Then in the 1950s, a churchman call

Then in the 1950s, a churchman called Martin Luther King began to fight for the civil rights of black people. Groups of black people started to break the law, but not in a violent way. In 1955 in Montgomery, Alabama , A woman called Rosa Parrks bebame famous when she refused to give her seat on a bus to a white man. Then more black people refused to use the buses, and the bus companies lost a lot of money. Black people also started to go into ‘whites only’ restaurants.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากนั้น ในช่วงทศวรรษ 1950, churchman เรียกว่ามาร์ตินลูเธอร์คิงเริ่มต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองของคน กลุ่มคนเริ่มที่จะขัดต่อกฎหมาย แต่ ในการใช้ความรุนแรงไม่ 1955 ในมอนท์โก อลาบามา ผู้หญิงเรียกว่า bebame Parrks โรมีชื่อเสียงเมื่อเธอปฏิเสธที่จะให้เธอนั่งบนรถบัสเป็นคนขาว แล้ว คนอื่น ๆ ปฏิเสธที่จะใช้รถ และบริษัทเดินรถสูญเงินเป็นจำนวนมาก คนนอกจากนี้ยังเริ่มเข้าร้าน 'เฉพาะขาว'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากนั้นในปี 1950, นักบวชที่เรียกว่าพระมหากษัตริย์มาร์ตินลูเธอร์เริ่มที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิของคนผิวดำ กลุ่มของคนดำเริ่มที่จะผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้อยู่ในทางที่รุนแรง ในปี 1955 ใน Montgomery ผู้หญิงเรียกว่า Rosa Parrks bebame ที่มีชื่อเสียงเมื่อเธอปฏิเสธที่จะให้เธอนั่งอยู่บนรถบัสที่จะเป็นคนขาว จากนั้นคนดำมากขึ้นปฏิเสธที่จะใช้รถบัสและรถโดยสารของ บริษัท สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก คนดำก็เริ่มที่จะไปเป็น 'คนผิวขาวเท่านั้น' ร้านอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากนั้น ในปี 1950 , พระในโบสถ์ เรียกว่า มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เริ่มที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิของคนผิวดำ กลุ่มของคนผิวดำเริ่มแหกกฎ แต่ไม่ใช่ในทางที่รุนแรง ในปี 1955 ใน Montgomery , Alabama , ผู้หญิงชื่อ โรซา parrks bebame ที่มีชื่อเสียงเมื่อเธอปฏิเสธที่จะให้เธอนั่งบนรถบัสกับคนขาว แล้วคนผิวดำมากปฏิเสธที่จะใช้รถบัสและรถบัสบริษัทสูญเงินไปเยอะมาก ผู้คนก็เริ่มเข้าสู่ ' ไข่ขาวเท่านั้น

' ร้านอาหาร