Thailand is the second-largest econ

Thailand is the second-largest economy in Southeast Asia, after Indonesia. Its per capita GDP (US$5,390) in 2012, however, ranks in the middle of Southeast Asian per capita GDP, after Singapore, Brunei, and Malaysia. On 19 July 2013 Thailand held US$171.2 billion in international reserves, the second-largest in Southeast Asia (after Singapore). Thailand ranks second in Southeast Asia in external trade volume, after Singapore.
The nation is recognized by the World Bank as "one of the great development success stories" in social and development indicators. Despite a low per capita gross national income (GNI) of US$5,210and ranking 89th in the Human Development Index (HDI), the percentage of people below the national poverty line decreased from 65.26 percent in 1988 to 13.15 percent in 2011, according to the NESDB's new poverty baseline.
Thailand's unemployment rate is low, reported as 0.9 percent for the first quarter of 2014. This is due to a large proportion of population working in subsistence agriculture or on other vulnerable employment (own-account work and unpaid family work).
Thai household debt in 4quarter 2015 amounted to 11 brillion baht, 81.5 percent of GDP.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศไทยมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากอินโดนีเซีย GDP ต่อหัว (สหรัฐอเมริกา $5,390) ใน 2012 แต่ อันดับกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อหัว GDP สิงคโปร์ บรูไน และมาเลเซีย วันที่ 19 2556 กรกฎาคม ประเทศไทยจัดขึ้นสงวน 171.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในประเทศ ใหญ่อันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หลังจากสิงคโปร์) ประเทศไทยติดอันดับที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปริมาณการค้าภายนอก หลังจากสิงคโปร์ประเทศเป็นที่ยอมรับ โดยธนาคารโลกเป็น "หนึ่งของเรื่องราวความสำเร็จของการพัฒนาที่ดี" ในสังคมและพัฒนาตัวชี้วัด แม้ มีความต่ำมวลรวมต่อหัวรายได้ประชาชาติ (GNI) ของ US$ 5, 210and จัดอันดับสเตียในมนุษย์พัฒนาดัชนี (ต), เปอร์เซ็นต์ของคนที่อยู่ใต้เส้นความยากจนแห่งชาติลดลงจากร้อยละ 65.26 1988 ร้อยละ 13.15 ใน 2011 ตามพื้นฐานความยากจนใหม่ของสศช.อัตราการว่างงานของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำ รายงานไตรมาสแรกของปี 2557 ร้อยละ 0.9 นี่คือเนื่องจากสัดส่วนขนาดใหญ่ของประชากรที่ทำงาน ในปกครอง หรือจ้างอื่น ๆ (บัญชีเป็นเจ้าของงานและทำงานที่ครอบครัวยังไม่ได้ชำระ)หนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2015 วนั 11 brillion ร้อยละ 81.5 ของ GDP

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยเป็นประเทศที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย GDP ต่อหัวของมัน (US $ 5,390) ในปี 2012 แต่อันดับในช่วงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ GDP ต่อหัวหลังจากที่สิงคโปร์, บรูไนและมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2013 ประเทศไทยจัดขึ้น 171.2 $ พันล้านดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศของสหรัฐที่สองที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หลังจากสิงคโปร์) ประเทศไทยอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปริมาณการค้าภายนอกหลังจากที่สิงคโปร์.
ประเทศได้รับการยอมรับโดย World Bank "เป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จการพัฒนาที่ดี" ในการชี้วัดทางสังคมและการพัฒนา แม้จะต่ำรายได้ต่อหัวมวลรวมประชาชาติ (GNI) US $ 5,210and 89 การจัดอันดับในการพัฒนามนุษย์ดัชนี (HDI) ร้อยละของคนใต้เส้นความยากจนของประเทศลดลงจากร้อยละ 65.26 ในปี 1988 เป็นร้อยละ 13.15 ในปี 2011 เป็นไปตาม สศชของความยากจนพื้นฐานใหม่.
อัตราการว่างงานของไทยอยู่ในระดับต่ำรายงานเป็นร้อยละ 0.9 ในไตรมาสแรกของปี 2014 นี้เนื่องจากส่วนใหญ่ของประชากรที่ทำงานในการดำรงชีวิตการเกษตรหรือการจ้างงานที่มีช่องโหว่ (การทำงานของตนเองและการทำงานครอบครัวที่ค้างชำระ) อื่น ๆ .
หนี้ภาคครัวเรือนของไทยใน 4quarter 2015 จํานวน 11 Brillion บาทคิดเป็นร้อยละ 81.5 ของ GDP

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่อินโดนีเซีย GDP ต่อหัว ( US $ 5390 ) ในปี 2012 อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ GDP ต่อหัว หลังจากสิงคโปร์ บรูไน และมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2013 ประเทศไทย จัดขึ้นที่ US $ 171.2 พันล้านดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( จากสิงคโปร์ ) ไทยอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปริมาณการค้าภายนอกหลังจากสิงคโปร์ประเทศที่ได้รับการยอมรับจากธนาคารโลกเป็น " หนึ่งในดีพัฒนาเรื่องราวความสำเร็จ " ในตัวชี้วัด และพัฒนาสังคม แม้จะต่ำต่อหัวรายได้มวลรวมประชาชาติ ( GNI ) ของ US $ 5210and 89th ในการจัดอันดับดัชนีการพัฒนามนุษย์ ( HDI ) , เปอร์เซ็นต์ของคนด้านล่างเส้นความยากจนแห่งชาติลดลงจากร้อยละ 65.26 1988 13.15 เปอร์เซ็นต์ใน 2011 , ตามที่ สศช. ใหม่ของความยากจน พื้นฐานอัตราการว่างงานของไทยยังต่ำ รายงานเป็นร้อยละ 0.9 ในไตรมาสแรกของปี 2014 เนื่องจากมีขนาดใหญ่สัดส่วนของประชากรวัยทำงานในการดำรงชีวิตการเกษตรหรือการจ้างงานอ่อนแออื่น ๆ ( งานบัญชีและงานครอบครัวค้างชำระ )หนี้ครัวเรือนไทยใน 4quarter 2015 จำนวน 11 brillion บาท ร้อยละ 81.5 ของ GDP