้ อาร์คจึงครอบคลุมเส้นเชื่อม fuglen æ s ใกล้กับ Molde ในมหาสมุทรอาร์คติก กับมสตาโร nekrassowka ใกล้อิส ในทะเลชายฝั่ง พร้อม มากกว่า 2 , 800 กิโลเมตร Arc เดิม จำนวน 258 สามเหลี่ยมหลัก ด้วยคะแนน 265 หลักสถานี ที่จารึกคุณสมบัติรวมถึง 34 สถานีเดิมจุดก่อตั้งขึ้นโดย struve และเพื่อนร่วมงานของเขาและระหว่าง 1520 1851 –สี่จุดสี่ในนอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ รัสเซีย หก สอง ใน สาม ใน เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย สองใน สามในห้าในเบลารุส หนึ่งใน สี่ ใน มอลโดวา และ ยูเครน อื่น ๆรักษาเว็บไซต์ของอาร์คได้รับการคุ้มครองในระดับประเทศเครื่องหมายเหล่านี้ใช้รูปแบบที่แตกต่างกัน : รูเล็ก ๆเจาะในพื้นผิวหิน และบางครั้งเต็มไปด้วยตะกั่ว ; ข้ามรูปสลักเครื่องหมายบนพื้นผิวหิน หินแข็ง หรืออิฐที่มีเครื่องหมายไม่เข้าใครออกใคร โครงสร้างหิน ( Cairns ) กับกลางหินหรืออิฐโดยอิฐที่มีรูเจาะ ; บุคคล ตลอดจนสร้างอนุสาวรีย์ " " โดยเฉพาะ เพื่อระลึกถึงจุดและอาร์คการ struve Geodetic Arc เป็นตัวอย่างที่พิเศษของการแลกเปลี่ยนคุณค่าของมนุษย์ในรูปแบบของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์นานาชาติ รวมทั้งตัวอย่างที่โดดเด่นของชุดเทคโนโลยี