Aggression and DominanceAssortments

Aggression and Dominance
Assortments of experimental and observational studies suggest that when differences in aggression are found, they tend to be in the direction of male aggressiveness, including greater verbal aggression in males than in females. Indeed, when Hyde (1986b) meta-analyzed 143 studies of gender variation in aggression, she found males more aggressive than females, with the largest effect in studies of physical aggression. In addition, Hyde found that the method of the study had an impact on the result, with naturalistic observations resulting in larger gender differences than did experimental studies. Eagly and steffen (1986) meta-analyzed 63 studies of aggression; they also found male-female differences in aggression and reported that the effect was larger in young compared with adult samples: The impact of higher levels of the personality trait of aggression in young males has powerful consequences for their survival-young men between 18 and 24 are overwhelmingly more likely to die than their female peers, with the vast majority of deaths among young people due to automobile accidents, homicide, and suicide (see Figure 11.4).
Do men have a more dominant personality than women? If aggressive behaviors are defined as dominance, then of course the answer is yes. If, however, leadership qualities, or controlling behaviors, or behaviors that resist control are included in children has primarily been studied in these sing-gender groups. In these interactions it is found that boys engage in more behaviors that are commonly thought to establish dominance, including interrupting, commanding and threatening, resisting the requests of others, and so on. Alternatively, girls take turns in conversation, make requests more politely, and agree with one another more often. These findings have also been documented in cross-cultural studies (Whiting & Edwards, 1988). A simple trait focus on gender and aggression may be misguided (Richardson & Hammock, 2007).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รุกรานและปกครองการจัดประเภทการศึกษาทดลอง และสังเกตการณ์แนะนำว่า เมื่อพบความแตกต่างในการรุกราน พวกเขามักจะอยู่ในทิศทางของ aggressiveness ชาย รวมถึงรุกรานมากกว่าวาจาในเพศชายมากกว่าในเพศหญิงกับ แน่นอน เมื่อไฮด์ (1986b) วิเคราะห์ meta 143 ศึกษาเพศการเปลี่ยนแปลงในการรุกราน เธอพบชายสูงกว่าเพศหญิง มีลักษณะพิเศษที่ใหญ่ที่สุดในการศึกษาทางกายภาพรุกรานขึ้น นอกจากนี้ ไฮด์พบว่า วิธีการศึกษาที่มีผลกระทบผล กับ naturalistic สังเกตในความแตกต่างเพศมีขนาดใหญ่กว่าได้ทดลองศึกษา Eagly และ steffen (1986) วิเคราะห์ meta 63 ศึกษารุกราน พวกเขายังพบความแตกต่างของชายหญิงในการรุกราน และได้รายงานว่า ผลไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับตัวอย่างผู้ใหญ่หนุ่มสาว: ผลกระทบของระดับสูงของติดบุคลิกของรุกรานในชายหนุ่มมีผลกระทบที่มีประสิทธิภาพสำหรับชายหนุ่มอยู่รอดของพวกเขาระหว่าง 18 และ 24 มี overwhelmingly แนวโน้มการตายมากกว่าหญิงกับเพื่อน ๆ ของเขา ด้วยส่วนใหญ่เสียชีวิตในหมู่คนหนุ่มสาวเนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์ฆาตกรรม และฆ่าตัวตาย (ดูรูปที่ 11.4) ชายมีบุคลิกภาพโดดเด่นมากขึ้นกว่าผู้หญิงหรือไม่ ถ้ามีกำหนดพฤติกรรมความก้าวร้าวเป็นครอบงำ แล้วแน่นอนคำตอบคือ ใช่ หลักการเรียนหาก อย่างไรก็ตาม เป็นผู้นำ คุณภาพ หรือควบคุมพฤติกรรม หรือพฤติกรรมที่ต่อต้านการควบคุม อยู่ในเด็ก ในกลุ่มสิงห์เพศเหล่านี้ ในการโต้ตอบเหล่านี้ มันจะพบว่า เด็กชายในลักษณะการทำงานเพิ่มเติมซึ่งโดยทั่วไปได้คิดว่า การสร้างการครอบงำ การรบกวน โซ และคุก คาม การต่อต้านการร้องขอของผู้อื่น และอื่น ๆ หรือ หญิงผลัดกันในการสนทนา ร้องขอให้สุภาพมาก และยอมรับกันมากขึ้น ผลการวิจัยเหล่านี้ได้รับเอกสารในการศึกษาวัฒนธรรม (Whiting และเอ็ดเวิร์ด 1988) ติดง่ายเน้นเพศและรุกรานอาจ misguided (ริชาร์ดสันและเปลญวน 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การรุกรานและการปกครอง
Assortments ของการศึกษาทดลองและสังเกตเห็นว่าเมื่อความแตกต่างในการรุกรานจะพบว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่ในทิศทางของความก้าวร้าวชายรวมทั้งความก้าวร้าวทางวาจามากขึ้นในเพศชายมากกว่าในเพศหญิง อันที่จริงเมื่อไฮด์ (1986b) เมตาวิเคราะห์ 143 การศึกษาของการเปลี่ยนแปลงทางเพศในการรุกรานเธอพบผู้ชายก้าวร้าวมากขึ้นกว่าเพศหญิงที่มีผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดในการศึกษาของการรุกรานทางกายภาพ นอกจากนี้ไฮด์พบว่าวิธีการของการศึกษามีผลกระทบต่อผลด้วยการสังเกตธรรมชาติที่เกิดขึ้นในความแตกต่างทางเพศมีขนาดใหญ่กว่าได้ศึกษาทดลอง Eagly และเตฟเฟน (1986) เมตาวิเคราะห์ 63 การศึกษาของการรุกราน; พวกเขายังพบความแตกต่างของชายหญิงในการรุกรานและมีการรายงานว่าผลมีขนาดใหญ่ในวัยหนุ่มสาวเมื่อเทียบกับกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่หนึ่งคน: ผลกระทบของระดับที่สูงขึ้นของลักษณะบุคลิกของการรุกรานในเพศชายหนุ่มมีผลกระทบที่มีประสิทธิภาพเพื่อความอยู่รอดหนุ่มคนระหว่าง 18 และ 24 จะนำโด่งแนวโน้มที่จะตายมากกว่าเพื่อนหญิงของพวกเขาด้วยส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตในหมู่คนหนุ่มสาวเนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์ฆาตกรรมและการฆ่าตัวตาย (ดูรูปที่ 11.4)
มนุษย์มีบุคลิกที่โดดเด่นมากกว่าผู้หญิง? ถ้าพฤติกรรมก้าวร้าวได้รับการกำหนดให้เป็นอำนาจแล้วแน่นอนคำตอบคือใช่ แต่ถ้าคุณภาพความเป็นผู้นำหรือพฤติกรรมการควบคุมหรือพฤติกรรมที่ต่อต้านการควบคุมจะรวมอยู่ในเด็กส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาในกลุ่มเหล่านี้ร้องเพลงเพศ ในการโต้ตอบเหล่านี้จะพบว่าชายส่วนร่วมในพฤติกรรมอื่น ๆ ที่มีความคิดร่วมกันที่จะสร้างการปกครองรวมทั้งขัดขวางการบังคับบัญชาและการคุกคามต่อต้านการร้องขอของผู้อื่นและอื่น ๆ หรือสาว ๆ ผลัดกันในการสนทนาให้มากขึ้นการร้องขออย่างสุภาพและเห็นด้วยกับคนอื่นบ่อยขึ้น การค้นพบเหล่านี้ยังได้รับการรับรองในการศึกษาข้ามวัฒนธรรม (ไวทิงและเอ็ดเวิร์ดส์, 1988) เน้นลักษณะที่เรียบง่ายกับเพศและความก้าวร้าวอาจจะเข้าใจผิด (ริชาร์ดและเปลญวน 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การรุกรานและการปกครอง
assortments ของการทดลองและสังเกตการณ์การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเมื่อความแตกต่างในการพบพวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่ในทิศทางของผู้แข็งขัน รวมทั้งวาจาก้าวร้าวมากขึ้นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง แน่นอน เมื่อไฮด์ ( 1986b ) Meta วิเคราะห์ 143 การศึกษาเพศการรุกรานเธอพบผู้ชายก้าวร้าวมากขึ้นกว่าผู้หญิงกับผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดในการศึกษาของความก้าวร้าวทางกาย นอกจากนี้ ไฮด์ พบว่าวิธีการของการศึกษามีผลกระทบต่อผล ด้วยการสังเกตในสภาพธรรมชาติส่งผลให้ความแตกต่างระหว่างเพศ มีขนาดใหญ่กว่าได้ศึกษาทดลอง eagly Steffen ( 1986 ) และ meta ข้อมูล 63 การศึกษาของการรุกราน ;นอกจากนี้ยังพบความแตกต่างในการรุกรานของชาย หญิง และ รายงานว่า ผลมีขนาดใหญ่ขึ้นในเด็กเมื่อเทียบกับตัวอย่างผู้ใหญ่ : ผลกระทบของระดับที่สูงขึ้นของบุคลิกภาพลักษณะของความก้าวร้าวในเด็กเพศชายมีผลที่มีประสิทธิภาพสำหรับการอยู่รอดของชายหนุ่ม ระหว่าง 18 และ 24 นำโด่งตายมากกว่าของเมียเพื่อนกับส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตของเด็กจากอุบัติเหตุรถยนต์ ฆาตกรรม และฆ่าตัวตาย ( ดูรูปที่ 11.4 ) .
ผู้ชายที่มีบุคลิกเด่นกว่าผู้หญิง ถ้าพฤติกรรมก้าวร้าวจะหมายถึงการปกครองแล้วแน่นอนคำตอบคือใช่ แต่ถ้าคุณภาพความเป็นผู้นำ หรือควบคุมพฤติกรรมหรือพฤติกรรมที่ต่อต้านการควบคุมจะรวมอยู่ในเด็กมีหลักได้รับการศึกษาในเหล่านี้ร้องเพลงกลุ่มเพศ ในการโต้ตอบเหล่านี้พบว่า เด็กมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่มักคิดว่าการสร้างการปกครอง รวมทั้งรบกวน การสั่ง และการคุกคามต่อต้านการร้องขอของผู้อื่น เป็นต้น อีกวิธีหนึ่งคือ สาวผลัดกันในการสนทนาขอเพิ่มเติม สุภาพ และเห็นด้วยกับคนอื่นบ่อย ๆ การค้นพบนี้ได้รับการบันทึกไว้ในการศึกษาข้ามวัฒนธรรม ( whiting & Edwards , 1988 ) เน้นคุณลักษณะที่ง่ายในเพศและความก้าวร้าว อาจจะเข้าใจผิด ( ริชาร์ดสัน&เปลญวน (

)